ค่าหัว5หมื่น-ล่าหน.แก๊งปล้นฆ่าน้องสส.

จนมุมอีก1-แฉแผนล่าเหยื่อหน้าแบงก์


จับเป็นได้อีก 1 ล่าอีก 1 แก๊งปล้นฆ่าน้องส.ส.โคราช ผบช.ภาค 3 ซัดทอดพวกอีกคนที่หลบหนีเป็นหัวหน้าแก๊งและเป็นคนยิง ยอมรับร่วมกันปล้นมาหลายคดี แฉพฤติกรรมร่วมกันปล้นมาหลายท้องที่ พฤติกรรมคือเฝ้ารอหน้าแบงก์เห็นใครใช้รถหรูลงไปเบิกเงินจะตามแล้วปล้น ล่าสุดจะไปเช่าบ้านที่ภูเขียว ผ่านมาเห็นเหยื่อเลยลงมือ ผบช.ภาค3เตือนประชาชนระมัดระวัง

จากกรณีนายทรงศักดิ์ พิทยาภรณ์ อายุ 48 ปี น้องชายนายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ อดีตส.ส.เขต อ.ด่านขุนทด พรรคไทยรักไทย ในขณะเข้าไปเบิกเงินสดจำนวนหนึ่งแสนบาท ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาด่านขุนทด เสียชีวิต ส.ต.อ.มานิตย์ นารถสูงเนิน ผบ.หมู่ สภ.อ.ด่านขุนทด ได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะติดตามจับโจร และแก๊งโจร คือ นายสมศักดิ์ อุ้มบุญ อายุ 33 ปี ถูกส.ต.อ.มานิตย์ยิงเสียชีวิตขณะต่อสู้กัน ส่วนนายสุชาติ ผิวละออง อายุ 35 ปี เพื่อนร่วมแก๊งสามารถแหกวงล้อมหลบหนีไปได้ พร้อมเงินสดจำนวนหนึ่ง

"ร่วมกันจับผู้ต้องสงสัย"


ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 3 พ.ย. ที่ห้องประชุมชั้นสอง อาคารสำนักงานกองอำนวยการสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมา พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภาค 3 และพล.ต.ต.อำนาจ อันอาตย์งาม ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายเอกราช เหลาอ่อน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 หมู่ 3 ต.ท่าบุญมี กิ่ง อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี พร้อมของกลางรถเก๋งยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีบรอนซ์ทอง เลขทะเบียน สจ-1854 กทม. แต่ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม ศศ-4652 กทม. อาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวน 30 นัด กล้องส่องทางไกล ยี่ห้อมิมอลต้า และเงินสดจำนวน 118,000 บาท

ผบช.ภาค 3 เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงสกัดจับผู้ต้องสงสัย ซึ่งมีพยานแวดล้อมที่เห็นพิรุจต้องสงสัย รถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ เลขทะเบียนปลอม ศศ-4652 กทม. ขับไป-มาในช่วงเกิดเหตุ จึงทำการปิดล้อมตามเส้นทาง จนสามารถจับกุมนายเอกราชได้ในช่วงหัวค่ำวันที่ 2 พ.ย. ก่อนควบคุมตัวมาขยายผล นายเอกราชให้การรับสารภาพและให้การเป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ โดยยอมรับว่าได้ร่วมกับนายสุชาติ ผิวละออง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 10 ต.สำเภาลูน อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และใช้อาวุธปืนยิงนายทรงศักดิ์ พิทยาภรณ์ อายุ 48 ปี เสียชีวิต และส.ต.อ.มานิตย์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส

"ร่วมมือกันปล้นหลายพื้นที่"


นายเอกราช รับว่าร่วมกับนายสุชาติ และนายสมศักดิ์ ออกตระเวนประกอบเหตุหลายพื้นที่คือ 1.เมื่อวันที่ 8 มี.ค.49 เวลาประมาณ 14.00 น. ได้ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนยิง นายมาโนช แก้วเขียว อายุ 29 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 40 หมู่ 5 ต.บ้านสระ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เสียชีวิต ได้เงินสดไปจำนวน 200,000 บาท เหตุเกิดในท้องที่ สภ.อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี

2.เมื่อวันที่ 14 ก.ค. เวลาประมาณ 13.00 น. ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนยิง นายคัชพงษ์ พรรณธีระชาติ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/1 หมู่ 5 ต.หนองสาหร่าย อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เสียชีวิต ได้เงินสดไปจำนวน 1,400,000 บาท เหตุเกิดท้องที่สภ.อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี

3.เมื่อวันที่ 28 ก.ค. เวลาประมาณ 14.00 น. ได้ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนยิง นายบรรเลง ผาสุกยืด อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/14 หมู่ 4 ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง เสียชีวิต ได้เงินสดไปจำนวน 956,370 บาท ท้องที่สภ.อ.แกลง จ.ระยอง

"เลือกผู้เสียหายแต่งตัวดีใช้รถแพง"


4.เมื่อวันที่ 26 ก.ย. เวลาประมาณ 10.00 น. ได้ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนยิง นายเมษา เขียวยิ่ง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1 หมู่ 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เสียชีวิต ได้เงินสดไปจำนวน 150,000 บาท เหตุเกิดที่สภ.อ.หนองแค จ.สระบุรี

5.เมื่อประมาณปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ได้ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย เป็นผู้หญิงได้รับบาดเจ็บ ได้เงินสดไปจำนวน 200,000 บาท เหตุเกิดที่จ.อ่างทอง

พล.ต.ท.สถาพร กล่าวต่อไปว่า พฤติการณ์ของคนร้ายแก๊งนี้ ประกอบเหตุอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย นายสุชาติ หัวหน้าแก๊ง จะเป็นคนนัดแนะ วางแผน ให้สมาชิกออกมาตระเวนประกอบเหตุ จะจอดรถดูลาดเลาตามหน้าธนาคาร หากพบเหยื่อที่แต่งกายดี ใช้รถยนต์ราคาแพง ขึ้นไปเบิกถอนเงินสด ก็จะสะกดรอยติดตาม หากได้จังหวะหรือโอกาส นายสุชาติจะใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย และชิงเงินสด โดยมีนายสมศักดิ์ อุ้มบุญ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งหลบหนี นายเอกราช คนร้ายที่ถูกจับกุมเป็นคนคอยดูต้นทางหรือชี้เป้า โดยใช้กล้องส่องทางไกล จากนั้นส่งสัญญาณให้ประกอบเหตุ เมื่อได้เงินสดมาก็จะแบ่งกันตามภาระหน้าที่ ใครเสี่ยงมากก็จะได้รับมาก ส่วนสาเหตุที่เลือกเอาพื้นที่ในเขต อ.ด่านขุนทด ประกอบเหตุนั้น คนร้ายแก๊งนี้ได้มาเช่าบ้านที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ขณะที่ขับรถผ่านมา เห็นโอกาสเหมาะจึงวางแผนมาประกอบเหตุ

"พบอุปกรณ์โจรกรรมในรถเพียบ"


ผบช.ภาค 3 กล่าวอีกว่า จากการตรวจค้นในรถยนต์ของคนร้ายพบเครื่องมือที่ใช้ในการโจรกรรมจำนวนมาก มีทั้งขวาน, แชลง, แม่แรง, ฆ้อน และยังมีเครื่องนอน เสบียงกรังเตรียมพร้อม ชนิดที่ว่าค่ำไหนนอนนั้น และทั้งหมดไม่มีอาชีพ หาเลี้ยงชีพโดยการตระเวนปล้นทรัพย์ การติดตามนายสุชาติคนร้ายที่หลบหนี เจ้าหน้าที่ได้ทำเต็มความสามารถ แต่ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงพลบค่ำ เราจึงต้องเซฟชีวิตเจ้าหน้าที่ด้วย อย่างไรก็ตาม เราได้วางกำลัง และออกติดตามคนร้ายตามเส้นทางที่จะใช้หลบหนี ไม่ว่าจะเป็นภูมิลำเนาเดิม คนใกล้ชิด และตามสถานีขนส่ง คาดว่าคงจะหลบหนีไปได้ไม่ไกล ล่าสุด ศาลจังหวัดสีคิ้ว ได้ออกหมายจับนายสุชาติแล้ว ตามหมายจับ จ.223/2549 ลงวันที่ 3 พ.ย.49

ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ คนร้ายเป็นบุคคลอันตราย มีอาวุธปืนครอบครอง สามารถฆ่าได้ทุกคน จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน แจ้งเบาะแส ให้เจ้าหน้าที่ทราบ โดยสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 โทร.0-4425-5275-83 ตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา 0-4424-2485 และเบอร์มือถือ 08-1921-9991 ถ้าสามารถชี้เบาะแสจนสามารถจับกุมได้ จะมีรางวัลนำจับห้าหมื่นบาท เราจะไม่จับตาย ถ้าคนร้ายยอมมอบตัวแต่โดยดี และขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน ถ้าหากมาเบิก-ถอนเงิน หรือพกเงินสดจำนวนมาก ต้องมีคนมาเป็นเพื่อน และใช้ความระมัดระวังด้วย การจับครั้งนี้เราไม่ได้ดีใจ แต่เสียใจที่ไม่สามารถปกป้องชีวิตและทรัพย์สินพี่น้องประชาชนได้ ตนจะดำเนินการทุกข้อหาที่คนร้ายกระทำผิด และช่วยเหลือเยียวยาให้กำลังใจ ส.ต.อ.มานิตย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อไป


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์