คุก3ปีเสี่ยขาว-เจ้าของ บ.เอฟเฟค


คนละ 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา คดีเพลิงนรกซานติก้าผับ ส่งผลดับ 67 ศพ เจ็บนับร้อย ส่วนนักร้องวงเบิร์นรอด

เมื่อเวลา 9.00 น. วันนี้(20 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 301 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านพิพากษาคดีเผาซานติก้าผับ ที่อัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือเสี่ยขาว ผู้บริหารซานติก้าผับ นายธวัชชัย ศรีทุมมา ผอ.ฝ่ายปฏิบัติการ นายพงษ์เทพ จินดา ผจก.ฝ่ายบันเทิง นายวุฒิพงศ์ ไวลย์ลิกรี ผจก.ฝ่ายการตลาด นายสราวุธ อะริยะ นักร้องวงเบิร์น ผู้จุดพลุไฟ บริษัท โพกัสไลท์ ซาวน์ซิสเต็ม จำกัด ซึ่งรับจ้างติดตั้งการทำเอฟเฟค ซานติก้าผับ และนายบุญชู เหล่าสีนาท กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท โพกัสไลท์ฯ เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานผู้ใดทำให้เกิดเพลิงไหม้เป็นเหตุให้ผู้อื่นทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและเป็นอันตรายกับชีวิตผู้อื่น , ผู้ใดกระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย , ผู้ใดกระทำการให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และผู้ใดกระทำการให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 225 , 291, 300, 390  และกระทำผิด พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 มาตรา 16/1, 16/3.27 และ 28/1 ฐานเป็นผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการปล่อยปละละเลยให้บุคคลซึ่งอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปในสถานบริการ และปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ มาตรา 291

กรณีเมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค. 51 ต่อเนื่องวันที่ 1 ม.ค. 52 พวกจำเลยได้กระทำการโดยประมาท ปราศจากความระมัดระวัง  จัดให้มีงานรื่นเริงให้บริการจำหน่ายอาหารสุรา เครื่องดื่ม การแสดงดนตรีรวมทั้งการแสดง แสง สี เสียง ในโอกาสฉลองเทศกาล วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ภายในตัวอาคารซานติก้าผับ ย่านเอกมัย ซึ่งภายในตัวอาคารไม่มีแบบแปลนแผนผังอาคารติดตั้งแสดงไว้ ไม่มีป้ายบอกทางหนีไฟ และไม่ได้ติดตั้งไฟฉุกเฉินให้มีจำนวนเพียงพอที่จะสามารถเปิดส่องสว่างแก่ลูกค้าเพื่อการหลบหนีออกจากตัวอาคารได้สะดวกและปลอดภัย โดยอาคารมีพื้นที่ให้บริการลูกค้าที่สามารถจุคนได้ไม่เกิน จำนวน 500 คน แต่ขณะเกิดเหตุมีลูกค้าเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 คน โดยจำเลยที่ 4 ได้จุดพลุไฟที่บริเวณหน้าเวที ซึ่งมีความสูงประมาณ 5 เมตร จนเกิดลูกไฟขึ้นไปชนเพดานเวที เป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นที่บริเวณเพดานเวทีและภายในตัวอาคารเป็นเหตุให้ลูกค้าผู้เข้าไปใช้บริการ ในอาคารถึงแก่ความตาย 67 คน ได้รับอันตรายสาหัส 32 คน ได้รับอันตรายแก่กาย 71 คน โดยจำเลย 1 ให้การปฏิเสธอ่างว่า ขณะเกิดเหตุไม่ได้เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทไวท์ แอนด์บราเธอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจร้านซานติก้าผับ ส่วนจำเลยที่ 6 และ 7 ต่อสู้คดีว่าเพลิงที่ลุกไหม้ไม่ได้เกิดจากเอฟเฟค

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานเห็นว่า  การกระทำของจำเลยที่ 1,6 และ 7 เป็นการกระทำโดยประมาณเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฏหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 291 อันเป็นบทหนักสุด ให้จำคุกจำเลยที่ 1 และ 7 จำนวน 2 ปี และปรับจำเลยที่ 6 จำนวน 2 หมื่นบาท แม้จำเลยที่ 1 จะให้เงินช่วยเหลือทายาทผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บแล้วเป็นเงิน 3,394,800 บาท แต่การที่จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้บริหารสถานบริการซึ่งเป็นอาคารสาธารณะที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้อาคารเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานบริการจะต้องมีระบบความปลอดภัยเกี่ยวกับอัคคีภัย เพื่อให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานความปลอดภัยขั้นพื้นฐานตามกฏหมาย แต่จำเลยที่ 1 กลับไม่ยอมปฏิบัติตามกฏหมายเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้ประกอบการรายอื่น อันเป็นการปกป้องสังคมและประชาชนผู้ใช้บริการตามสถานบริการ จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 7 ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2-5 และให้จำเลยที่ 6-7 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 4-6 เป็นเงินรายละ 1,540,000 บาท พร้อมทั้งให้โจทก์ร่วมที่ 7-8 เป็นเงินรายละ 2,040,000 บาท

ภายหลังนายวิสุข หรือ เสี่ยขาว เปิดเผยสั้นๆ ว่า  ยังไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษา และจะยื่นอุทธรณ์แน่นอนตามความเป็นจริงที่ปรากฏ โดยในวันนี้ได้ใช้เงินสดจำนวน 1 ล้านบาทเป็นหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี

ทั้งนี้ บรรยากาศการฟังคำพิจารณาคดี มีบรรดาผู้เสียหาย และญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ซานติก้าผับ ซึ่งเป็นโจทก์ร่วมในคดีมาร่วมฟังคำพิพากษากว่า 100 คน จนแน่นห้องพิจารณา โดยผู้เสียหายบางราย กล่าวว่า ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยน้อยไป คงต้องยื่นอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลลงโทษจำคุกมากกว่าเดิม


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์