คาร์ปาร์ก-ซีทีเอ็กซ์-ราเกซ-ฮั้วประมูล กทม. ใช่ว่าจะหายเข้ากลีบเมฆ

คาร์ปาร์ก-ซีทีเอ็กซ์-ราเกซ-ฮั้วประมูล กทม. ใช่ว่าจะหายเข้ากลีบเมฆ

นางเยาวเรศ ชินวัตร และนายอลงกรณ์ พลบุตร

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 12 เมษายน 2549 15:36 น.

ท่ามกลางอุณหภูมิทางการเมือง และอากาศที่ร้อนแรงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ข้อมูลข่าวสารที่เปลี่ยนแปลงกันแบบวันต่อวันจนต้องจับตาดูกันอย่างไม่กะพริบ อาจทำให้บางคนหลงลืมคดีความสำคัญๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการเตือนความจำ ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ รับอาสาติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญต่างๆ เหล่านั้นมารายงานให้ทุกท่านได้ทราบกันในโอกาสนี้

กรณีการทุจริตเรียกรับสินบน 300 ล้านบาท เพื่อวิ่งเต้นประมูลโครงการก่อสร้างลานจอดรถ คาร์ปาร์ก สนามบินสุวรรณภูมิ ถือเป็นคดีสำคัญคดีแรกที่ยังคงต้องจับตาดู เพราะหลังจาก นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัติย์ ออกมาแฉข้อมูล ทำเอานางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตผู้นำรัฐบาล ถึงกับออกมาดิ้นพล่าน และนำมาสู่การฟ้องร้องไปกลับกันหลายคดี ไม่ว่าจะเป็นคดีที่นายอลงกรณ์ แจ้งความเอาผิดนางเยาวเรศต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฐานเรียกรับสินบน

ขณะที่ นางเยาวเรศฟ้องกลับกล่าวหานายอลงกรณ์ใช้เอกสารเท็จ แถมฟ้องหมิ่นประมาทนายลัทธพล เกษโกทิน ประธานกรรมการบริษัท ลัทธเฟอร์ไทย จำกัด เจ้าของวีซีดีฉาว โดยล่าสุดศาลมีคำสั่งให้ยุติคดีย่อยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อรอฟังคำพิพากษาในคดีหลักที่มีพยานหลักฐานชุดเดียวกันคือ คดีที่นางเยาวเรศยื่นฟ้องนายอลงกรณ์เป็นจำเลยในความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม ซึ่งขณะนี้ศาลมีคำสั่งรับคดีรับคดีไว้เพื่อพิจารณาแล้ว

อีกคดีที่ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญ ของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร คือ คดีบริษัท อินวิชั่น จำกัด ทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 ของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ว่ากันว่ามีนักการเมืองเข้าไปมีเอี่ยวรับส่วนแบ่งหลักพันล้าน ล่าสุดสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า การประสานขอพยานหลักฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตจากประเทศสหรัฐอมริกา โดยยื่นหนังสือผ่านทางสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยไปครั้งแล้วครั้งเล่า จนป่านนี้เรื่องยังเงียบไม่มีการตอบสนองแต่อย่างใด ทำให้เกิดความสงสัยว่า สาเหตุของความล่าช้าเกิดที่ฝั่งสหรัฐอเมริกา หรือความไม่จริงใจที่จะสืบหาหลักฐานของฝ่ายไทยกันแน่

ถัดมาเป็นการติดตามตัวนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี ผู้ต้องหาร่วมกันยักยอกทรัพย์กว่า 10,000 ล้านบาท และกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลับจากประเทศแคนาดา ล่าสุดหลังจากที่ศาลอุทธรณ์แคนาดา มีคำสั่งให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามที่รัฐบาลไทย นายราเกซได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลฎีกาแคนาดาแล้ว ซึ่งระหว่างนี้ศาลฎีกากำลังพิจารณา โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน

ทั้งนี้ ตามกฎหมายแคนาดา ศาลจะอนุญาตให้ยื่นฎีกาเฉพาะคดีที่มีความสำคัญต่อสาธารณะ หรือกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัย หรือเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่สำคัญเท่านั้น ทำให้คดีนี้มีความเป็นไปได้ว่าคำร้องของนายราเกซ อาจไม่เข้าข่ายนอกจากนี้ การที่ศาลฎีกามีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวนายราเกซยังเป็นการส่งสัญญาณอย่างหนึ่งด้วยว่าศาลฎีกาอาจจะไม่อนุญาตให้นายราเกซฎีกา และหากเป็นเช่นนั้น รัฐบาลไทยจะสามารถรับตัวนายราเกซได้ทันทีภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ศาลฎีกาแคนาดามีคำสั่ง

ส่วนคดีฮั้วประมูล 16 โครงการก่อสร้างสะพาน ถนน อุโมงค์ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งล่าสุด ชุดสอบสวนร่วมระหว่าง อัยการสำนักงานคดีพิเศษ (ดีเอสแอล) กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สรุปสำนวนการสอบสวน และความเห็นกล่าวโทษ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และพวก ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ส่งมอบให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปแล้วคงจะต้องจับตาดูกันต่อไปว่า เมื่อมีคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหม่ขึ้นมาพิจารณา พยานหลักฐานของฝ่ายกล่าวหาที่ระบุว่ามีทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสารที่ยืนยันการความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างบุคคลในการร่วมกระทำผิด จะมีน้ำหนักเพียงใด หรือสุดท้าย ดีเอสแอล และ ดีเอสไอ จะกลายเป็นแค่เครื่องมือทำลายคู่แข่งทางการเมืองของพรรคไทยรักไทย เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ยังไม่รู้ว่าคดีทั้งหมดดังกล่าวข้างต้นจะลงเอยเช่นใด ที่สำคัญเมื่อมีความเคลื่อนไหวของคดีเกิดขึ้น ทีมข่าวอาชญากรรม จะติดตามนำมาเสนอ เพราะถือว่าทั้งหมดล้วนเป็นผลประโยชน์ของชาติ ที่ใครก็ตาม เกาะกินดังเช่นตัวเหลือบก็ขอให้มีอันเป็นไป ประสบแต่หายนะทั้งโคตร ทั้งตระกูล !

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์