ครูโหดกระทืบเด็กพิการสมองปางตาย-แม่น้ำตาตก

ครูโหดกระทืบเด็กพิการสมองปางตาย-แม่น้ำตาตก

ครูโหดกระทืบเด็กนักเรียนพิการสมองอ่วมถึงกระอักเป็นเลือด ต้องหามส่งไอซียู.แม่น้ำตาตก ผู้บริหารโรงเรียนกลับเพิกเฉย ซ้ำออกรับแทนครูแสบ เผยเคยใช้ความรุนแรงกับเด็กมาหลายครั้งแล้ว

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า กลุ่มนักท่องเน็ตต่างฮือฮาแห่เข้าชมเฟซบุ๊ค ชื่ออาจารย์ดี (ขอสงวนนาม)

ซึ่งโพสต์ข้อความ เรื่องครูโรงเรียนเด็กพิเศษแห่งหนึ่งในเมืองชัยภูมิ ทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนเด็กพิเศษ (พิการทางสมอง) จนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงกับกระอักเลือด จนญาติต้องช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือเป็นการด่วน และแชร์ข้อความต่อ ๆ กัน จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง

หลังได้ข้อมูลจึงลงพื้นที่สืบหาข้อมูลที่ รพ.ชัยภูมิ และได้รับการเปิดเผยจากเจ้าของเฟซบุ๊ค

ซึ่งเป็นผู้นำข้อมูลมาโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ว่าช่วงวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากมารดาของ ด.ช. เอ (นามสมมุติ ) เด็กนักรียนชั้น ม.1 โรงเรียนเด็กพิเศษดังกล่าวว่า ลูกชายถูกครูฝ่ายปกครองทำร้ายร่างกายด้วยการตบเตะ ลำตัว และชายโครง แล้วกระทืบซ้ำอีกหลายครั้ง เนื่องจากไม่พอใจที่ลูกชายนอนตื่นสาย ไม่ออกมาช่วยทำงานทำความสะอาดหอพัก หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวยังไม่พาเด็กไปส่งแพทย์ แต่กลับส่งตัวเด็กกลับบ้าน โดยอ้างว่าเป็นวันแม่อย่างหน้าตาเฉย เมื่อแม่ของเด็กไปสอบถามผู้บริหารโรงเรียนก็ถูกบ่ายเบี่ยง พูดข่มขู่ต่าง ๆ นานาว่าถ้านำความไปบอกผู้สื่อข่าวหรือแจ้งความตำรวจจะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทางโรงเรียนแต่อย่างใด

ด้านนางแอน (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี แม่ของ ด.ช.เอ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกชายเป็นเด็กพิการสติปัญญา
 
และเป็นเด็กนักเรียน "ทุน CCF ของมูลนิธิคุณพุ่ม” จึงเข้าเรียนที่โรงเรียนโสดศึกษาแห่งหนึ่งในชัยภูมิ โดยในช่วงวันแม่ที่ผ่านมาด้วยความคิดถึงลูกที่พิการทางปัญญาไม่สมประกอบ จึงได้ฝากเพื่อนบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงกันที่มีลูกเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันได้ช่วยรับลูกชายกลับมาบ้านด้วย แต่เมื่อเพื่อนบ้านนำลูกมาส่งตนก็พบว่า ลูกมีอาการซึมเหมือนไม่สบายจึงให้ทานยาแก้ปวดลดไข้แล้วให้นอนพักผ่อน

กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นพบว่าอาการของลูกทรุดหนักจนถึงกับอาเจียนเป็นเลือด และมีเลือดไหลออกมาจากปาก จมูก และทวารหนัก
 
หน้าซีดเผือดเหมือนคนใกล้ตาย ด้วยความตกใจกลัวลูกจะเสียชีวิต จึงรีบพาลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาลชุมชนในหมู่บ้าน พยาบาลเห็นเด็กมีอาการหนักมาก เพราะเสียเลือดจึงรีบประสานขอรถพยาบาลฉุกเฉินจาก รพ.บ้านเขว้า มารับตัวเด็กส่งต่อตัวไปรักษาตัว ในห้องไอซียู รพ.จังหวัดชัยภูมิ เป็นการด่วน เพราะเด็กมีอาการอ่อนเพลียจากการตกเลือดในช่วงท้องจำนวนมาก เบื้องต้นแพทย์พบ บริเวณใต้ชายโครงเป็นมีรอยเขียวช้ำขนาดใหญ่ เหมือนถูกตีด้วยของแข็งอย่างแรง แพทย์ต้องให้อ๊อกซิเยนทางสายยาง พร้อมส่งตัวเข้าห้องผ่าตัด เพื่อถ่ายเลือดที่ตกอยู่ในช่วงท้องออกและให้เลือดและน้ำเกลือ ก่อนให้นอนรักษาตัวในห้องไอซียู รพ.ชัยภูมิ

นางแอน กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุผู้บริหารโรงเรียนพยายามติดต่อขอไกล่เกลี่ย

โดยต่อรองไม่ให้ตนแจ้งความเอาผิดกับครูคนดังกล่าว อ้างว่าครูไม่ได้ตั้งใจ แต่เด็กดื้อวิ่งไปโดนครูหกล้มได้รับบาดเจ็บเอง ตนจึงยืนยันจะให้ทางโรงเรียนย้ายครูคนดังกล่าวออกจากโรงเรียน เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีก ผู้บริหารจึงขอให้ตนรับตัวเด็กกลับไปดูแลที่บ้านเอง แต่ตนไม่ยอมเพราะตั้งแต่เกิดเรื่องไม่เคยมีการขอโทษ หรือแสดงความรับผิดชอบใด ๆ เลย ตนไม่มีทางเลือก เพราะขณะนี้ก็มีโรคประจำตัวหลายโรคทั้ง โรคความดัน โรคไต และไทรอยด์ ไหนจะต้องออกหารับจ้างรายวันหาเลี้ยงลูกไปวัน ๆ เพียงลำพัง เนื่องจากพ่อเด็กได้แยกทางกับตนตั้งแต่ลูกอายุ 5 ขวบ ซ้ำตนต้องดูแลแม่ที่ป่วยเป็นอัมพาตทั้งตัวด้วย จึงไม่มีเวลาดูแลลูกและอยากให้ลูกได้มีความรู้อ่านออกเขียนได้บาง จึงยื่นขอเสนอว่าให้ย้ายครูคนดังกล่าว และขอให้รับลูกเข้าเรียนต่อด้วย

ล่าสุดลูกชายยังคงนอนพักฟื้นอยู่ที่ตึกฉุกเฉิน 8 ชั้น รพ.ชัยภูมิ เนื่องจากอาการยังไม่ปลอดภัย
 
ด้านครูในโรงเรียนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีครูคนใดกล้านำเรื่องดังกล่าวไปบอกใคร เพราะครูคนดังกล่าวเส้นใหญ่กลัวจะมีเรื่องกับผู้บริหาร และเมื่อสอบถามผู้ปกครองรายอื่นพบว่ามีเด็กนักเรียนถูกครูปกครองรายนี้ลงโทษด้วยวิธีการรุนแรงหลายครั้งแล้ว แต่ผู้ปกครองไม่กล้าออกมาเปิดเผยความจริง เพราะกลัวมีปัญหากับทางโรงเรียนแล้วลูกจะไม่มีที่เรียน ตนเพียงอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีตัวอย่าง และไม่อยากให้ครูทำโทษรุนแรงกับเด็ก ขณะที่ลูกชายไม่อยากมาโรงเรียน หวาดกลัวจะโดนทำร้ายซ้ำอีก.




ครูโหดกระทืบเด็กพิการสมองปางตาย-แม่น้ำตาตก


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์