ครูพละเผยนาทีเฉียดตาย ถูกแก๊งงานบวชรุมยำเก้าอี้ฟาดเจ็บสาหัส ชี้เลวร้ายมาก

     ครูหนุ่ย อายุ 26 ปี ครูพละศึกษาโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นจากงานบวชรุมทำร้ายในโรงเรียน เนื่องจากไม่พอใจกรณีขอให้เบาเสียงเครื่องขยายเสียงเนื่องจากมีการสอบภายในโรงเรียน โดยครูหนุ่ยได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา มีอาการบวมช้ำจากเลือดคลั่งต้องเข้าเฝือกอ่อน ขยับไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้ว แพทย์ให้พักรักษาตัว 1 สัปดาห์เพื่อรอดูอาการข้างเคียงก่อนตรวจวินิจฉัยอีกครั้งว่าจะต้องทำการรักษาอื่นใดร่วมด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ศีรษะ หลัง และลำตัว มีรอยช้ำจากการถูกชกต่อยและเก้าอี้ฟาดด้วย

ครูหนุ่ย เปิดเผยเหตุการณ์ในนาทีเฉียดตายว่า ในวันดังกล่าวตนกำลังคุมสอบอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคารเรียนหลังแรก ระหว่างนั้นได้ยินเสียงเอะอะโวยวายบริเวณด้านล่าง แต่ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น รู้เพียงอย่างเดียวว่าเสียงดังมาก คาดว่าน่าจะมีการทะเลาะวิวาทกันแต่ไม่รู้ว่ามีประเด็นจากการใช้เสียงในงานบวช ขณะครูทุกคนยังทำหน้าที่คุมสอบ มีกลุ่มผู้ก่อเหตุวิ่งขึ้นมาที่ห้องแรกซึ่งมีครูผู้หญิงเป็นคนคุมสอบแล้วกลุ่มดังกล่าวตบหน้าครูผู้หญิง

จากนั้นวิ่งมาที่ห้องที่ตนคุมสอบซึ่งอยู่ติดกัน ผู้ก่อเหตุถามตะคอกว่า "บวชไม่ได้ใช่ไหม ...ใช้เสียงไม่ได้ใช่ไหม"

ตนพยายามอธิบายให้ใจเย็นๆ เพราะเด็กกำลังสอบและเด็กนักเรียนไม่เกี่ยวอะไรด้วย ตนพยายามเกลี้ยกล่อมเพราะรู้ว่าผู้ก่อเหตุเมา แต่นอกจากไม่ยอมฟังแล้ว ผู้ก่อเหตุยังเข้ามารุมทำร้ายตน ทั้งชกต่อย เตะ ใช้เก้าอี้ฟาดเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น ทำให้ครูอีกคนที่คุมสอบอยู่ด้วยกันรีบพานักเรียนหนีออกไป เพราะต้องปกป้องดูแลความปลอดภัยให้นักเรียนก่อนเป็นอันดับแรก

"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเลวร้ายมาก เพราะว่าพื้นที่นี้เป็นสถานที่ราชการ เป็นวันที่นักเรียนกำลังสอบ จึงถือเป็นวันและเวลาที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ราชการ, ผู้เสียหายนอกจากเป็นบุคลากรในโรงเรียนที่เป็นผู้ชายแล้ว ยังมีคุณครูผู้หญิงและนักเรียน กับนักเรียนผู้หญิงที่ถูกลวนลามด้วย อีกประเด็นหนึ่ง คือ ผู้ก่อเหตุเข้ามาก่อเหตุแบบไม่มีเหตุผล จะมาอ้างว่าเมาจนขาดสตินั้นไม่ได้เด็ดขาด เพราะหากขาดสติจริง จะไม่สามารถขึ้นมาถึงบนชั้น 2 ได้ ดังนั้นการขึ้นมาก่อเหตุถึงชั้นบนได้แสดงว่าพวกผู้ก่อเหตุยังมีสติอยู่

ส่วนประเด็นที่ว่าวัดควรมีมาตรการอะไรเกี่ยวกับการใช้เสียงในงานบวชหรือไม่ ตรงนี้แม้ผมอยู่ในฐานะผู้เสียหายแต่ไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยว คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของวัดไปจัดการเอง ส่วนเรื่องการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ คงต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งมีแจ้งความไว้แล้วในฐานะโรงเรียนหรือสถานที่ราชการที่ได้รับความเสียหาย พร้อมกันนี้ผู้เสียหายที่เป็นรายบุคคลพร้อมไปให้ปากคำกับตำรวจทุกอย่าง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันร้ายแรงมากจนสร้างความหวาดผวาให้ทุกคนในโรงเรียน" ครูหนุ่ย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังครูหนุ่ยได้รับบาดเจ็บ มีผู้ส่งดอกไม้ และกระเช้าเยี่ยมไข้ มาเป็นกำลังใจให้จำนวนมาก โดยพบแจกันดอกไม้จาก นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการด้วย