คดีเตะหน้าสตอ. เสรีเดือด เด้งตร.ยโสฯยกทีม

จากกรณีนายสถิรพร นาคสุข นายก อบจ.ยโสธร ยกพวกบุก สภ.อ.เมืองยโสธร เพราะเข้าใจผิดคิดว่า ส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี ผบ.หมู่ ป.สภ.อ.เมืองยโสธร ทำร้ายลูกชาย ในระหว่างเข้าไประงับเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันหน้าเวทีคอนเสิร์ตบริเวณสวนสาธารณะพญาแถนเมื่อคืนวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าทันทีที่พบหน้านายอุดร สาระคำ ก็ใช้มือตบหน้า ส.ต.อ.อาทิตย์ จน พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ รัตนเรืองภิญโญ ผกก. และ พ.ต.ท.ปรีชา สารถี สวป. ต้องเข้ามาไกล่เกลี่ย โดยให้ ส.ต.อ.อาทิตย์ขอโทษ นายสถิรพร เพื่อยุติปัญหา แต่กลับถูกนายวิโรจน์ ใจพรมเมือง ที่ตามมาสมทบกับคณะนายสถิรพร เตะหน้าจนล้มทั้งยืน จนเรื่องบานปลายทำให้ตำรวจชั้นประทวนกว่า 200 นาย ไม่พอใจรวมตัวประท้วงหน้าโรงพัก เพื่อขอความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชานั้น

ความคืบหน้าการสางปมขัดแย้งระหว่างตำรวจชั้นประทวนกับผู้บังคับบัญชา

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.ย. นายวีระวิทย์ วิวัฒนวานิช ผวจ.ยโสธร ในฐานะประธาน กต.ตร.ยโสธร ได้เดินทางไปที่ บก.ภ.จ.ยโสธร เข้าประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.สุพรรณ ประเสริฐสม ผบก.ภ.จ.ยโสธร พ.ต.อ.ชาลี เทพา รอง ผบก.ภ.จ.ยโสธร พ.ต.อ.ปรีชา อากาศวิภาต รอง ผบก.ภ.จ.ยโสธร พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ รัตนเรืองภิญโญ ผกก.สภ.อ. เมืองยโสธร และ พ.ต.ท.ปรีชา สารถี สวป.สภ.อ.เมืองยโสธร เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและวางแนวทางแก้ไขปัญหา โดยกำชับให้ตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและเป็นธรรมทั้งผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหา และให้ตรวจสอบดูว่า ตำรวจมีความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ พร้อมทั้งเสนอแนะให้สับเปลี่ยนหน้าที่ของ ส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี เป็นการชั่วคราว
  

จากนั้น พล.ต.ต.สุพรรณ ประเสริฐสม ผบก.ภ.จ. ยโสธร เปิดเผยว่า

เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากอุบัติเหตและ ความไม่เข้าใจกันมากกว่า หลังเกิดเหตุผู้บังคับบัญชา ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามแก้ไขปัญหาอยู่ตลอด โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.ชาลี เทพา รอง ผบก.ภ.จ.ยโสธร เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แล้วรายงานให้ทราบภายใน 3 วัน ส่วนด้านการสร้างขวัญกำลังใจให้ตำรวจใต้บังคับบัญชานั้น ได้ทำการประชุมชี้แจงให้ทราบแล้ว และได้สั่งให้ พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ รัตนเรืองภิญโญ ผกก.สภ.อ.เมืองยโสธร และ พ.ต.ท.ปรีชา สารถี สวป. ที่อยู่ในเหตุการณ์ มาช่วยราชการที่ บก.ภ.จ.ยโสธร เป็นเวลา 30 วัน ซึ่งนายตำรวจทั้งสองนายก็สมัครใจมาช่วยราชการ เพื่อลดความขัดแย้งและเพื่อความสะดวกในการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.ปรีชา อากาศวิภาต รอง ผบก.ภ.จ.ยโสธร ไปรักษาการแทน ผกก.สภ.อ.เมืองยโสธร
 

ผบก.ภ.จ.ยโสธรกล่าวต่อว่า

ในส่วนการดำเนินคดีผู้ต้องหาที่ทำร้าย ส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี คือนายอุดร สาระคำ กับนายวิโรจน์ ใจพรมเมือง ทั้งคู่ได้เข้ามอบตัวแล้ว  นายอุดรให้การปฏิเสธ ตำรวจจะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งฟ้องตามกฎหมาย ส่วนนายวิโรจน์ให้การรับสารภาพ คาดว่าจะส่งฟ้องได้ในวันที่ 7 ก.ย.นี้ 

ได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และได้ติดตามและให้ความสำคัญต่อผู้ใต้บังคับบัญชามาโดยตลอดและเรื่องของมวลชนตำรวจด้วย ซึ่งตนได้สั่งให้ ผบก.ภจ.ยโสธร และรอง ผบก.แก้ไขปัญหา สถานการณ์ก็คลี่คลายดีขึ้นเป็นระยะๆ และยังมอบหมายให้ พล.ต.ต. อำนวย มหาผล รอง ผบช.ภ.3 เดินทางไปที่ จ.ยโสธร ใน วันที่ 7 ก.ย.นี้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหา  

ประชาชนส่งกระเช้าผลไม้ให้กำลังใจ

ขณะเดียวกัน นายสมหวัง จำปาหอม อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคมหาชน จ.ยโสธร และนายรังสันต์ คล่องแคล่ว เลขานุการ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว.ยโสธร ได้นำกระเช้าผลไม้ จำนวน 2 ชุด พร้อมกับป้ายเขียนข้อความว่า “ท่านเป็นตำรวจไทย มิใช่ทาสของอันธพาล ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ ลงชื่อ สมบูรณ์ ทองบุราณ” เพื่อมอบเป็นกำลังใจแก่ ส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี ผบ.หมู่ ป. แต่ไม่พบจึงมอบให้ พ.ต.อ.ปรีชา อากาศวิภาต รอง ผบก.ภ.จ.ยโสธร รับไว้แทน 

ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.ต.ท.รณรงค์ ยั่งยืน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า
 
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุพรรณ ประเสริฐสม ผบก.ภ.จ.ยโสธร พ.ต.อ.โรจนวัฒน์ รัตนเรืองภิญโญ ผกก. สภ.อ.เมืองยโสธร พ.ต.ท.สมเกียรติ จันทรมหา รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ปรีชา สารถี สวป. และ พ.ต.ต.พิจิต พิจารณ์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สภ.อ.เมืองยโสธร เจ้าของคดี ไปช่วยราชการที่ บช.ภ.3 เป็นเวลา 30 วัน และให้ พล.ต.ท.วราสิทธิ์ พรเลิศ ผบช.ภ.3 ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน รวมทั้งรายงานผลให้ทราบทุกระยะ โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบก.ภ.จ. ขอนแก่น ไปปฏิบัติราชการแทน ผบก.ภ.จ.ยโสธร
  

หลังทราบคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่ ตร.ภ.3 พล.ต.ต. สุพรรณ ประเสริฐสม ผบก.ภ.จ.ยโสธร ได้กล่าวว่า พร้อมปฏิบัติ ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา รอเพียงคำสั่งมาถึงก็จะไปรายงานตัวตามคำสั่งทันที

ด้านนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม ชี้แจงว่า

ได้รับรายงานข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้วว่าขณะนี้คนร้ายที่ทำร้าย ส.ต.อ.อาทิตย์ ได้เข้ามอบตัวแล้ว 2 คน และตำรวจได้แจ้งข้อหากับทั้ง 2 คนคือทำร้ายเจ้าพนักงานและดูหมิ่นเจ้าพนักงานแล้ว และได้กำชับว่าเหตุที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องสำคัญ ขณะนี้กำลังมีการตั้งกรรมการสอบสวนกันอยู่ จึงอยากจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย และไม่ควรเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ซึ่งท้ายสุดนางสาวกัญจนาแสดงความพอใจกับการชี้แจง แต่ยืนยันว่าจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดจนกว่าจะเกิดความกระจ่างว่ามีใครถูกลงโทษบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บังคับบัญชาที่ถูกระบุว่าเพิกเฉย รวมไปถึงตัวผู้กระทำ เพราะคนมักพูดกันว่าลูกหลานนักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติมักจะกร่าง จึงเห็นว่าเรื่องนี้ต้องดำเนินการให้เกิดความเหมาะสม