ข่มขืน ´แม่ชี´ วัย51 เป็นเมียนายทหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 03.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.)


ได้มีนายทหารยศ พ.ต. (ขอสงวนชื่อนามสกุล) อายุ 50 ปี สังกัดกองทัพบก ปัจจุบัน พักอยู่ที่บ้านย่านฝั่งธนบุรี พานางน้อย (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ภรรยา เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ณรงค์ ซิ้มสวัสดิ์ สารวัตรเวร สภ.อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีกับพระปลัดนิทัศน์ อาจาโร อายุ 34 ปี รองเจ้าอาวาสวัดพิกุลเงิน หมู่ 2 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยกล่าวหาว่า พระปลัดนิทัศน์ข่มขืนนางน้อยขณะบวชเป็นชีอยู่ที่วัดเดียวกันมานานกว่า 3 ปี

สอบปากคำนางน้อยให้การว่า เมื่อปี 2544


ขออนุญาตสามีไปบวชชีที่วัดพิกุลเงิน เนื่องจากต้องการถือศีลปฏิบัติธรรม ช่วงแรกไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ต่อมาประมาณเดือน มี.ค.2547 พระปลัดนิทัศน์มอบหมายให้ เข้าไปทำความสะอาดภายในกุฏิรวมทั้งให้นำอาหารไปส่ง ซึ่งก็ไม่ได้เอะใจอะไร


จนอยู่มาวันหนึ่งพระปลัดนิทัศน์สั่งให้ไปซื้ออาหารมาถวายเพลที่กุฏิ หลังจากฉันอาหารเสร็จพระปลัดนิทัศน์ได้ใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืน พยายามอ้อนวอนขอร้องเพื่อให้เห็นแก่พระพุทธศาสนา แต่พระปลัดนิทัศน์ ไม่ฟังเสียงปลุกปล้ำข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ พร้อมกับข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะนำเรื่องไปประจานให้เกิดความอับอายจึงได้แต่ปิดปากเงียบเรื่อยมา เพราะเกรงว่าหากเรื่องถูกเปิดเผย สามีซึ่งรับราชการเป็นนายทหาร ไปช่วยราชการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และลูกที่โตเป็นหนุ่มสาวแล้วจะเกิดความอับอาย ทำให้พระปลัดนิทัศน์ ย่ามใจเรียกไปข่มขืนเรื่อยมา เดือนละประมาณ 1-2 ครั้ง

นางน้อยให้การด้วยน้ำตาอีกว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ส.ค.


พระปลัดนิทัศน์เรียกให้ไปพบที่กุฏิพร้อมกับพยายามข่มขืนอีก จึงได้ขัดขืนพูดเตือนสติพระปลัดนิทัศน์ให้เลิกทำชั่ว พร้อมกับนำเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปเล่าให้หัวหน้าแม่ชีฟัง และขอสึกออกมาจากวัด เพราะเห็นว่าหากยังขืนอยู่ต่อไปชีวิตมีสภาพเหมือนตกนรกทั้งเป็น จากนั้นกลับไปพักอยู่กับสามีและลูกที่บ้านย่านฝั่งธนบุรี ตอนแรกคิดว่าจะเก็บเรื่องความทุกข์ใจทั้งหมดเอาไว้ในอกคนเดียว แต่ปรากฏว่ายังถูกพระปลัดนิทัศน์ตามจองเวรไม่เลิก โทรศัพท์ไปหาที่บ้านพูดในทำนองเยาะเย้ย บอกว่าขอโทษ และขอบคุณในทุกๆเรื่อง ด้วยความอึดอัดใจจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ลูกสาวฟัง ปรากฏว่าลูกสาวนำเรื่องไปฟ้องสามี ทำให้สามีเกิดความโกรธแค้นชักชวนลูกเขยเป็นนายตำรวจบุกไปพบพระปลัดนิทัศน์ที่วัดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ก.ย. 2549 ต่อว่าทำไมถึงทำเช่นนั้น แต่ด้วยความโมโหสามีชกหน้าพระปลัดนิทัศน์ไป 1 ครั้ง พระปลัดนิทัศน์จึงเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.อ.บางใหญ่ ตำรวจนำตัวสามีไปเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 100 บาท หลังกลับมาแล้วปรึกษาหารือเห็นว่าหากปล่อยไว้พระปลัดนิทัศน์จะก่อเหตุกับผู้หญิงรายอื่นอีก จึงพากันเข้าแจ้งความตำรวจให้ดำเนินคดี กับพระปลัดนิทัศน์จนถึงที่สุด

หลังสอบปากคำ พ.ต.ต.ณรงค์ ซิ้มสวัสดิ์ สารวัตรเวร เจ้าของคดี


รายงานให้ พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว ผบก.ภ. จ.นนทบุรี ทราบ เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขณะเดียวกันตำรวจได้หลักฐานเด็ดเกี่ยวกับคดีโดยนางน้อยยืนยันว่าขณะที่พระปลัดนิทัศน์ข่มขืน จำได้ว่าพระปลัดนิทัศน์มีไฝตรงปลายอวัยวะเพศ ต่อมาในช่วงสายวันเดียวกัน พล.ต.ต.คำรบ พร้อมพระธรรมกิตติมุนี เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี เดินทางไปที่วัดพิกุลเงิน สอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงให้การเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วงที่ผ่านมามีชาวบ้านพบเห็นผู้หญิงเดินเข้าออกกุฏิของพระปลัดนิทัศน์ไม่ซ้ำหน้า จนเป็นที่ติฉินนินทาของญาติโยมและพระลูกวัด จากนั้นกำลังตำรวจทั้งหมดบุกไปที่กุฏิของพระปลัดนิทัศน์ เมื่อพระปลัดนิทัศน์เห็นตำรวจถึงกับหน้าถอดสี ตำรวจจึงแจ้งข้อหาให้ทราบพร้อมกับให้เจ้าคณะจังหวัดทำพิธีสึก ก่อนจะควบคุมตัวไปดำเนินคดี


เบื้องต้นพระปลัดนิทัศน์


หรือชื่อจริงนายนิทัศน์ ทองเอี่ยม ให้การปฏิเสธ ต่อมาตำรวจนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง พร้อมกับขอตัวกลับมาควบคุมที่ สภ.อ.บางใหญ่ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ พร้อมกันนี้ ได้นำตัวอดีตรองเจ้าอาวาสไปตรวจค้นกุฏิหาหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวกลับมาควบคุม อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ถูกควบคุมอยู่ในห้องขัง มีญาติโยมจำนวนหนึ่งที่ยังเลื่อมใสศรัทธาในตัวอดีตรองเจ้าอาวาสบุกขึ้นไปบนโรงพัก ต่อว่าตำรวจและนางน้อยอย่างสาดเสียเทเสีย ก่อนจะทยอยกันกลับไป

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์