ขอเด็กจากวัดมาเลี้ยง สั่งแก้ผ้าปิดตาตบกันเองก่อนข่มขืนบังคับให้อมนกเขา

มูลนิธิคุ้มครองเด็กพาเด็กหญิงอายุ 12 ปี เข้าแจ้งความถูกพ่อบุญธรรมที่ขอจากพระมาเลี้ยงดู บังคับให้เด็กถอดเสื้อผ้าปิดตาตีกันเองจนพอใจก่อนอุ้มไปกระทำชำเรา ให้สลับกันใช้ปากสำเร็จความใคร่

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 14 มกราคม  นายมนตรี สินทวิชัย หรือ ครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก พา ด.ญ.กร (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ภูมอัควุฒิ โพธิ์ประสิทธิ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ประเวศ เพื่อแจ้งความว่า ด.ญ.กร (นามสมมุติ) ถูกนายประเวช ลิ้มชูวงศ์ ผู้เป็นนายจ้างล่วงเกินทางเพศ
 
ด.ญ.กรให้การว่า ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่พ่อแม่ซึ่งมีอาชีพทำไร่ข้าวโพดอยู่ที่ อ.พบพระ จ.ตาก

และได้เรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนรวมใจพัฒนา 5 จนถึงแค่ชั้นป.4 พ่อก็ให้ออกจากโรงเรียนมาช่วยทำไร่ข้าวโพด เนื่องจากทางบ้านฐานะยากจนไม่มีเงินส่งเสีย ต่อมาหลวงพ่อเฉลิม วัดโดนเมือง จ.นครราชสีมา ได้ให้เจ้าหน้าที่ของวัดมาขอรับตนและเด็กในหมู่บ้านไปอุปการะเลี้ยงดูที่วัดดังกล่าว พร้อมทั้งให้เข้าเรียนชั้น ป.4 อีกครั้งที่โรงเรียนมัธยมพุทธเกษตร หลังจากนั้นประมาณ 1 ปี ต่อมา หลวงพ่อเพิ่ม วัดบุญ ต.บ้านชวน อ.บำเน็ตณรงค์ จ.ชัยภูมิ  เข้ามาเลี้ยงอาหารเด็กๆในวัดโนนเมือง พร้อมทั้งขอตนกับเพื่อนอีก 6 คน ไปเลี้ยงดูอุปการะที่วัดบุญ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระหลวงพ่อเฉลิม พร้อมทั้งให้ตนกับเพื่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนบ้านโคตะกอ (ประชาสามัคคี)
 
ด.ญ.กร ให้การต่อว่า หลังจากนั้นอีก 1 ปีต่อมา ก็ได้มีนางแดง พักอาศัยอยู่ในจ.ชัยภูมิ และรู้จักกับหลวงพ่อทั้ง 2 รูป เข้ามาทำบุญที่วัด

ก่อนจะขอตนกับ ด.ญ.รักษ์ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี มาอุปการะเลี้ยงดู พร้อมทั้งส่งเสียให้เรียนหนังสือแทนเพื่อลดภาระหลวงพ่อเพิ่ม จนเวลาผ่านไป 1 เดือน นายประเวช ซึ่งเป็นญาติของนางแดง ได้เดินทางมาเยี่ยมนางแดงที่จ.ชัยภูมิ และขอตนกับ ด.ญ.รักษ์ มาเลี้ยงดูเป็นลูกบุญธรรม และจะส่งเสียให้เรียนหนังสือแทน พวกตนทั้งสองคนจึงได้มาอยู่กับนายประเวช ที่บ้านเลขที่ 12/85 หมู่บ้านเสรีวิลล่า แขวงสวนหลวง เขตประเวศ ตั้งแต่เดือน ก.ค.ปี 51 เป็นต้นมา
 
"หลังจากมาพักอยู่ที่กทม. นายประเวชก็ไม่ได้ส่งเสียให้พวกตนเรียนหนังสือแต่อย่างใด แต่ให้มาทำงานในฐานะคนรับใช้ จนกระทั่งวันหนึ่งในเดือนต.ค.51 ที่ผ่านมา ภรรยานายประเวช เดินทางไปต่างจังหวัด และนายประเวช กลับจากทำธุระมาถึงบ้านก็เห็นบ้านไม่สะอาด เลยทำโทษตนทั้งสองคน ด้วยวิธีให้ตบกันเอง แต่พวกตนตบกันไม่แรงตามที่นายประเวชต้องการ ก็โกรธจัดบังคับให้ตนทั้งสองคนถอดเสื้อผ้าออกให้เหลือแต่กางเกงในแล้วให้ตบกันใหม่ แต่นายประเวชก็ยังไม่พอใจ บังคับให้พวกตนทั้งสองคนถอดกางเกงในอีก และให้หาผ้ามาผูกตาแล้วใช้ไม้ตีกันต่อจนกระทั่งนายประเวชพอใจจึงอุ้ม ด.ญ.รักษ์ ออกไปกระทำชำเรานอกห้อง" ด.ญ.กร กล่าวและว่า

"ไม่กี่วันต่อมา ระหว่างที่นายประเวชอยู่ลำพังกับพวกตน เจ้าตัวก็ใช้ผ้าผูกตาพวกตนอีกครั้ง แล้วบังคับให้ตนทั้งสองคนสลับกันใช้ปากสำเร็จความใคร่ให้อีก และทำแบบนี้อีก 3 ครั้ง ในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.51 ที่ผ่านมา ซึ่งทุกครั้งเจ้าตัวจะนั่งเก้าอี้ถอดกางเกงถ่างขารอเลย แต่ครั้งหลังๆ ตนจะพยายามร้องและหลบเลี่ยง จึงทำให้นายประเวช ชอบให้ด.ญ.รักษ์ ทำให้มากกว่า จนกระทั่งตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านของนายประเวศ เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา แล้วเดินไปตามถนนโดยไม่รู้ว่าจะไปไหน จนเวลาประมาณ 22.00 น.ก็มาพบตำรวจสน.ประเวศ ทางตำรวจจึงประสานให้มูลนิธิฯ มารับตนไปดูแล"
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุต่อมาเวลา 20.00 น.ของวันที่ 11 ม.ค. ได้มีญาติพี่น้องของนายประเวช ประมาณ 7 คน เดินทางมาที่มูลนิธิคุ้มครองเด็ก

เพื่อแจ้งความประสงค์ขอรับตัว ด.ญ.กร กลับไปอุปการะต่อ แต่ ด.ญ.กร มีอาการหวาดกลัวกลุ่มญาติๆ ของนายประเวช เป็นอย่างมาก ทางมูลนิธิจึงไม่ยอมให้ ด.ญ.กรกลับไป พร้อมทั้งเดินทางมาแจ้งความในวันนี้ ด้าน พ.ต.ท.ภูมอัควุฒิกล่าวว่า เบื้องต้นจะรับแจ้งความไว้พร้อมทั้งสอบปากคำผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองเด็กอย่างละเอียด จากนั้นก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับนายประเวช จากศาลพระโขนง ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี โดยในวันพรุ่งนี้จะนัดผู้เสียหาย มาสอบปากคำร่วมกับอัยการ นักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วน ด.ญ.รักษ์ ผู้เสียหายอีกคนนั้น จะประสานให้ฝ่ายสืบสวนติดตามช่วยเหลือต่อไป แต่คาดว่าคงไม่อยู่ที่บ้านของนายประเวชแล้ว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์