ขอชีวิต-ยังเชือด กะเทยรับฆ่าม.1

พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผช.ผบ.ตร. (ปป.1) พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผช.ผบ.ตร. (ปป.2) พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. และ พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. ร่วมกันนำตัวนายณัฐสิทธิ์ หรือโหน่ง กมลสอาด อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/22 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอ ด.ญ.นฤนารถ หรือน้องฟลุก โพธิ์ประเสริฐ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย มาแถลงต่อสื่อมวลชน

โดยกล่าวหาว่าชิงทรัพย์โดยใช้ อาวุธมีด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 181/15 หมู่บ้านสินทรัพย์นคร ถนนพหลโยธิน ซอย 50 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 7 พ.ย.49

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ สว.สส.สน.บางเขน พร้อมชุดสืบสวนกองปราบฯ นำโดย พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผกก.1 บก.ป.

ได้สนธิกำลังร่วมกันสืบสวนหาตัวคนร้าย จนได้รับเบาะแสจากพลเมืองดีว่า นายณัฐสิทธิ์น่าจะเกี่ยวพันกับคดีนี้

และเข้าจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 24/667 ซอย 10 หมู่บ้านอยู่เจริญ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสีกัน เขตดอนเมือง

พร้อมของกลาง

รองเท้าผู้หญิงสีทอง 1 คู่
กระเป๋าถือผู้หญิงลายหลุยส์ วิตตอง 1 ใบ
และกางเกงขายาว สีดำ 1 ตัว ที่ผู้ต้องหาใส่ในวันก่อเหตุ

ก่อนนำไปสอบสวนที่ กก. สส.บก.น.2

จากการสอบสวนนายณัฐสิทธิ์ ซึ่งมีนิสัยกระเดียดไปทางผู้หญิงรับว่าเป็นผู้ฆ่าน้องฟลุกจริง ทั้งๆที่สนิทสนมกับนางนาฏยา เล็กใบ แม่ผู้ตาย

โดยก่อนเกิดเหตุ

ทั้งคู่นั่งดื่มกินอยู่ด้วยกันที่ร้านดาวแดงสาดแสงเดือน ย่านแจ้งวัฒนะ จากนั้นนายณัฐสิทธิ์ทำทีขอตัวกลับบ้าน แต่วกกลับมาที่บ้านของนางนาฏยา เพื่อเข้าไปขโมยทองคำรูปพรรณ

เพื่อสะดวกต่อการรื้อค้นทรัพย์สินแต่เกรงว่าน้องฟลุกจะนำเรื่องบอกแม่ ตัดสินใจใช้มีดสเตนเลสปาดคอฆ่าโหด โดยได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์ มือถือ 1 เครื่อง และภายหลังจากนางนาฏยานำศพลูกสาวไปสวดพระอภิธรรมศพที่วัดหลักสี่ นายณัฐสิทธิ์ยังทำทีไม่รู้เห็นกับคดีนี้ ด้วยการไปฟังสวดศพทุกคืนด้วย

ตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นหนา เป็นพยานบุคคลที่ได้สอบปากคำมากว่า 30 ปาก พร้อมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น รอยเลือด เส้นผม และการรับสารภาพของผู้ต้องหา

โดยคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.2 และตำรวจ กองปราบปราม ร่วมทำงานมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ โดยมีการประสานงานกันเป็นอย่างดีจนกระทั่งจับกุมผู้ต้องหาได้

เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวกะเทยโหดเดินทางกลับมาที่ สน.บางเขน โดยนายณัฐสิทธิ์มีท่าทีสงบนิ่ง ไม่ได้สะทกสะท้านต่อพฤติกรรมเหี้ยมโหดของตนเอง ก่อนเผยรายละเอียดอีกครั้งว่า รู้จักกับนางนาฏยา แม่ผู้ตาย ขณะไปเรียนเสริมสวยที่ศูนย์ฝึกอาชีพทหารอากาศ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว

จากนั้นก็คบหากันมาตลอด

คืนวันเกิดเหตุได้ไปเที่ยวดื่มเหล้าด้วยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านแจ้งวัฒนะ ก่อนทำทีขอตัวกลับบ้าน แต่วกกลับมาที่บ้านของนางนาฏยาอีกครั้ง เพื่อเข้าไปลักทรัพย์

เมื่อมาถึงพบน้องฟลุกนั่งดูทีวีอยู่ ไล่ไปอาบน้ำ ก่อนขึ้นไปรื้อค้นทรัพย์สินบนชั้น 2 แต่ผู้ตายขึ้นมาเห็น แต่ ไม่ได้พูดอะไร ด้วยความกลัวว่าผู้ตายจะไปบอกแม่ ตัดสินใจใช้ผ้าหยิบมีดสเตนเลสเข้าไปเชือดคอผู้ตาย ขณะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าภายในห้องน้ำ

น้องฟลุกยังไม่ตายในทันที ยังอ้อนวอนขอชีวิต และพยายามจะลุกขึ้น จึงใช้สันมีดตีไปที่ศีรษะของน้องฟลุกอย่างไม่ยั้งจนแน่นิ่ง ก่อนรื้อค้นทรัพย์สิน ได้โทรศัพท์มือถือมา 1 เครื่อง เรียกแท็กซี่กลับบ้านพัก

ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนมีดเอาไปทิ้งถังขยะที่บ้านป้าในหมู่บ้านอยู่เจริญ ย่านดอนเมือง

เอาไปใช้เที่ยวเตร่ อบซาวน่าย่านพงษ์เพชร และทำสังฆทานให้น้องฟลุก เพราะไม่คิดตั้งใจฆ่า โดยก่อนหน้ายังไปร่วมฟังพระสวด ศพน้องฟลุกทุกวัน เพื่อไม่ให้ใครสงสัย

อีกทั้งเคยคิดไว้ว่าจะสารภาพกับนางนาฏยา ในวันเผาศพ

แต่ไม่กล้าบอก แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว อยากให้ญาติพี่น้องของน้องฟลุกให้อภัย รวมถึงขอโทษดวงวิญญาณน้องฟลุกด้วย

ซอยพหลโยธิน 50 แต่ชาวบ้านที่ทราบข่าวตำรวจจับคนร้ายฆ่าน้องฟลุกได้ มายืนรอกว่า 300 คน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 กลัวว่าจะมี การรุมประชาทัณฑ์ จึงคุมตัวผู้ต้องหากลับมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ สน.บางเขน โดยใช้ห้องน้ำบนโรงพักชั้น 2

และให้ตำรวจหญิงแสดงเป็นน้องฟลุก ท่ามกลางสื่อมวลชน และนางสำเนียง สันติวิบูลย์ อายุ 50 ปี แม่ของนายณัฐสิทธิ์ ที่เห็นการรับสารภาพทุก ขั้นตอนของลูกชาย ถึงกับเป็นลมล้มลงกับพื้น

จากนั้นพนักงานสอบสวนนำตัวนายณัฐสิทธิ์ไปชี้จุดทิ้งมีดที่บ้านพักในหมู่บ้านอยู่เจริญ และที่ร้านดาวแดงสาดแสงเดือน ซึ่งเป็นร้านที่นั่งดื่มกินกับแม่ผู้ตาย จนครบทุกขั้นตอน นำกลับมาควบคุมที่ สน.บางเขน ตามเดิม

หลังทราบข่าวว่าตำรวจยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ แสดงความผิดหวังด้วยการร้องไห้ เพราะไม่ได้รับการขอขมาจากนายณัฐสิทธิ์ เพื่อนสนิทรุ่นน้อง โดยมีญาติคอยถือรูปน้องฟลุกที่สวมชุดนักเรียนคอซองสีขาวอยู่ใกล้ๆ

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ