ขนจากวัด-ลุยแห่ ไล่สกัดวุ่น ศพแท็กซี่พลีชีพ

จากเหตุการณ์นายนวมทอง ไพรวัลย์ อายุ 60 ปี


คนขับรถแท็กซี่จอมอุดมการณ์ ทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการใช้เชือกลากรถแขวนคอกับราวสะพานลอยคนข้ามถนนวิภาวดีฯขาออก เยื้องกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 1 พ.ย. หลังจากตำรวจ สน.บางซื่อ เดินทางไปสอบสวนพร้อมผู้เกี่ยวข้อง

พบศพผู้ตายห้อยโตงเตงอยู่บริเวณบันไดทางลงขั้นที่ 8


พบใช้เชือกลากรถผูกคอห้อยกับราวสะพานร่างสูงจากพื้นถนนประมาณ 1.5 ฟุต โดยสภาพศพมีหมวกไหมพรมครอบคลุมศีรษะ สวมเสื้อยืดสีดำ สกรีนที่หน้าอกเป็นรูปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

มีแว่นสายตา
เหน็บที่คอเสื้อ
กางเกงขายาวสีกรมท่า
ไม่สวมรองเท้า

บริเวณที่พักบันไดสะพานลอย พบถุงพลาสติกสีขาวข้างในมีรองเท้าแตะ 1 คู่ และกระดาษถ่ายสำเนาข่าว ที่ผู้ตายขับรถแท็กซี่ชนรถถัง เพื่อประท้วงคณะปฏิรูปการปกครองฯ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 3-4 แผ่น ส่วนข้างถุงมีกระดาษสีขาวแผ่นใหญ่เขียนข้อความด้วยหมึกเมจิกสีดำ ใจความว่า

อดีตคนขับแท็กซี่ พลีชีพเพื่อประชาธิปไตย และลบคำสบประมาท รองโฆษก คปค. พ.อ.อัคร ทิพย์โรจน์ ว่า ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้ (ปากเผด็จการ)

นอกจากนี้ ยังมีแผ่นกระดาษถ่ายสำเนาข่าวและรูปถ่ายตัดจากหนังสือพิมพ์เป็นรูปรถแท็กซี่ชนรถถังอีก 1 แผ่น


รวมทั้งกระดาษเขียนจดหมายข้อความเต็มหน้ากระดาษ ระบุถึงการวางแผนพลีชีพครั้งนี้ว่า วันนี้เดินทางไปที่อนุสรณ์สถาน 14 ต.ค. เพื่อจะผูกคอตาย เตรียมอุปกรณ์ไปครบ แต่มีคนอยู่หลายคนทำให้ไม่สะดวก จึงตัดสินใจขึ้นรถเมล์ไปที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว เพื่อเขียนจดหมายนี้ เสร็จแล้วขึ้นรถเมล์ไปลงที่ปั๊มน้ำมันฝั่งสะพานลอยอีกด้านหนึ่ง รอจนคนบางตา

และคิดว่าจะปฏิบัติการพลีชีพตอน 5 ทุ่ม 50 นาที

โดยลงท้ายว่ารอให้คนบางตาเดี๋ยวจะตกใจกันในวันปล่อยผี ต่อด้วยลาก่อน สวัสดีครับท่านพี่น้องประชาชนที่เคารพ โดยเฉพาะผู้ที่มีความรักในประชาธิปไตย ลงชื่อนายนวมทอง ไพรวัลย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์จากสถาบันนิติเวชฯ เดินทางมาตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมเก็บรวบรวมหลักฐานไปตรวจพิสูจน์อีกครั้ง

ก่อนหน้าที่นายนวมทอง ไพรวัลย์ จะตัดสินใจผูกคอตายไม่นาน


ได้โทรศัพท์ไปสถานีโทรทัศน์ไอทีวี บรรยายความรู้สึกต่างๆนานา ถึงอุดมการณ์ที่ยึดมั่นว่า ต้องการจะลบล้างคำปรามาส ที่ว่าไม่มีใครกล้าพอจะยอมตายเพื่อรักษาอุดมการณ์แห่งความเป็นประชาธิปไตย การยอมตายเพื่อพิสูจน์อุดมการณ์ประชาธิปไตย เป็นวิธีการหนึ่งของการเสียสละเพื่อชาติ


เช้าวันเดียวกัน นางบุญชู ไพรวัลย์ อายุ 51 ปี ภรรยา


พร้อม น.ส.สาวิดา ไพรวัลย์ อายุ 23 ปี ลูกสาว ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อำพล บุญเพิ่ม รอง ผกก.สส.สน. บางซื่อ เพื่อให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน และขอรับเอกสารหลักฐานการเสียชีวิตของสามี เพื่อไปขอใบมรณบัตร พร้อมกล่าวว่ารู้สึกเสียใจและตกใจกับการตัดสินใจฆ่าตัวตายของสามี โดยจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบัวขวัญ

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา พล.ต.ต.เลี้ยง หุยประเสริฐ รอง พตร.เปิดเผย


ถึงผลการผ่าพิสูจน์ศพนายนวมทอง ไพรวัลย์ ระบุสาเหตุการตายเกิดจากขาดอากาศหายใจ เนื่องมาจากผูกคอตาย มีรอยเชือกบีบรัดลำคอ และไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย สันนิษฐานเป็นการฆ่าตัวตาย

ด้าน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเห็น


ถึงการผูกคอตายของนายนวมทองว่าหากทุกคนร่วมมือหาทางชี้แจงเหตุผล ยืนอยู่บนพื้นฐาน ของความจริงก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ เมื่อถามว่ากังวลจะกลายเป็นพฤติกรรมในการออกมาประท้วงรัฐบาล หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า คงไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น


ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก และอดีตผู้ช่วยโฆษก คปค. กล่าวว่า


ในช่วงที่นายนวมทองขับแท็กซี่ชนรถถังนั้น ตนเคยได้ ให้ความเห็นกับสื่อแขนงหนึ่งว่า เป็นไปไม่ได้ที่นายนวมทองจะพลีชีพเพื่อเป็นการประชด หรือต่อต้าน คปค. เพราะการเปลี่ยนแปลงการปกครองของ คปค. ทำด้วยความนุ่มนวล และเน้นความเข้าใจของประชาชนเป็นสำคัญ

ไม่มีการต่อต้านถึงขั้นทำให้เสียเลือดเนื้อ

จึงเป็นไปไม่ได้ที่นายนวมทองจะฆ่าตัวตายเพื่อประชด และอีกประเด็นที่ได้ชี้แจงในวันนั้น คือบ้านเมืองเราเป็นเมืองพุทธ วัฒนธรรมของคนไทยสามารถพูดจากันได้รู้เรื่อง การที่จะมีใครออกมาทำร้ายตัวเองในลักษณะประชดชีวิต ด้วยสาเหตุจากปัญหาการเมืองนั้น ไม่เคยมีมาก่อน และคงไม่มีใครที่ยอมถึงขนาดพลีชีพ

โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า


กรณีของนายนวมทองน่าจะเกิดจากความคิดส่วนตัวที่ขาดการชี้แจง ทำให้เข้าใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะหากมีการต่อต้านหรือตอบโต้การปฏิรูปฯต้องมีความรุนแรงเกิดขึ้น

ทั้งนี้ด้านครอบครัวของนายนวมทองได้ระบุว่า

นายนวมทองไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างใด และไม่ได้เป็นคนที่คิดมาก ครอบครัวก็คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น เรื่องนี้ทาง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน มีความเป็นห่วง จึงให้เพิ่มน้ำหนักในการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนที่เข้าใจคลาดเคลื่อนได้เข้าใจในสิ่งต่างๆมากขึ้น ซึ่งในอนาคตน่าจะมีการชี้แจงกับประชาชนมากกว่านี้

พ.อ.อัครกล่าวว่า


จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีความ รู้สึกเสียใจที่นายนวมทองระบุว่า ตนเป็นผู้กล่าวว่า นายนวมทองไม่มีอุดมการณ์ ซึ่งในข้อเท็จจริง ตนมั่นใจว่าคงไม่มีคนไทยคนใดมีอุดมการณ์สูงถึงขนาดต้องทำร้ายตัวเอง หรือประชดชีวิตเพื่อต่อต้าน คปค.

สาเหตุที่กล้า ยืนยันเพราะ

คปค.ทำอย่างนุ่มนวล และทำด้วยเจตนารมณ์ อันบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม หากสิ่งที่นายนวมทองกล่าวเป็นความจริง ก็ขอขมาต่อวิญญาณของนายนวมทองด้วย

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า


ขอแสดงความเสียใจกับครอบ ครัวนายนวมทอง และหวังว่าจะทำให้สังคมนำมาคิดหาหนทางแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองด้วยการใช้เหตุผลสติปัญญาอย่างรอบคอบ แต่ยอมรับว่ากรณีนี้อาจล่อแหลมต่อการนำไปสู่ความมีอารมณ์ความรู้สึก

ซึ่งในสถานการณ์ ปัจจุบันเราควรมีสติ มีเหตุผล

อย่าปล่อยให้อารมณ์มากำหนด หากมีความคิดเห็นอย่างไรก็ช่วยกันหาวิธีการที่เป็นไปโดยสันติ สำหรับพรรคไทยรักไทยจะส่งตัวแทนไปร่วมงานบำเพ็ญกุศล แต่ยืนยันว่าพรรคจะไม่นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็น หรือนำมาใช้ประโยชน์ทางการเมืองแน่นอน

ต่อมาช่วงเย็นนางบุญชูพร้อมลูกสาวเดินทางมารับศพนายนวมทอง ไพรวัลย์ ด้วยสีหน้าห่อเหี่ยว


เพื่อนำไปตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดบัวขวัญ ถนนงามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ คอยดูอย่างใกล้ชิด เมื่อถึงศาลา 4 ของวัด ญาติของโชเฟอร์ แท็กซี่วัย 60 ปี ได้ทำพิธีรดนํ้าศพท่ามกลางหมู่ญาติไม่กี่คน มีนางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ อดีต ส.ว.กทม.เดินทางไปร่วมพิธี

ระหว่างนั้น มีโทรศัพท์ลึกลับเข้ามายังโทรศัพท์มือถือของนางบุญชู


อ้างเป็นสมาชิกมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตยขอร้องให้เคลื่อนศพนายนวมทองไปตั้งที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่มีใจรักประชาธิปไตยได้ เข้ามาเคารพศพและเชิดชูเกียรติคนตาย

แถมระบุด้วยว่ามีสมาชิกรออยู่ไม่ต่ำกว่าพันคนแล้ว

นางบุญชูจึงปรึกษาลูกและญาติสนิทก่อนตัดสินใจเคลื่อนโลงศพสามีขึ้นรถตู้ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน ฮก 1120 กรุงเทพมหานคร ของร้านมัลลิกาหีบทองออกจากวัดเตรียมมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตยตามคำชักชวน โดยมีขบวนทัพสื่อมวลชนติดตามกันเป็นจำนวนมาก

รถตู้ใส่โลงศพโชเฟอร์แท็กซี่หัวใจประชาธิปไตยและคณะติดตามได้วิ่งออกจากวัด


เลี้ยวเข้าถนนงามวงศ์วานเตรียมขึ้นทางด่วนแต่กลับต้องชะงัก เมื่อรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองนนทบุรีขับแซงปาดหน้ามาจอดขวาง มี พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ ผกก.สภ.อ.เมืองนนทบุรี เปิดประตูรถ เรียกนางบุญชูและญาติของนายนวมทองลงมาขอเจรจาไม่ให้เคลื่อนย้ายศพไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพราะเกรงจะกลายเป็นชนวนเหตุให้เกิดความวุ่นวายของบ้าน เมือง มี

พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว
ผบก.ภ.จ.นนทบุรี
พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2
และนายไกรศร วิศิษฐ์วงศ์ ป้องกันจังหวัดนนทบุรี

ตามไปสมทบช่วยเจรจาพูดคุยกันอยู่ 30 นาที นางบุญชูถึงยอมนำศพสามีกลับไปที่วัดตามเดิม สถานการณ์ตึงเครียดจึงยุติลง

สำหรับนายนวมทอง ไพรวัลย์ เคยสร้างความครึก โครมมาแล้วครั้งหนึ่ง


เมื่อขับรถแท็กซี่ โตโยต้า สีม่วง ทะเบียน ทน 435 กรุงเทพมหานคร พ่นสีสเปรย์รอบคันว่าเผด็จการพลีชีพเพื่อประชาธิปไตย ไปพุ่งชนรถถังที่รักษาความสงบเรียบร้อยหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อเช้าวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา จนได้รับบาดเจ็บซี่โครงหักหลายซี่ โดยระบุว่าต้องการประท้วง คปค.ที่ทำให้ประเทศ ชาติเสียหาย ถอยหลังลงคลอง และไม่มีใครจ้างวาน



แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์