กองปราบฯถกธอส.ตามเงินถูกโกงคืน อายัดแล้ว240ล้าน

กรณีธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. แจ้งตำรวจกองปราบปรามจับกุมกุม นายสมเกียรติ ปัญญาวรคุณเดช อายุ 33 ปีพนักงานธุรกิจสาขาอาวุโส ธอส.ประจำสาขาเซนต์หลุยส์ 3 ยักยอกเงินของธนาคารกว่า 400 ล้านบาท โดยตำรวจนำตัวไปผัดฟ้องฝากขังศาลอนุญาต ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. กล่าวเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ถึงความคืบหน้าการติดตามเงินคืนว่า ในวันที่ 4 พฤษภาคม ทางธอส. จะรวบรวมเอกสารทางการเงินของผู้ต้องหามาให้พนักงานสอบสวนเพื่อทำการอายัดต่อไป 

โดยเบื้องต้นทรัพย์สินที่อายัดไว้น่าจะมีมูลค่าประมาณ 240 ล้านบาท และที่เหลือจะต้องตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ธนาคารอีกครั้ง
พ.ต.อ.พรศักดิ์กล่าวอีกว่า สำหรับทรัพย์สินอื่นๆ นอกเหนือจากเงินที่มีการแปรสภาพไปแล้วอย่างเช่นบ้านและรถยนต์ของผู้ต้องหา ทางธอส.จะเป็นผู้ไปดำเนินคดีทางแพ่งกับทางผู้ต้องหาเอง นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการยักยอกเงินจำนวนดังกล่าวของนายสมเกียรติในครั้งนี้น่าจะทำเพียงลำพัง ไม่ได้มีการทำเป็นขบวนการ เพราะจากการตรวจสอบไปยังบุคคลใกล้ชิดก็พบว่าไม่มีใครทราบว่านายสมเกียรติฯมีเงินหรือทรัพย์สินมากเป็นหลัก 100 ล้านบาท แม้แต่กระทั่งญาติพี่น้องของนายสมเกียรติฯเองก็ไม่เคยทราบมาก่อน

ข่าวแจ้งว่าจากการสืบสวนของตำรวจกองปราบปรามพบว่านอกจากนายสมเกียรติฯจะนำเงินที่ได้มาจากการยักยอกไปใช้เล่นพนันฟุตบอล

และซื้อสลากกินแบ่งจำนวนหลายล้านบาทแล้ว นายสมเกียรติฯยังได้นำเงินจำนวนมากไปใช้ในการเลี้ยงดู ปรนเปรอหญิงสาวจำนวน 3 คนที่นายสมเกียรติไปติดพันอีกด้วย
นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า กรณีการยักยอกเงินที่เกิดขึ้นกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) นั้น สำหรับธนาคารพาณิชย์ไม่น่าวิกตกกังวล เนื่องจากธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งเข้าสู่หลักเกณฑ์บาเซิลทู  ซึ่งมีโครงการเฉพาะที่เกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงที่เกิดจากการดำเนินงาน (ริชเมเนจเมนท์)  โดยโครงการดังหล่าวจะมีเกณฑ์บังคับในการตรวจสอบและระมัดระวังกรณีที่นี้อยู่แล้ว ซึ่งธนาคารต่างทำมานานแล้ว อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งจะมีการตรวจสอบเข้มงวดมากน้อยแต่ไหน ขึ้นอยู่กับการบริหารภายใน

"ความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคารพาณิชย์ที่เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก เนื่องจากธนาคารเองก็มีการบริหารเรื่องนี้มาโดยตลอดอยู่แล้ว มีความเข้มงวดมาโดยตลอด แต่อาจมีเกิดขึ้นบ้าง ต้องขึ้นอยู่กับการจัดการของธนาคารแต่ละแห่ง กรณีที่เกิดขึ้นกับธอส.ถือว่าโชคดีที่สามารถจับคนร้ายได้ค่อนข้างเร็ว" นายธวัชชัยกล่าว

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า ธนาคารมีความรัดกุมในการบริหารความเสี่ยงเกี่ยวกับกรณีการยักยอกไว้อยู่แล้ว

โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมาธนาคารได้เข้าสู่ระบบเกณฑ์ตรวจสอบมาตรฐานการบริหารความเสี่ยงไปแล้ว ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าไม่มีปัญหา ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมาอาจมีการเกิดการยักยอกขึ้นบ้าง ซึ่งธนาคารมีการบริหารจัดการภายในรองรับอยู่แล้ว  และมีการตรวจสอบทางการเงิน (เช็คบาลานซ์) อยู่เป็นประจำ


"ธนาคารทหารไทยมีการบริหารเรื่องนี้รัดกุมมาก  หากเกิดกรณียักยอกขึ้นจริงจะมีขั้นตอนในการตรวจสอบ 3 ประการ คือ 1.หากเกิดขึ้นจริงสามารถตรวจสอบเรื่องได้เร็วแค่ไหน  2.ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมากน้อยเพียงใดและ 3.การดำเนินการจัดการจะต้องมีมาตรการที่เป็นมาตรฐาน หากเกิดขึ้นกับธนาคารก็ต้องมีมาตรการรองรับไว้" นายบุญทักษ์กล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์