กลับมาอีกรอบ คาร์บอมบ์ ถล่มใต้เจ็บ63

เมื่อเวลาประมาณ 11.20 น. วันที่ 4 พ.ย. เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว จากรถเก๋งที่จอดทิ้งไว้ บริเวณตลาดกลางผลไม้ ข้างที่ว่าการอำเภอสุคิริน จ.นราธิวาส

หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.จงใจรักษ์ คงเผ่า รอง ผกก. (สส.) สภ.สุคิริน และนำกำลังตำรวจ ทหาร ไปที่เกิดเหตุพร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิต่างๆ
พบรถปิกอัพ และรถ จยย.ถูกไฟลุกไหม้อย่างโชติโชน ล้มระเนนระนาดกว่า 10 คัน มีผู้บาดเจ็บนอนร้องระงมด้วยความเจ็บปวดหลายสิบคน โดยมีเจ้าหน้าที่และประชาชนช่วยระดมลำเลียงคนเจ็บส่ง รพ.สุคิริน และใกล้เคียงอย่างโกลาหล ท่ามกลางกลุ่มควันที่ยังลอยโขมงไปทั่วบริเวณ คราบโลหิตสีแดงกระจายไปทั่วพื้น เสียงตะโกนเรียกหากันดังโหวกเหวกแทบฟังไม่ได้ศัพท์ทั้งของเจ้าหน้าที่และผู้อยู่ในเหตุการณ์


ในที่เกิดเหตุพบซากรถเก๋งอยู่ในสภาพแหลกจนเป็นกลายเศษเหล็กแทบไม่มีชิ้นดีกับชิ้นส่วนและสะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่ว

นอกจากนี้สะเก็ดระเบิดยังกระเด็นไปถูกรถยนต์และตัวอาคารห้องประชุมของที่ว่าการอำเภอ สุคิรินที่อยู่ใกล้กัน ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ส่วนซากรถเก๋งตัวต้นเหตุตรวจสอบพบเป็นรถยี่ห้อแดวู สีเทา หมายเลขทะเบียน บง 4740 ยะลา โดยคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สหนักประมาณ 50 กก. ซุกไว้ในรถ จากนั้นทิ้งไว้ในตลาดเพื่อรอโอกาสกดบึมถล่มฆ่าหมู่ 


พอสบจังหวะช่วงที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกว่า 100 คน ที่มาประชุมประจำเดือนเดินออกจากห้องประชุมอาคารตลาดกลางผลไม้ซึ่งตั้งอยู่ในตลาด

คนร้ายจุดชนวนระเบิดด้วยสัญญาณโทรศัพท์มือถือ แรงระเบิดทำให้ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และ อส.อำเภอสุคิริน ที่คอยดูแลความปลอดภัยที่ประชุมได้รับบาดเจ็บหลายราย
จากนั้นคล้อยหลังประมาณ 4 นาที ขณะเจ้าหน้าที่กำลังวุ่นวายอยู่ในเหตุบึมถล่มเมืองนั้น ปรากฏว่าได้เกิดเหตุระเบิดดังสนั่นขึ้นอีกลูก ริมถนนหน้าร้านขายน้ำชาเลขที่ 73/13 ของนายช่วย ชัยเมฆ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอสุคิริน เจ้าหน้าที่รีบไปตรวจสอบพบรถ จยย.เหลือแต่ซาก 1 คัน ตรวจสอบพบคนร้ายนำระเบิดหนักราว 5 กก.ไปซุกไว้ใน จยย.ก่อนจุดชนวนด้วยโทรศัพท์ มือถือเช่นกัน แรงระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มระเนนระนาดกว่า 10 คน ส่วนรถ จยย.ตรวจสอบพบเป็นรถยี่ห้อฮอนด้า เจ้าหน้าที่ต้องเร่งลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกันวุ่น รวมผู้บาดเจ็บทั้ง 2 เหตุการณ์รวม 63 ราย


ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 12 ราย ส่ง รพ. สุไหงโก-ลก 6 ราย กับ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส 6 ราย คือ 1. นายแซด มะเซ็ง 2. นายสัญญา บุญเกิด 3. นายแถว แนวทอง 4. นายสนั่น สะเดาทอง 5. นายวินิจ เทพนิตย์ และ 6. นางอัมพร ปุย อายุ 43 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.สุคิริน




ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้กระจายกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ทั้ง 2 จุด เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มผู้ไม่หวังดีจะจุดชนวนระเบิดถล่มซ้ำขณะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

พร้อมทั้งปิดการจราจรบนถนนทุกสายที่มุ่งไปยังที่ว่าการอำเภอสุคิริน นอกจากนี้ กำลังตำรวจ ทหาร อส. และฝ่ายปกครอง ปิดอำเภอสุคิรินเพื่อไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุและนำกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุทั้งของราชการและเอกชนมาตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มโจรใต้ที่วางแผนไว้ ล่วงหน้า โดยอาศัยช่วงวันประชุมประจำเดือนมาก่อเหตุวินาศกรรมครั้งนี้ ขณะที่ พล.ต.กสิกร คิรีศรี ผบ.กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร นำกำลังเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุสั่งให้ตรวจสอบผู้ต้องสงสัยอย่างเข้มงวด พร้อมประสานทุกฝ่ายให้เฝ้าตามจุดสกัดตลอดเวลา ทางด้านนายวรเชษฐ์ พรมโอภาษ นอภ.สุคิริน เปิดเผยว่า เหตุการณ์


คาร์บอมบ์ครั้งนี้เชื่อว่าคนร้ายพุ่งเป้าสังหารกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

ที่มาประชุมเพื่อหวังตอบโต้ที่ผู้นำท้องถิ่นให้ความร่วมมือกับรัฐในการแก้ปัญหาในภาคใต้จนสงบไปจากเดิม ส่วนหน่วยข่าวด้านการสืบสวนระบุว่า สำหรับรถทั้ง 2 คัน ตรวจสอบแล้วพบเป็นทะเบียนปลอมทั้งคู่ และพฤติกรรมของคนร้ายที่ทำคาร์บอมบ์ครั้งนี้ลักษณะคล้ายกับคาร์บอมบ์ที่ สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา และเชื่อว่าเป็นโจรก่อการร้ายกลุ่มเดียวกัน


นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและ รมว. กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ใน อ.สุคิริน ว่าจะต้องมีการปรับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น

โดยเฉพาะต้องตรวจเข้มทุกครั้ง โดย เฉพาะเวลาที่มีการประชุม แต่คงไม่ไปโทษเจ้าหน้าที่เพราะบางครั้งการประชุมมีรถมาก วิ่งเข้าวิ่งออกตลอด ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ทบ.ได้รายงานถึงการปรับแผนการปฏิบัติหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ท่านมีแผนอยู่แล้วและปรับอยู่เรื่อยๆ ตนก็มั่นใจ เพราะแผนการทำงานของ ผบ.ทบ. รอบคอบดี แต่การพลาดพลั้งหรือมีอุบัติเหตุคงต้องมีบ้าง เพราะฝ่ายหนึ่งจ้องจะทำ อีกฝ่ายระวัง อย่างไรก็ตาม รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุอย่างนี้และไม่อยากให้มีการสูญเสียอีก


ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งกองทัพมีมาตรฐานที่จะดูแลคนหมู่มาก และได้กำชับให้มีมาตรการต่างๆไม่ให้มีการนำรถเข้าไปจอดใกล้จุดสำคัญ

ทั้งนี้ได้สั่งเจ้าหน้าที่ไปแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าทำไมมียานพาหนะไปจอดบริเวณดังกล่าวได้อีก
ส่วน จ.ยะลา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นายกฤษฏา บุญราช รอง ผวจ.ยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ที่ 13 อ.กรงปินัง และทหารพรานที่ 41 ไปตรวจสอบอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิดที่คนร้ายซุกซ่อนไว้ในป่าสวนยางบนเนินเขา หมู่ 9 บ้านอุแบ ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง โดยนำบรรจุไว้ในถังขนาด 20 ลิตร ฝังดินไว้ จากการตรวจสอบพบเป็นอุปกรณ์ผลิตระเบิดหลายรายการ

ประกอบด้วย สารเคมีเหลว เชื้อปะทุ แบตเตอรี่ สายไฟ ท่อแป๊บ สารยูเรีย เจลเหลวสีชมพู และน้ำยาต้นอุปกรณ์ทั้งหมดสามารถนำมาประกอบเป็นระเบิดได้ประมาณ 150 ลูก นอกจากนี้ ยังมีเสื้อผ้าอุปกรณ์เดินป่า กล้องส่องทางไกล และเสื้อผ้าจำนวนหนึ่งจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน 


ก่อนหน้านั้น นายกฤษฏา บุญราช รอง ผวจ.ยะลา ได้ออกตรวจเยี่ยมให้กำลังใจครูในพื้นที่ตามจุดรับส่งต่างๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้กำหนดไว้กับทางคณะครู

พบว่าครูมีความพอใจในมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยและเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถดูแลคณะครูได้อย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหารก็ได้มีการประสานงานกับหน่วยกำลังในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อรับส่งคณะครูด้วย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์