กรุงเก่า-จมบาดาล! ฝนถล่มนํ้าเหนือบ่า

สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ภาคกลางยังจมอยู่ใต้บาดาล โดยผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ว่า ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงวันละ 40 ซม.

เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ บ้านเรือน เรือกสวนไร่นา และโบราณสถานในพื้นที่ อ.บางบาล อ.เสนา อ.บางปะอิน อ.บางไทร อ.ผักไห่ อ.บางซ้าย และ อ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ชาวบ้านพากันเดือดร้อนอย่างหนัก ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น ในวันที่ 5-6 พ.ย.นี้
 

นายปรีชา กมลบุตร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับพี่น้องชาว อ.ผักไห่ และ อ.บางบาล ที่ถูกน้ำท่วมเป็นรอบที่ 3

ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้หลายหน่วยงานคิดว่าเดือนพฤศจิกายนจะไม่มีฝนแล้ว แต่ก็ยังพบว่ามีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้เขื่อนเก็บน้ำไว้ไม่ได้ ต้องเร่งระบายน้ำออกเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เลยทำให้ท้ายเขื่อนถูกน้ำท่วมหนักอีก วันเดียวกัน นายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำสิ่งของพระราชทานมามอบให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.บางบาล 500 ชุด และพื้นที่ อ.ผักไห่ 700 ชุด


ที่ จ.อ่างทอง หลังเขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่หมู่ 2 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ฉับพลัน บางพื้นที่ระดับน้ำสูงราว 50 ซม.

ชาวบ้านพากันขนย้ายข้าวของหนีน้ำกลางดึก ขณะที่คันดินกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาท้องที่หมู่ 8 ต.โผงเผง เกิดทรุดตัวเป็นทางยาวเกือบ 100 เมตร ชาวบ้านพากันผวาดผวาอย่างหนัก เพราะล่าสุดน้ำทะลักท่วมพื้นที่ ต.โผงเผง เป็นวงกว้าง 7 หมู่บ้านแล้ว ส่วนเขต อ.เมืองอ่างทอง น้ำเอ่อล้นตลิ่งทะลักท่วมพื้นที่หมู่ 1 ต.จำปาหล่อ ชาวบ้านกว่า 40 หลังคาเรือน ต้องขนข้าวของและสัตว์ เลี้ยงขึ้นไปไว้บนถนนชลประทานสายอ่างทอง-ป่าโมก กันโกลาหล


ด้าน จ.ชัยนาท พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำท่วมหลายแห่ง ทางจังหวัดประกาศเตือนให้ชาวบ้านระวังอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

ขณะที่นายพงศ์ศักดิ์ อรุณวิจิตรสกุล ผอ.ส่วนจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา ชป.12 จ.ชัยนาท เผยว่า เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ตั้งแต่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีฝนตกหนักในพื้นภาคเหนือ โดยเฉพาะแม่น้ำปิง จ.ตาก และ จ.กำแพงเพชร มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์ จะเพิ่มสูงสุด ระหว่างวันที่ 4-5 พ.ย.นี้




ขณะที่ จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น 73 ลบ.ม./วินาที ส่วนแม่น้ำปิงปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น 30 ซม. ส่งผลให้น้ำทะลักท่วมขยายวงกว้างขึ้น

ทางเทศบาลนครนครสวรรค์ออกประกาศเตือนไปยังชุมชนต่างๆ ที่อยู่ในที่ลุ่มริมแม่น้ำปิง และแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เตรียมพร้อมขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของโดยทันที เนื่องจากมีฝนตกหนักในจังหวัดภาคเหนือติดต่อกันหลายวัน ทำให้ มีน้ำป่าไหลรวมกันในแม่น้ำปิง แม่น้ำน่าน และแม่น้ำเจ้าพระยา อาจทำให้มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหัน  


ส่วน จ.กำแพงเพชร หลังมีฝนตกติดต่อกันหลาย วัน ส่งผลให้น้ำป่าไหลทะลักลงแม่น้ำปิง และแม่น้ำสาขา จนระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองต่างๆเพิ่มสูงขึ้น

และเอ่อล้นเข้าท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ต.โกสัมพีนคร อ.โกสัมพีนคร ถูกน้ำท่วมเป็นวงกว้าง 5 หมู่บ้าน ถนนทางเข้าหมู่บ้านหลายสายถูกน้ำท่วมสูง เช่นเดียวกับพื้นที่ ต.ลาน ดอกไม้ อ.เมืองกำแพงเพชร มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมหนัก 3 หมู่บ้าน โรงเรียนบ้านเกาะน้ำโจน หมู่ที่ 4 ต.ลานดอกไม้ จมอยู่ใต้บาดาล ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ต้องปิดเรียนไม่มี กำหนดทางจังหวัดเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มที่ 


นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ในหลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิง ในเขตจังหวัดตาก และกำแพงเพชร เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

และยังมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำมากตามไปด้วยในช่วง วันที่ 4-5 พ.ย.นี้ จึงมอบหมายให้กรมชลประทาน เร่งดำเนินมาตรการในการบริหารจัดการน้ำที่จะไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ที่เหมาะสม และไม่เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ภาคกลาง นอกจากนี้ยังได้สั่งให้ประสานขอความร่วมมือหน่วยงานในแต่ละจังหวัด จัดส่งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังโดยเร็วที่สุด คาดว่าหากปริมาณน้ำฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม จะทำให้ระดับน้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 สัปดาห์ข้างหน้า


ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
 
มอบหมาย พล.ต.ท.วัชรพล ประสานราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.วรเทพ เมธาวัฒน์ รองโฆษก สั่งการให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องหามาตรการรองรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ประสานสถานีตำรวจจัดชุดอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย ชุดชุมชนและมวลชนสัมพันธ์ออกให้การช่วยเหลือและรักษาความสงบเรียบร้อยแก่ประชาชน สนับสนุนการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน นำรถยนต์และเรือท้องแบน ช่วยขนย้ายผู้ประสบภัย สิ่งของและรับ-ส่งประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ประสานกับทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ในเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง 


ทางด้านภาคใต้หลายจังหวัดทั้ง นครศรีธรรมราช พัทลุง และชุมพร ได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย  ระวังน้ำป่าทะลักท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม

หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายลักษณะอากาศว่า ช่วงเดือนพฤศจิกายน ร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคใต้ รวมทั้งอิทธิพลพายุเขตร้อนจากมหาสมุทร แปซิฟิกด้านตะวันตก เคลื่อนตัวผ่าน ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกชุกหนาแน่นในบริเวณดังกล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์