กรรมสนองโจรใต้แกนนำเละระเบิดบึ้มใส่2ศพ

เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 31 พ.ค. ร.ต.อ.วชิระ ศุภพิสิฐกุล พนักงานสอบสวน (สบ1) สภ.รือเสาะ  จ.นราธิวาส
 
รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ที่บริเวณคอสะพานบ้านบาลูกา หมู่ 7 ต.สามัคคี จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก. พ.ท.มานิตย์ เผ่าพงษ์จันทร์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 พ.ต.ท.กระจ่าง รักษ์ณรงค์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน บก.ภ.จว.นราธิวาส ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิษฐ์ หน.ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.ภ.จว.นราธิวาส พร้อมกำลังตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง

ที่เกิดเหตุบริเวณตอไม้ใหญ่ข้างคอสะพานพบหลุมลึก 4 ฟุต กว้าง 6 ฟุตและเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 5 กก.
 
จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและในพงหญ้ารกทึบริมทาง และห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบศพนายซอราฮูดีน ดอเลาะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 5 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ สภาพถูกแรงระเบิดร่างกายแหลกเหลว ใกล้กันพบซองกระสุนปืนเอ็ม  16 จำนวน 3 อัน กระสุน 90 นัด โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าคาดเอว เครื่องดื่มบำรุงกำลัง และบุหรี่อีกจำนวนหนึ่ง

ขณะเดียวกัน พ.ท.มานิตย์ ได้สั่งเจ้าหน้าที่ทหารออกลาดตระเวนปิดล้อมพื้นที่ตรวจค้นอย่างละเอียด
 
พบศพผู้เสียชีวิตนอนตายอยู่ในพงหญ้ารกทึบภายในสวนยางพารา อีก 1 ราย ทราบชื่อนายอาบัส อาบู สภาพสวมเสื้อผ้าลายพรางทหาร ถูกแรงระเบิดร่างกายแหลกเหลวเช่นกัน โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นแกนนำอาร์เคเค ก่อเหตุในพื้นที่บ้านบาลูกา หมู่ 7 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จึงนำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ส่ง รพ.รือเสาะ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบสวนทราบว่าช่วงเวลาประมาณ 00.30 น. พบว่ามีชายต้องสงสัย 3 คน ขี่รถ จยย.ปิดไฟหน้าซ้อนท้ายกันมาจอดรถไว้ที่บริเวณคอสะพาน

จากนั้นนำระเบิดแสวงเครื่อง ที่ประกอบใส่กล่องเหล็กหนัก 5 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์ไปวางไว้ที่บริเวณโคนต้นไม้ข้างคอสะพาน แต่ขณะที่กำลังลอบวางระเบิดอยู่นั้น วงจรระเบิดเกิดทำงานขึ้นมา จนทำให้ระเบิดเสียงตูมสนั่น จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ นอกจากนี้ทราบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุสามารถหลบหนีไปได้อีกจำนวนหนึ่ง

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายต้องการลอบวางระเบิดสังหารเจ้าหน้าที่กองกำลังผสมชุดคุ้มครองรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ครู แต่เกิดโชคร้ายวางระเบิดผิดพลาด จนเกิดระเบิดขึ้นและทำให้มีผู้เสียชีวิต

สำหรับนายอาบัส อาบู มีหมายจับตามพ.ร.ก.ความมั่นคงหลายคดี โดยก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุลอบยิงเจ้าหน้าที่ และวางระเบิดมาแล้วหลายครั้ง
 
แต่สามารถหลบหนีรอดการจับกุมไปได้ทุกครั้ง นอกจากนี้เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา พี่ชายนายอาบัส ถูกเจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญ แต่นายอาบัส รอดการจับกุมไปได้อย่างหวุดหวิด และหลังจากนั้นพยายามก่อเหตุลอบยิงเจ้าหน้าที่มาอีกหลายครั้ง เพื่อแก้แค้นให้กับพี่ชาย แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งมาลอบวางระเบิดแล้วเกิดผิดพลาด จนทำให้ตัวเองเสียชีวิต

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง อ.รือเสาะ สนธิกำลัง 150 นาย บุกเข้าปิดล้อมหมู่บ้านในพื้นที่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ
 
เพื่อติดตามคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ เบื้องต้นทราบว่ามีบางส่วนหลบหนีไปรักษาตัว เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากเศษสะเก็ดระเบิด และมีอย่างน้อย 1 คนหลบหนีขึ้นเขาบูโด เขตรอยต่อพื้นที่ อ.รือเสาะ ยี่งอ และบาเจาะ จ.นราธิวาส เพื่อไปรักษาอาการบาดเจ็บ จึงนำกำลังจับกุมในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว

วันเดียวกัน เวลา 14.35 น. พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ มัทยาท ผกก.สภ.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา

รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดรักษาความปลอดภัยคณะครู ที่บริเวณถนนสายลำใหม่-ทุ่งคา บ้านน้ำเย็น หมู่ 2 ต.ลำใหม่ จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ยะลา พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รองผบก.กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ยะลา

ที่เกิดเหตุบริเวณถนนภายในหมู่บ้านห่างจากถนนสายหลักยะลา-หาดใหญ่ ประมาณ 1 กม.
 
พบรถกระบะอีซูซุ ตราโล่หมายเลขทะเบียน ขผ 1023 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถหุ้มเกราะประจำตำแหน่งของ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วงศ์พรหมเมศร์ อายุ 47 ปี รอง ผกก.ป.สภ.ลำใหม่ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ล้อหน้ายางแตก ห่างจุดระเบิดราว 30 เมตรพบหลุมระเบิดที่บริเวณคอสะพานลึกและกว้าง 2 x 3 เมตร ส่วน พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ และ ส.ต.ท.อาทิตย์ คำหาญพล อายุ 28 ปี คนขับ ถูกแรงระเบิดรถกระเด็นลอยไปชนต้นไม้ใหญ่ตกในทุ่งนา ทำให้ศีรษะบวม เคล็ดขัดยอกและมีอาการหูอื้อ จึงถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่รพ.ศูนย์ยะลา ส่วนในที่เกิดเหตุพบสะเก็ดระเบิด เศษถังแก๊สปิกนิก แบตเตอรี่ และวงจรชิ้นส่วนวิทยุสื่อสาร จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าไปรับคณะครู รร.บ้านทุ่งคา

 เพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย ช่วงหลังเลิกเรียน แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายแอบนำระเบิดแสวงเครื่องผูกติดกับถังแก๊สปิกนิก น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 15 กก.นำมาฝังดินไว้ที่บริเวณคอสะพานแล้วจุดชนวนระเบิดขึ้น จนทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายและมีผู้บาดเจ็บ ส่วนคนร้ายคาดว่าเป็นฝีมือแนวร่วมอาร์เคเคที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่พยายามแสดงศักยภาพและสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์