กรรมกรก่อสร้างรัดคอสังหารโหดอดีตรองผอ.ร.ร.

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 22 ม.ค. พ.ต.ท. บัญชา มีเลิศ สารวัตรเวร สภ.เมืองปทุมธานี
 
ได้รับแจ้ง มีคนถูกฆ่าที่บ้านเลขที่ 20/4 ถนนธรรมสุธีร์ หมู่ 6 ต.บางเดื่อ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.ธวัชชัย ยิ่งเจริญสุข ผกก. พ.ต.ท.ชัชทอง ธุระทอง รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ปณิธาน บุรถาวร รอง ผกก. สส. พ.ต.ต.วธน เอมะ- วรรธนะ สว.สส. และแพทย์เวรโรงพยาบาลปทุมธานี
 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น อยู่ในเนื้อที่ 100 ตารางวา

มีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรน่า สีเหลือง หมายเลขทะเบียน กข 1549 เพชรบุรี จอดอยู่ หน้าโรงรถ ประตูรอบตัวบ้านล็อกจากด้านในทุกด้าน เมื่องัดประตูหน้าเข้าไปถึงกับผงะ เพราะมีกลิ่นเหม็นอย่าง รุนแรง กลางห้องโถงชั้นล่าง พบศพ น.ส.สิริลักษณ์ ประเสริฐไทย อายุ 62 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพนอนหงาย กับพื้น ใส่เสื้อกล้ามสีน้ำเงิน สวมผ้าถุงลายดอก ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย ศพขึ้นอืดเน่าเฟะน้ำเหลืองเยิ้ม เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน 


เจ้าหน้าที่ตำรวจให้หน่วยกู้ภัยนำศพส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อตรวจชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากนั้นตรวจโดยรอบบริเวณมีไม้แขวนเสื้อ 1 อัน และรองเท้าแตะวางอยู่ ใกล้ศพ สภาพในห้องเป็นปกติ ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ หรือ รื้อค้น ต่อมาเพื่อนบ้านโทรศัพท์ติดต่อญาติผู้ตายชื่อนายสมชาย ประเสริฐไทย อายุ 64 ปี เป็นพี่ชายมาให้ ปากคำ นายสมชายให้การว่าน้องสาวเป็นอดีตรองผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบางเดื่อ ห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร
  


ส่วนน้องสาวอีกคนชื่อนางวรรณา สุวรรณชัย อายุ 58 ปี

พยาบาลโรงพยาบาลหัวหินให้การ ว่าพี่สาวชอบ ทำบุญ อยู่คนเดียวไม่มีครอบครัว ชาวบ้านและลูกศิษย์เรียกกันว่าครูน้อย เกษียณเมื่อ 2 ปีก่อน และปลูกเรือนแถวชั้นเดียวบนที่ดินหลังบ้านให้คนเช่า 5 ห้อง มีโรคประจำตัวเป็นไทรอยด์ แต่รักษาจนเกือบหายเป็นปกติแล้ว ไม่น่าเป็นสาเหตุการตาย อีกทั้งเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน เชื่อว่าถูกฆาตกรรมมากกว่าป่วยเสียชีวิตเอง เพราะทรัพย์สินส่วนหนึ่งหายไปมีโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าใส่เงิน
 

 ระหว่างสอบสวนอยู่นั้น พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 สังเกตเห็นชายเมาสุราอยู่ในกลุ่มไทยมุงดูเหตุการณ์อยู่หน้าบ้าน

ลักษณะน่าสงสัยประกอบกับมีชาวบ้านระบุว่าวนเวียนอยู่ในซอยผิดปกติ เลยนำตัวมาสอบสวนชื่อนายชาลี ไกรสร อายุ 25 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.บุรีรัมย์ ให้การปฏิเสธไม่รู้เรื่อง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่หายไปจนพบนำมายืนยัน  นายชาลีถึงกับคอตกยอมรับสารภาพ ให้การว่าเป็น กรรมกรก่อสร้าง พักอยู่กับพี่สาวและพี่เขยซอยติดกัน พี่เขยเคยมารับจ้างก่อสร้างบ้านเช่าให้ น.ส.สิริลักษณ์ เมื่อ บ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมาปีนรั้วและแอบเข้าไปในบ้านตั้งใจจะขโมยของ เจอ น.ส.สิริลักษณ์พอดีเลยขู่บังคับขอเงิน 5 พันบาทจะเอาไปกินเหล้า น.ส.สิริลักษณ์ไม่ให้และคว้าไม้แขวนเสื้อไล่ตี จึงผลักจนล้มแล้วใช้สายไฟพัดลมรัดคอตายก่อนเอาโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงินไป 

ด้าน พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า

พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 ทราบเหตุได้สั่งให้ตนเข้าควบคุมคดี จากการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่หายไป มีคนนำไปใช้ในเขต อ.เมืองปทุมธานีใกล้ตลาดสดเทศบาลในตัวเมือง จึงติดตามค้นหาจนพบ สอบถามทราบว่าซื้อมาจากร้านขายโทรศัพท์มือถือใกล้ สภ.เมืองปทุมธานี เลยไปที่ร้าน เจ้าของร้านให้ความร่วมมือนำสำเนาบัตรประชาชนของคนที่นำโทรศัพท์ของผู้ตายมาขาย ปรากฏว่าเป็นนายชาลี  


นอกจากนี้หลังเกิดเหตุ 2 วันนายชาลีได้เล่าให้พี่สาวฟังและยังไปขอธูปเทียนชาวบ้านบอกว่าจะไปขอขมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามก็ให้การว่าเพราะฝันถึงและเห็นภาพหลอน น.ส.สิริลักษณ์คอยติดตามตลอดเวลา พนักงานสอบสวนได้คุมตัวทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพแล้ว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์