กรมศุลฯทุบเฟอร์รารี่ราคา40 ล้านบ.หวังปิดช่องฟอกรถ

กรมศุลกากร ยันไม่สนอิทธิพลมืด ตัดสินใจทุบ รถยนต์เฟอร์รารีราคาเหยียบ40 ล้านบาท


เมื่อเวลา 10.55 น. หวังปิดช่องขบวนการ"ฟอกรถ"ที่ใช้วิธีลักลอบนำเข้ารถยนต์เลี่ยงภาษี แยกอะไหล่ หวังกลับมาประมูลซื้อในราคาต่ำ  (26กย.) นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานการทุบทำลายรถยนต์ ยี่ห้อ Ferrari รุ่น 456 GT สีเทา ตามที่กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ตรวจยึดและจับกุมรถยนต์ของกลางยี่ห้อดังกล่าวได้ที่อู่เบนซ์แอลเค จังหวัดสมุทรปราการ โดยไม่มีผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2550 จึงได้นำส่งกรมศุลกากรในคดีลักลอบหนีศุลกากร


กรมศุลกากรจึงได้พิจารณาเห็นว่ากรณีนี้เป็นความผิดตามมาตร 27 พ.ร.บ.ศุลกากร 2469 รถยนต์ของกลางจึงตกเป็นของแผ่นดิน


ต่อมาได้ตรวจพบรถยนต์คันดังกล่าวไม่มีอุปกรณ์สำคัญเช่น สมองกลเครื่อง สมองเอบีเอส สมองกลเกียร์ ระบบสายไฟทั้งหมด ท่อไอเสีย ปั๊มเอบีเอส เป็นต้น คณะกรรมการจำหน่ายรถยนต์ของกลางกรมศุลกากรจึงเห็นว่า เพื่อตัดช่องทางของขบวนการแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองอย่างไม่ถูกต้อง ที่นำรถยนต์เข้ามาโดยวิธีถอดแยกชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์ออกก่อน ทำให้สภาพรถยนต์คันนี้มีมูลค่าต่ำ และนำมาให้จับกุม หากนำออกมาขายทอดตลาดผู้ประมูลทั่วไปจะไม่สามารถขับรถได้นั้น ยกเว้นกลุ่มของตัวเอง เพราะได้ถอดอุปกรณ์สำคัญออกหมดแล้ว และเมื่อประมูลออกไปแล้วจะนำอุปกรณ์ ที่ถอดออกใส่เข้าที่เดิม ซึ่งจะสร้างกำไรให้ขบวนการ"ฟอกรถ"ดังกล่าวเป็นอย่างมาก


คณะกรรมการจำหน่ายรถยนต์ของกลางฯจึงมีมติให้ทำลายรถยนต์ของกลางดังกล่าว


โดยวิธีให้รถแบคโฮบดทับจนใช้การไม่ได้ และขายเป็นเศษเหล็ก เพื่อตัดขบวนการเหล่านี้ตามแนวนโยบายของกระทรวงการคลัง นายชวลิต กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องทำการทุบรถยนต์คันดังกล่าวเพราะต้องการตัดช่องทางของขบวนการแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง และก่อนทำลายก็ได้มีการหารือกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.แล้วซึ่งสตง.ไม่มีหลักฐานเอกสารเพียงพอที่จะมาแสดงข้อมูลของรถยนต์ดังกล่าวต่อกรมศุลกากรได้


“เราต้องการส่งสัญญาณให้คนที่ทำแบบนี้รู้ว่าไม่สามารถเอาเปรียบคนอื่น หรือ ใช้กลโกงได้ หากเราตรวจสอบว่ามีการดำเนินการในลักษณะนี้อีกเราก็จะทำลายอย่างเดียว และเราก็ทำตามหน้าที่ ไม่สนว่าคนๆ นั้นจะเป็นใคร”


รายงานข่าวระบุว่า รถยนต์คันดังกล่าว เป็นพรรคพวกของผู้มีอิทธพลในปากน้ำ

เป็นกลุ่มนักการเมืองในสมุทรปราการ กับผู้บริหารของธปท.ซึ่งเมื่อวันที่25ก.ย.ที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่ของสตง. 4 คนมาระงับไม่ให้ทำลายรถยนต์โดยหนึ่งในจำนวนนั้นระบุว่า ตัวเองชื่อใหญ่ และมีแม่เป็นใหญ่อยู่ในแบงก์ชาติ อีก 2ปีเกษียณอายุ นายชวลิต กล่าวว่า กรมศุลกากร ได้ทำตามหน้าที่ และนโยบายของกระทรวงการคลัง การทำลายครั้งนี้ได้ผ่านคณะกรรมการจำหน่ายรถยนต์ของกลาง ซึ่งมีตัวแทนมาจากสำนักงานอัยการสูงสุด ตัวแทนจากกระทรวงยุติธรรม ตัวแทนจากสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง และตัวแทนจากกรมบัญชีกลาง เพราะเห็นพ้องต้องกันว่า ต้องทำการตัดช่องทางขบวนการแสวงหาผลประโยชน์อย่างไม่ถูกต้อง ที่นำรถยนต์เข้ามาโดยมีวิธีการถอดแยกชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์ออกก่อนซึ่งคนธรรมดาไม่สามารถทำได้
 

“หากนำรถคันดังกล่าวออกประมูลก็ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีสมองกล เนื่องจากถูกถอดออกไปหมดแล้ว ทั้งสมองกลเครื่อง สมองกล ABS สมองกลเกียร์ รวมถึงระบบไฟทั้งหมดด้วย ซึ่งรถคันนี้ตำรวจเป็นคนจับกุมมาได้ ดังนั้นคนที่จะมาประมูลได้ก็ต้องเป็นคนกลุ่มเดียวกันกับที่ถอดสมองกลออกไป เพราะสมองกล นั้นจากการสอบถามไปยังเฟอร์รารี่ ระบุว่าสมองกลนั้นจะมีการผลิตมาเฉพาะคันนั้น ๆ เท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่สามารถหาสมองกลตัวอื่นมาทดแทนได้ “


สำหรับราคารถใหม่นั้นจะอยู่ที่ ประมาณ 35-40 ล้านบาท

แต่สภาพที่เป็นอยู่ในขณะนี้คือ 4.6 ล้านบาท หากนำเข้าถูกต้องตามกฎหมายและเสียภาษีถูกต้องก็จะอยู่ที่ประมาณ กว่า 20 ล้านบาท สำหรับบรรยากาศของการทุบรถยนต์เฟอร์รารี่ คันนี้ มีสื่อมวลชนและผู้ที่เข้ามาร่วมงานประมูลรถยนต์ครั้งที่3 ที่กรมศุลกากรจัดขึ้น ได้ให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาๆ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์