´หมอลำซิ่ง´โชว์จิ๋ม! เต้นยั่วใน´งานบวช´

จี้รอง ผบ.ตร.จัดการ



อดีตนางเอกดัง จิ๊ก-เนาวรัตน์ ยุกตะนันทน์ ฉุนจัดสวนหมัด เจ๊เบียบ ระบุ แต่ละครอบครัวเลี้ยงลูกไม่เหมือนกันเป็นสิทธิส่วนบุคคล คนอื่นไม่เกี่ยวลั่นฟ้องกลับที่เอาตัวเองไปประจานทำให้เสียชื่อเสียง

ด้าน ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมถึงกับอึ้ง

เจอคณะหมอลำซิ่งเมืองแม่กลองให้หางเครื่อง "โชว์จิ๋ม" อล่างฉ่างกลางงานบวช จี้ รองผบ.ตร.เร่งจัดการ ขณะที่ ปลัด วธ. เป็นห่วงเด็กและเยาวชนจะเห็นว่าการแก้ผ้าต่อหน้าสาธารณชนเป็นเรื่องปกติ

วอนคนเห็นการแสดงไม่เหมาะสมให้รีบแจ้ง

ส่วนอธิบดีกรมศาสนา เตือนประชาชนจัดกิจกรรมบาปในงานบุญจะไม่ได้บุญ ขอให้คำนึงถึงศีลธรรม และความเหมาะสมเป็นหลัก

เมื่อวันที่ 22 เม.ย. น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย

ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตนได้ รับรายงานจากเครือข่ายเฝ้าระวังฯ ว่า ได้พบพฤติกรรมการแสดงหมอลำซิ่งโชว์จิ๋มของคณะการแสดงหนึ่งจึงได้ส่งภาพถ่ายหมอลำซิ่ง

คณะนี้มายังศูนย์เฝ้าระวังฯ โดยระบุว่า

พบการแสดงดังกล่าวในงานบวชญาติของเพื่อนที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อตนเห็นภาพทั้งหมดแล้วสามารถเรียกการแสดงนี้ว่า "โชว์จิ๋ม" เนื่องจากการเต้นมีลักษณะยั่วยวนทางเพศพอเต้นได้จังหวะจึงเปิดกระโปรงโชว์อวัยวะเพศอย่างโจ๋งครึ่ม



หรือแก้จนผ้าหมดหลังเพลงจบแล้ว

เดินวนหนึ่งรอบก่อนเข้าหลังเวที การแสดงดังกล่าวถือว่า ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเป็นการแสดงลามกอนาจารอย่างชัดเจนต่อสาธารณชน ตนเห็นว่า ปัจจุบันการแสดงของหางเครื่องหมอลำซิ่งมีการพัฒนาเครื่องแต่งกาย

และท่าทางการเต้นที่ยั่วยวนทางเพศมากขึ้น

จนแตกต่างจากสมัยก่อนที่หางเครื่องหมอลำซิ่งจะนิยมนุ่งผ้าซิ่นใส่เสื้อพื้นบ้านแบบอีสานและมีท่าเต้นที่สนุกสนานไม่ยั่วยุทางเพศ

น.ส.ลัดดา กล่าวต่อไปว่า สำหรับการแสดงหมอลำซิ่งโชว์จิ๋ม

หรือการจัดหาโคโยตี้ หรือพริตตี้นั้น จะมีออแกไนเซอร์ หรือบริษัทรับจัดหาดนตรีหางเครื่องเป็นผู้จัดหาไปแสดงตามที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเหมือนกับการโรดโชว์โป๊เคลื่อนที่ไปแล้ว

โดยเมื่อแสดงที่ไหนก็จะแจกนามบัตรพร้อมเบอร์โทรศัพท์

ให้แก่ลูกค้าที่มาชมการแสดงในงาน หรือจะติดประกาศชื่อวงและเบอร์โทรศัพท์ตามหน้าเวที หน้าเครื่องดนตรี แผ่นป้ายโฆษณาที่ติดกับรถ ซึ่งกรณีหมอลำซิ่งโชว์จิ๋มนี้ เท่าที่เครือข่ายเฝ้าระวังฯ รายงานให้ฟังว่า

มีสำนักงานตั้งอยู่ใน จ.สมุทรสงคราม

การติดต่อไปแสดงนั้นถ้าเป็นหางเครื่องชุดเล็กราคาจะอยู่ที่ 60,000 บาท ชุดใหญ่ราคาอยู่ที่ 100,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ไม่รวมค่าเคลียร์ตำรวจในท้องที่เพื่อที่จะตกลงในการแสดงโป๊ ลูกค้าจะตกลงกันเอง ถ้าตำรวจยินยอมจึงสามารถแสดงได้ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพวกที่นับหน้าถือตาคนในชุมชนนิยมจัดงานวันเกิด และงานบวช เป็นต้น



"ดิฉันได้ส่งได้ภาพชุดนี้ให้ พล.ต.อ. วงกต มณีรินทร์

รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานอนุกรรมการสืบสวนปราบปรามสื่อที่กระทำ ผิดกฎหมายให้ช่วยดำเนินการแล้ว ซึ่งน่าเห็นใจการแก้ปัญหาดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาตำรวจจะไปตามจับตามปิดก็ทำได้ในระดับหนึ่ง

แต่การแสดงที่ไม่เหมาะสมมีขึ้นได้ทุกวัน

ทั้งยังเคลื่อนที่ไปแสดงตามที่ต่าง ๆ จึงอยากให้ประชาชนมาช่วยกันร่วมเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับภาครัฐด้วย เมื่อเห็นการแสดงที่ไม่เหมาะสมสามารถแจ้งมาได้ที่ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม

หรือที่ศูนย์ปฏิบัติการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ของรัฐบาล

โทร. 1111" ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังฯ กล่าวและว่า ตนอยากฝากบอกนักจัดกิจกรรมว่า ควรคำนึงสภาพของสังคมวัฒนธรรมไทยและคุณธรรมที่อยู่ร่วมกันในสังคมด้วย ไม่อย่างนั้นเด็กและเยาวชนจะเกิดค่านิยมไม่เหมาะสมเลียนแบบเปลื้องผ้า โดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

ขณะที่ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดวธ. กล่าวว่า

การแสดงหมอลำซิ่งประเภทนี้ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเป็นการทำลายวัฒน ธรรมอันดีของชาติ ส่วนใหญ่จะนิยมจัดขึ้นกันในวัด สถานที่สาธารณะ หรือตามโรงเรียนต่าง ๆ ทั้งนี้ตนคิดว่าถ้าแสดงถึงขั้นเปิดอวัยวะเพศ

ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ชม ต้องมีความผิดตามกฎหมาย

โทษฐานลามกอนาจารในที่สาธารณะ รวมทั้งอยากฝากถึงประชาชนด้วยว่า ถ้าพบเห็นการแสดงที่ไม่เหมาะสมให้ช่วยกันแจ้งมาที่ วธ. หรือช่วยกันแสดงให้กลุ่มผู้จัดงานเห็นว่าสังคมไม่ได้เห็นด้วยกับการแสดงที่ส่อไปในทางลามก อนาจาร



เพราะเท่าที่ตนได้เห็นการนำเสนอข่าวสาวพริตตี้

ที่ประชาชนถึงกับต้องแจ้งตำรวจให้มาจัดการ แสดงให้เห็นว่าประชาชนตื่นตัวต่อเรื่องนี้อย่างมาก ตนไม่อยากให้เด็กและเยาวชนเห็นการแสดงดังกล่าว เพราะจะทำให้เด็กคิดว่าเป็นเรื่องปกติ

สามารถทำได้โดยไม่มีความผิด

จึงอยากให้ประชาชนในสังคมช่วยกันออกมาเตือนผู้จะจัดกิจกรรมว่า อย่าเห็นเป็นเรื่องปกติ ควรจะช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียมที่งดงามของชาติจะ ดีกว่า

ด้าน นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนากล่าวว่า

การจัดงานบุญ เช่น งานทอดผ้าป่า ทอดกฐิน หรือแม้แต่งานบวช ซึ่งตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา ถือว่าเป็นงานบุญใหญ่ โดยเฉพาะงานบวช พ่อ แม่ จะได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ แต่ถ้ามีการนำกิจกรรมการแสดงที่ไม่เหมาะสม

อาทิ การแสดงหมอลำซิ่งโชว์จิ๋ม

ไปแสดงในงานบุญต่าง ๆ ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างมาก เพราะจะทำให้เกิดความมัวหมองต่อพระพุทธศาสนา และวัฒน ธรรม ทั้งนี้ ถ้าบุคคลใดบวช แต่พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง นำกิจกรรมประเภทนี้มาจัด ตนคิดว่าอย่ามาบวชที่วัดจะดีกว่า เนื่องจากจะทำให้ได้บาป มากกว่าได้บุญ

"ผมอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่า

ถ้าอยากจะทำบุญก็ไม่ควรจะนำกิจกรรมบาปเข้ามาร่วม ควรที่จะเลือกว่าจะทำบุญ หรือจะทำบาป ควรที่จะต้องตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง และต้องคำนึงถึงศีลธรรมด้วย เพราะถ้าลูกหลานของท่านที่เป็นเด็กและเยาวชนมาเห็น



ผู้ใหญ่จะตอบคำถามเด็กอย่างไร

รวมทั้งจะสร้างแบบอย่างให้เด็กรุ่นใหม่เข้าใจว่างานบุญสามารถนำการแสดงลามกอนาจารมาแสดงได้ โดยถือเป็นเรื่องปกติ" อธิบดีกรมการศาสนา กล่าว

ส่วนกรณีที่นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช

นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข กล่าวตำหนิอดีตนางเอกชื่อดัง "จิ๊ก-เนาวรัตน์ ยุกตะนันทน์" ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่งทำนองสนับสนุนให้ลูกชายเป็นคนเจ้าชู้ โดยระบุว่า หากผู้ชายไม่เจ้าชู้ก็เหมือนกับงูไม่มีพิษ ถือว่าเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง เป็นการสร้างค่านิยมที่ผิดนั้น

ต่อมา "จิ๊ก-เนาวรัตน์" ให้สัมภาษณ์โต้กลับนางระเบียบรัตน์

อย่างมีอารมณ์ว่าสำหรับ ผู้หญิงคนที่ออกมาว่าตนนั้น ตนไม่เคยรู้จักเลยว่าเป็นใคร เขามีหน้าที่อะไร ตนเองก็ไม่อยากรู้จักคนใหญ่คนโต และไม่ต้องการให้ใครมายุ่งเรื่องครอบครัว อยู่ในวงการมา 30 ปี รู้ตัวว่าพูดอะไร

ทำอะไรอยู่ ทางรายการให้เกียรติเชิญเรา

ไปออกรายการเขาถามถึงวิธีการเลี้ยงลูก และปล่อยอิสระให้เราพูดได้เต็มที่ ซึ่งวิธีการเลี้ยงลูกของ ตนมันผิดด้วยหรือ ทุกครอบครัวเลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน ตนเลี้ยงลูกให้อยู่ในสังคมได้อย่างเข้มแข็งแข็งแกร่ง

ลูกตนเป็นผู้ชายเจ้าชู้ มันผิดตรง

ไหน อยากให้ลูกมีแฟนเยอะ ๆ และสุดท้ายให้เขาเลือกคนที่ดีที่สุดมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสร้างครอบครัว ตนผิดด้วยหรือ ตนไม่ได้ทำให้ชีวิตใครเดือดร้อน



อดีตนางเอกดัง กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าโกรธมาก

เพราะเขาไม่ได้รู้จักตัวตนเรา ดูแต่ทีวีแล้วจับเอามาพูดขยายความ เป็นผู้ใหญ่ควรทำตัวให้เป็นที่เคารพ ถ้าตนผิดสามารถเรียกตนไปตักเตือนได้ ไม่ใช่เอามาพูดประจานกันอย่างนี้ ตนจะปรึกษากับทนายความเพื่อฟ้องผู้หญิงคนนี้

ที่เอาตนไปประจานในทางที่ไม่ดี

ทำให้ตนกับครอบครัวได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง เพราะทั้งสื่อทีวีและหนังสือพิมพ์เผยแพร่ข่าวกันไปทั่ว นับเป็นครั้งแรกที่ตนคิดจะฟ้องร้องคนอื่น เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ตนเป็นคนที่คิดอะไรก่อนจะพูด

และคิดว่าตนเป็นแม่ที่ดีที่สุดในชีวิตของลูกแล้ว

เรื่องนี้เป็นเรื่องของครอบครัว เป็นสิทธิส่วนบุคคล บุคคลที่สามไม่เกี่ยว อีกทั้งดาราก็มีหัวใจ มีความรู้สึก ไม่ใช่ใครจะมาว่าอะไรก็ได้.



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์