ตะครุบสองหนุ่มสิ้นคิดอุ้มญาติเรียกค่าไถ่ครึ่งล้าน

ตะครุบสองหนุ่มสิ้นคิดอุ้มญาติเรียกค่าไถ่ครึ่งล้าน

ตำรวจภาค 5 รวบสองผู้ต้องหาอุ้มญาติเรียกค้าไถ่ 5 แสน โดนตะครุบได้หลังคิดหนีเข้า กทม. รับเฉย แค่นึกล้อเล่นไม่คิดจะได้เงินจริง โบ้ยอดีตทหารจีนหัวหน้าทีม เข้ามาบงการเรื่องราวจึงเลยเถิดเกินควบคุม

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5

แถลงผลการจับกุม นายรุ่งโรจน์ แซ่หลี่ อายุ 34 ปี และนายศิวกร พันธุศิลป์ อายุ 21 ปี พร้อมของกลาง รถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน  ญช 2464 กทม. โทรศัพท์มือถือ สร้อยคอทองคำ และทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง

สืบเนื่องจาก ช่วงกลางดึกของคืน วันที่ 8 ก.ย. นายอดิศร ศรีมี่ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.ปี  1 วิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่

ได้ถูกสองผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดอุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่ 5 แสนบาท ก่อนที่มารดาของผู้เสียหายจะยอมโอนเงินจำนวนดังกล่าวให้ไป เพื่อแลกกับความปลอดภัยของลูกชาย ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือ ต่อมา เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาที่ได้เงินไปแล้วกำลังจะหนีไปที่ กทม. จึงเข้าตั้งด่านสกัดจับ กระทั่งจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ที่บริเวณด่านตรวจบ้านห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ขณะทั้งคู่นั่งอยู่บนรถเก๋งของกลาง

จากนั้น หลังคุมตัวมาสอบสวน ผู้ต้องหาให้การวกวนไปมา อ้างว่า
 
ก่อเหตุเรียกค่าไถ่ด้วยเงินดังกล่าวจริง แต่เป็นการวางแผนร่วมมือกันกันผู้เสียหาย เพื่อหวังหลอกเอาเงินมารดา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเรียกตัวผู้เสียหายมาสอบอีกครั้งว่าเป็นจริงตามที่ผู้ต้องหาซัดทอดหรือไม่ แต่ผู้เสียหายยังยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน เดือดร้อนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งหลังสอบนานหลายชั่วโมง ในที่สุดผู้ต้องหาก็รับสารภาพว่า ผู้เสียหายไม่มีส่วนรู้เห็นและที่ก่อเหตุนั้น เพราะรู้ว่ามารดาผู้เสียหายที่เงินมาก

โดย นายรุ่งโรจน์ เล่าพฤติการณ์ทั้งหมดว่า ปกติตนมีอาชีพรับแทงหวยใต้ดิน ก่อนที่นายศิวกร ซึ่งเป็นหลานจะเข้ามาหา
 
พร้อมบอกว่า ขณะนี้มีหนี้สินจำนวนมาก อยากให้ช่วยเหลือ จากนั้นทราบว่าผู้เสียหายซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานอีกคนนั้น มารดาหวงมาก รวมทั้งมีฐานะพอสมควร แต่ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ จึงเข้าปรึกษา นายเดิม อดีตทหารจีน ที่ปัจจุบันมีอาชีพเป็น การ์ดให้กับสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง จนมีทีมงาน 3 ราย ต่อมา นายเดิม ได้ว่าจ้าง น.ส.เฟิร์น ด้วยเงิน 3,000 บาท ทำการลวงหลอกผู้เสียหายให้มาติดพัน ก่อนจะล่อนัดแนะให้มาเจอกันที่บริเวณหน้าโรงแรมบีทู ใกล้กับโลตัสตลาดคำเที่ยง ถนนเชียงใหม่ - ลำปาง อ.เมือง พอถึงที่หมายพวกตนก็เข้าขับรถอุ้มขึ้นมาบนรถ ก่อนพาไปซุกตัวไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.สันโป่ง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อเรียกค่าไถ่จากมารดานายอดิศร เป็นเงิน 5 แสนบาท

“พอรู้ว่าแม่เหยื่อโอนเงินมาแล้ว ผมกับหลานก็ไปตระเวนกดตามตู้เอทีเอ็มจนได้เงินครบ จึงพาผู้เสียหายไปส่งทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันบางจากใน อ.แม่ริม จากนั้นก็เอาเงินมาแบ่งกัน โดยผมกับหลานได้มาคนละ 1 แสน ส่วนนายเดิม หัวหน้าทีมได้ไป 3 แสน และแยกย้ายกันทันที แต่มารู้ว่าผู้เสียหายเข้าแจ้งความจนตำรวจเริ่มสืบสวน ด้วยความกลัวเลยพาหลานขับรถหนีหวังซ่อนตัวที่ กทม. แต่ก็มาโดนจับได้ ส่วนนายเดิมไม่รู้ว่าไปหลบที่ใด อยากขอโทษแม่ของเขาจริงๆ ทีแรกคิดจะล้อเล่น แต่พอนายเดิมเข้ามาเป็นทีมงาน เรื่องราวจึงเลยเถิดไปไกลจนเกินจะควบคุม”

 

พล.ต.ท.สุเทพ กล่าวว่า สำหรับรถยนต์ของผู้ต้องหาที่ใช้ก่อเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว ก็พบว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาจาก สน.ดอนเมือง เมื่อปี 2555 ด้วย ซึ่งถ้าเจ้าของรถสงสัยว่าเป็นรถของตัวเองก็ให้มาดูได้ ส่วนด้านคดีจะเร่งสืบสวนติดตามตัวนายเดิม มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์