เก๋งประกบฆ่าสาว มีเรื่องกับญาติผัว

เมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 24 มี.ค. พ.ต.ท.ทวีศิลป์ อำลอย สารวัตรเวร สภ.อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนสายบ้านน้ำขาว-คลองเมียด กม. 10-11 บริเวณเชิงสะพานหนองบอน หมู่ 2 ต.อินคีรี

จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ. สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท. นุสิทธิ์ อนุสรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.อ.พรหมคีรี พ.ต.ท.วิรัตน์ พิพัฒน์วัฒนชัย รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.เริงชัย ราชกิจจา สว.สส. นำกำลังและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งรุดไปสอบสวน

ยิงสาวดับ คา จยย.

พบเหยื่อกระสุนชื่อ น.ส.จารียา อินทวงศ์ อายุ 32 ปี หัวหน้าแผนกเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ สาขานครศรีธรรมราช อยู่บ้านเลขที่ 76/11 หมู่ 6 ต.อินคีรี นอนตะแคงคร่อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำคาดแดง ทะเบียน ขตช 832 นครศรีธรรมราช

ถูกยิงด้วยปืน .357 หัวระเบิด เข้าสะบักหลังขวา 2 นัด กระสุนไปตุงที่ใต้รักแร้ซ้าย 1 นัด และทะลุออกแขนซ้าย 1 นัด เลือดทะลักโซมกายหายใจรวยริน โดยมี น.ส.สุคนธา อินทวงศ์ อายุ 34 ปี พี่สาว นั่งประคองร่างไว้ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก จึงรีบนำส่ง รพ.นครินทร์นครศรีธรรมราช และ น.ส.จารียาเสียชีวิตในเวลาต่อมา

สอบสวน น.ส.สุคนธา พี่สาวเหยื่อโหด ให้การว่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์อีกคันไปรอรับ น.ส.จารียา อยู่ที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว หลังเลิกงาน น.ส. จารียาได้ขี่รถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุนำออกจากห้างเพื่อกลับบ้าน กระทั่งถึงสามแยกบางปู ถนนนพวงศ์ ตรงข้ามท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ต.ปากพูน พบรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ริมถนน พอพวกตนขี่รถผ่านไป

รถเก๋งคันดังกล่าวก็ขับตามมา แต่ไม่ได้สนใจคิดว่าเป็นรถมารับคนที่สนามบิน กระทั่งถึงที่เกิดเหตุ รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องแซงรถที่ตนขี่ เข้าประกบรถของ น.ส.จารียา ก่อนที่คนร้ายที่นั่งข้างคนขับจะลดกระจกประตูหน้าด้านซ้ายลง ใช้อาวุธปืนยิงใส่ น.ส.จารียา 2 นัดซ้อน จนรถล้มบาดเจ็บสาหัส แล้วคนร้ายได้ขับหนีไปทาง อ.ท่าศาลา น.ส.สุคนธากล่าวต่อว่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับ น.ส.จารียา หลังเลิกงานมานานร่วม 3 สัปดาห์แล้ว เนื่องจาก น.ส.จารียาเล่าให้ฟังว่ากำลังถูกปองร้าย

ตร.พุ่งปมขัดแย้ง ญาติแฟนหนุ่มกับผู้ตาย

ทางด้าน พ.ต.ท.เริงชัย ราชกิจจา สว.สส.สภ.อ. พรหมคีรี เปิดเผยว่า ปมสังหารครั้งนี้ ตำรวจพุ่งเป้าไปที่ความขัดแย้งระหว่าง น.ส.จารียา ผู้ตาย กับญาติของแฟนหนุ่ม โดย น.ส.จารียาได้เข้าพิธีแต่งงานกับ นายวีระศักดิ์ ศรีวิชัย อายุ 27 ปี พนักงานขายเครื่องใช้ไฟฟ้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาหาดใหญ่ จ.สงขลา และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ เอกชัย ศรีวิชัย

นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เมื่อเดือน ก.พ. 2549 และมีการเลี้ยงฉลองสมรสอย่างใหญ่โตที่บ้านของ น.ส.จารียา ที่ อ.พรหมคีรี แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน โดยก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าพิธีแต่งงานกัน พี่เขยของนายวีระศักดิ์ ทำงานเป็นพนักงานคุมสต๊อกของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ ได้ปลุกปล้ำหลานสาวของ น.ส.จารียา ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กัน จนถูกฝ่ายหญิงแจ้งความดำเนินคดี ขณะที่ น.ส.จารียา และนายวีระศักดิ์ พยายามเข้าไกล่เกลี่ยไม่ให้เอาความแต่ไม่สำเร็จ

สว.สส.สภ.อ.พรหมคีรีกล่าวต่อว่า กระทั่งถึงวันแต่งงาน พี่เขยนายวีระศักดิ์ไปร่วมงานด้วย หลานสาวของ น.ส.จารียาได้ชี้หน้าพี่เขยนายวีระศักดิ์ให้ญาติๆดู บอกว่าเป็นคนที่ปลุกปล้ำตน ทำให้ญาติ น.ส.จารียาโกรธจัด ถึงกับชักปืนจะยิงระบายแค้น พี่เขยนายวีระศักดิ์ต้องรีบเผ่นออกจากงานพร้อมพรรคพวก หลังจากนั้นพักใหญ่ พี่เขยนายวีระศักดิ์กับญาติๆกลุ่มใหญ่ ย้อนกลับเข้างาน อาละวาดล้มโต๊ะจนงานต้องเลิกกลางคัน

ซึ่งญาติของนายวีระศักดิ์คนหนึ่งได้ประกาศตัดญาติขาดมิตร และไม่ยอมให้นายวีระศักดิ์อยู่กินกับ น.ส.จารียา แล้วพากันออกจากงาน น.ส.จารียาจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.อ.พรหมคีรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับญาติของนายวีระศักดิ์ ในข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ส่วนญาติของนายวีระศักดิ์เข้าแจ้ง ความดำเนินคดีญาติของ น.ส.จารียา ให้ข้อหาข่มขู่และพยายามฆ่า คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นอัยการ

ตร.เน้นปมฆ่าเหตุญาติทะเลาะกัน

สารวัตรคนเดิมกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นญาติทั้ง 2 ฝ่ายก็กินแหนงแคลงใจกันมาตลอด และพยายามหาทางให้ น.ส.จารียากับนายวีระศักดิ์เลิกคบกัน แต่ทั้งคู่ ไม่ฟังเสียง ยังคงคบหากันฉันผัวเมียอย่างลับๆไม่ให้ญาติรู้ กระทั่งเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ญาตินายวีระศักดิ์มาข่มขู่ น.ส.จารียากับพวกให้ถอนแจ้งความ หรือไปให้การเพิ่ม เติมเพื่อให้ยุติคดีที่

น.ส.จารียากับหลานสาวแจ้งความไว้ แต่ น.ส.จารียาไม่ยอมทำตาม และมีการโต้เถียงกัน กล่าวขู่อาฆาตไว้ จน น.ส.จารียาถูกคนร้ายประกบยิงตาย ทำให้ตำรวจให้น้ำหนักประเด็นนี้เป็นพิเศษ แต่ยังไม่ ทิ้งปมชู้สาว เนื่องจากสืบสวนทราบว่ามีชายมีเมียแล้วมาติดพันผู้ตาย ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุ เชื่อว่าเป็นมืออาชีพที่มีความชำนาญการใช้อาวุธปืน เนื่องจากยิงเข้าจุดตายอย่างแม่นยำ ซึ่งจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง และติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป