นึกว่ากินได้ เม็ดฟู่ในซองขนม ป.4 ดิ้นทุรน

"อาเจียนรุนแรง ปาร์ตี้ ทำเหตุ"


เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 มี.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่อาคารกุมารเวช รพ.อ่างทอง เนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีเด็กกินขนมซองแล้วอาเจียนอย่างรุนแรง เข้ารักษาตัวอยู่ พบ ด.ช.เอกภพ สุคันธจันทร์ อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนสนามชัยสิทธินุสรณ์

อยู่บ้านเลขที่ 98/5 หมู่ 4 ต.บ้านนา อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา นอนรักษาตัวอยู่บนเตียง 4 ชั้นสาม อาคารกุมารเวช อยู่ในสภาพอิดโรย แพทย์ต้องสอดสายยางเข้าทางจมูกเพื่อระบายน้ำจากช่องท้อง ป้องกันอาเจียน โดยมีนายพิเชษฐ สุคันธจันทร์ อายุ 40 ปี และนางวิไล กุศลสุข อายุ 67 ปี พ่อและย่า เฝ้าดูอาการด้วยความเป็นห่วง

นึกว่าขนมกินเข้าไปอาเจียน ต้องรีบส่ง รพ.

นายพิเชษฐเปิดเผยว่า เช้าวันนี้ได้พา ด.ช.เอกภพ และหลานๆ ไปไหว้พระที่วัดต้นสน ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง และได้ลงไปให้อาหารปลาที่ท่าน้ำหน้าวัด โดยก่อนจะขึ้นรถเดินทางกลับบ้าน ด.ช.เอกภพ ขอเงิน 5 บาท วิ่งไปซื้อขนมซองยี่ห้อ ปาร์ตี้ ซึ่งเป็นมันผสมทอดกรอบเคลือบเนยคาราเมล ซองสีแดง ระบุ

บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ ฟู้ดส์ จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย และ ด.ช.เอกภพได้ฉีกซองบนรถ และได้พบซองพลาสติกสีขาวอีกซองปะปนอยู่กับขนม ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ด.ช.เอกภพได้แกะซองดังกล่าวออกดู พบว่าภายในมีจรวดพลาสติกขนาดยาว 2 นิ้ว มีเม็ดยาสีขาวคล้ายวิตามินซี 3 เม็ด จึงใส่เม็ดยาดังกล่าว 1 เม็ดเข้าปาก เพียงครู่เดียวก็รีบคายทิ้งแล้วคว้าขวดน้ำดื่มลงไป

"ระบุข้างซองไม่เป็นอันตราย แต่ไม่ควรกิน อาจเกิดอาการข้างเคียง"


พ่อหนูน้อยเคราะห์ร้ายกล่าวต่อว่า จากนั้นราว 10 นาที ด.ช.เอกภพอาเจียนอย่างรุนแรงและดิ้นทุรนทุราย จนต้องรีบพาเข้า รพ.อ่างทอง ให้แพทย์เยียวยา พร้อมนำซองขนม รวมทั้งเม็ดยาที่เหลืออีก 2 เม็ด ส่งให้แพทย์ ตรวจดูเพื่อประกอบการวินิจฉัยรักษา ซึ่งแพทย์ได้นำ ด.ช.เอกภพเข้าล้างท้องในห้องฉุกเฉิน ก่อนจะส่งขึ้นไป นอนพักฟื้นดูอาการที่ตึกกุมารเวช หลังเกิดเหตุตนได้ ตรวจดูซองพลาสติกบรรจุเม็ดยาอย่างละเอียด

พบว่าหน้าซองเขียนว่า ปาร์ตี้สนุกกับการเล่นกึ่งทดลองทางวิทยาศาสตร์จรวดจิ๋วตะลุยเวหา และมีคำแนะนำการเล่นและคำเตือนเป็นอักษรขนาดเล็กๆ ระบุว่าเม็ดยาดังกล่าวคือเม็ดฟู่ เป็นสารวิทยาศาสตร์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ไม่ควรกินหรืออม หรือนำเข้าปาก เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง โดยการเล่นจรวดจิ๋วจะต้องใส่ เม็ดฟู่ในฐานคล้ายถ้วย ใส่น้ำลงไป แล้วสวมจรวดลงบนฐาน จากนั้นเม็ดฟู่จะทำปฏิกิริยากับน้ำดันจรวดจิ๋วพุ่งขึ้นฟ้า

ส่วนนางวิไล กุศลสุข ย่าคนป่วย กล่าวด้วยความไม่พอใจว่า ผู้ผลิตน่าจะมีจิตสำนึก ไม่ควรนำของที่กิน ไม่ได้ใส่ลงในซองขนม เพราะขนมชนิดนี้เด็กกินกันประจำ และเด็กมักไม่รอบคอบระมัดระวังเช่นผู้ใหญ่ หรืออาจอ่านหนังสือไม่ได้ อาจเป็นอันตรายเช่นหลานของตนก็เป็นได้

"ส่งเม็ดยาดังกล่าวตรวจสอบ"


ทางด้าน นพ.นิรันด์ จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอ่างทอง เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว ตรวจสอบพบว่าจรวดจิ๋ว เป็นของเล่นที่กำลังเป็นที่นิยมของเด็กๆ ส่วนเม็ดฟู่ เป็นสารเคมี แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสารอะไร ต้องส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ เท่าที่ดูจากคำเตือนที่ซอง บอกว่าไม่ใช่ สารอันตราย แต่เมื่อเด็กกินเข้าไปแล้วมีอาการป่วยฉับพลันรุนแรง จึงต้องล้างทองเพื่อเอาสารดังกล่าวออกมาให้หมด และได้รายงานให้สาธารณสุขจังหวัดอ่างทองทราบเพื่อประสาน อย.ดำเนินการต่อไป

ขณะเดียวกัน นายประสาน ลิ่มดุลย์ หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากสาธารณสุขจังหวัดให้เข้าไปตรวจสอบขนมดังกล่าวว่าการที่ผู้ผลิตนำของที่บริโภคไม่ได้ลงไป ทำให้เด็กกินเข้าไปแล้วป่วย เป็นความผิดตามกฎหมายใดหรือไม่ และจะประสานกระทรวงสาธารณสุข แจ้งบริษัทผู้ผลิต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กเช่นกรณีนี้อีก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์