พ่อม่าย-ฆ่าคลั่ง! โหด 3 ศพ ดญ.วัย 11 ก็ไม่เว้น

"สุดอนาถ 3 ศพ"


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 มี.ค. พ.ต.ท.สมชาย อรภักดี สารวัตรเวร สภ.ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในโครงการบ้านเอื้ออาทรราชพฤกษ์ หมู่ 4 ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จึงพร้อมด้วยแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ไปที่เกิดเหตุ เป็นห้องเลขที่ 101/669 ชั้น 2 ตึก 16 พบศพนางกาญจนา จันทร์อบ อายุ 40 ปี เจ้าของห้อง

และเป็นเจ้าของร้านนวดหน้า-ขายสมุนไพรแบบสปา ตั้งอยู่บนชั้น 6 ห้างบางลำภูสรรพสินค้า สาขางามวงศ์วาน สภาพศพนอนคว่ำหน้าขึ้นอืดเสียชีวิตอยู่กลางห้องโถง มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดกลางหน้าอก 2 แผล ต้นแขนขวา 1 แผล แขนขวา 2 แผล ส่วนอีกศพพบอยู่บนฟูกในห้องนอน ทราบชื่อ ด.ญ.กมลวรรณ จันทร์อบ หรือน้องกลอย อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 ร.ร.บางบัวทองราษฎรบำรุง นอนหงายขึ้นอืดในสภาพเปลือย โดยทั้ง 2 ศพเสียชีวิตมาแล้วราว 5 วัน

ส่วนที่ตึก 17 ชั้น 3 ห้องเลขที่ 101/726 ซึ่งเป็นห้องของนายจตุพร เมืองสุวรรณ์ ปรากฏว่าพบศพนายกชกร เมืองสุวรรณ์ หรือน้องโต้ง อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.4 ร.ร.วัดสังเวช นอนเสียชีวิตอยู่บนฟูกในห้องนอน โดยมีผ้าห่มคลุมร่างไว้อย่างดี สภาพศพน้ำลายฟูมปาก มีเลือดไหลออกทางปากและจมูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 24 ชั่วโมง ส่วนที่พื้นห้องพบมีดเดินป่ายาว 6 นิ้ว มีคราบเลือดแห้งกรังวางอยู่ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และให้เจ้าหน้าที่กองวิทยาการเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายภายในห้องที่เกิดเหตุทั้ง 2 ห้อง ไว้อย่างละเอียด

"โมโหรุนแรงจนต้องขอเลิก เลยโดนฆ่า"


จากการสอบสวนพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์คาดว่าคนร้ายรายนี้น่าจะเป็นนายจตุพร เมืองสุวรรณ์ อายุ 46 ปี ประธานสหกรณ์บริการชุมชนบ้านเอื้ออาทรราชพฤกษ์ มีอาชีพขับรถแท็กซี่รับจ้าง โดยนายจตุพรมีลูกติดคือนายกชกร หรือน้องโต้ง ต่อมาได้รู้จักและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนางกาญจนา จันทร์อบ แม่ม่ายที่เลิกรากับสามี และมีลูกติดมา 2 คนเช่นกัน คือ นายกฤษดา จันทร์อบ หรือน้องเก่ง อายุ 15 ปี และ ด.ญ.กมลวรรณ จันทร์อบ หรือน้องกลอย อายุ 11 ขวบ

โดยนายจตุพรและนางกาญจนาคบหากันได้ราว 1 ปีเศษ ในระยะหลังนางกาญจนาเริ่มตีตัวออกห่างเพราะทนพฤติกรรมของนายจตุพร ที่มีนิสัยโมโหร้ายรุนแรงและชอบใช้กำลังไม่ไหว ประกอบกับนายจตุพรยังเคยสติแตก จับน้องโต้งลูกชายตัวเองแขวนคอ เดชะบุญชาวบ้านช่วยเหลือไว้ได้ กระทั่งก่อนเกิดเหตุเมื่อหลายวันที่ผ่านมา นางกาญจนาได้บอกเลิกกับนายจตุพรอีก คราวนี้สร้างความโกรธแค้นให้กับนายจตุพรอย่างมาก ถึงขนาดออกปากขู่จะฆ่าให้ตายทั้งแม่และลูก

พยานระบุก่อนหน้าเสียชีวิต

พยานระบุว่า ประมาณ 5 วันก่อนเห็นนายจตุพร ออกจากห้องตนแล้วเข้าไปหานางกาญจนาและลูกสาวที่ห้องเกิดเหตุ โดย 2 แม่ลูกเพิ่งกลับจากไปส่งนายกฤษดา หรือน้องเก่ง ลูกชายไปเข้าค่ายฤดูร้อนที่ จ.นครนายก จากนั้นก็ได้ยินเสียงนางกาญจนาส่งเสียงร้องโหยหวนขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครสนใจเพราะเห็นเป็นเรื่องปกติ จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายวัน เพื่อนข้างห้องได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมาจากห้องของนางกาญจนาอย่างรุนแรงจนทนไม่ไหว จึง


โทรศัพท์ไปสอบถามนายจตุพรว่ารู้เรื่องหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีอะไรที่ห้องนางกาญจนา เพราะก่อนหน้านี้ตนได้ซื้อปลาสดไปให้ 2 ตัว คาดว่าปลาน่าจะเน่าเพราะนางกาญจนาและลูกสาวไปธุระต่างจังหวัด โดยนายจตุพรยังทำใจดีสู้เสือเดินแจกซองทำบุญโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ตัวเองเป็นประธานชุมชนอยู่ให้กับสมาชิกในโครงการ และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายจตุพรได้ไปรับน้องโต้ง ลูกชายที่ฝากพี่สาวเลี้ยงไว้กลับมาพักที่ห้องด้วย จากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นนายจตุพรอีกเลย

"ตร.คาด แท็กซี่สามีใหม่เป็นฆาตกร"


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจประมวลจากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้วมั่นใจว่า นายจตุพรน่าจะเป็นฆาตกรโหดฆ่า 2 แม่ลูก และฆ่าลูกชายตัวเองอย่างแน่นอน โดยสันนิษฐาน ว่านายจตุพรเกิดความเคียดแค้นที่ถูกนางกาญจนาบอกเลิกความสัมพันธ์ จึงโมโหสติแตกบุกเข้าไปในห้องใช้ มีดเดินป่าแทงนางกาญจนาอย่างโหดเหี้ยมจนเสียชีวิต

ก่อนฆ่าน้องกลอย ลูกสาวของนางกาญจนาเป็นศพที่ 2
โดย แพทย์ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า น้องกลอยจะถูกนายจตุพรข่มขืนก่อนสังหารด้วยหรือไม่ เนื่องจากศพอยู่ในสภาพเปลือย และศพขึ้นอืดเน่าเปือยแล้ว จะต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียดจากแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ก่อน ขณะที่นายกฤษดา หรือน้องเก่ง ลูกชายของนางกาญจนารอดตายหวุดหวิดเพราะไปเข้าค่ายลูกเสือที่ต่างจังหวัด

ด้านนายจตุพร หลังลงมือฆ่า 2 แม่ลูกแล้ว ได้ไปรับน้องโต้ง ลูกชายมาจากบ้านพี่สาว จากนั้นได้ผสมยาพิษให้ลูกชายดื่มจนเสียชีวิตเป็นศพที่ 3 ก่อนขับรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีเขียว-เหลือง ทะเบียน 1 ม-0794 กรุงเทพมหานคร หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย คาดว่านายจตุพรอาจหนีไปฆ่าตัวตายเพราะเกรงกลัวความผิดที่ก่อขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสายสืบออกติดตามหาตัวนายจตุพรหนุ่มสติแตกรายนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว เพราะเกรงว่าหากนายจตุพรไม่ฆ่าตัวตายไปก่อน อาจเกิดอาการคลุ้มคลั่งฆ่าผู้โดยสารเคราะห์ร้ายที่เรียกรถแท็กซี่ของนายจตุพรก็เป็นได้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์