เผา.! หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว ส่อปม แย่งนักท่องเที่ยว

เผาหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวส่อปมแย่งนักท่องเที่ยว


ไฟไหม้ศูนย์แสดงสินค้า-บ้านกะเหรี่ยงคอยาว วอด 5 หลัง แต่ไร้คนเจ็บ นักธุรกิจเจ้าของหมู่บ้านปฏิเสธให้ตำรวจวิทยาการพิสูจน์ข้อเท็จจริง อ้างต้นเหตุเกิดจากความประมาท จุดเทียนทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์อาคารไม้ล้มไม่มีใครเห็นไฟจึงลุกลาม แหล่งข่าวในพื้นที่ระบุปมแย่งนักท่องเที่ยวอาจเป็นชนวนเหตุ



เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 25 มีนาคม พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ วงศ์อุทัย พนักงานสอบสวน สภ.อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่


รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักกะเหรี่ยงคอยาวหลายหลัง ในหมู่บ้านโต้งหลวง หมู่ 9 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จึงประสานไปยังหน่วยดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ และเทศบาลตำบลแม่ริม ให้นำกำลังเข้าสกัดเพลิง พร้อมรุดไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ เป็นหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยงคอยาว สร้างอยู่บนพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ ลักษณะเป็นบ้านไม้ไผ่ชั้นเดียวตามแบบของชาวไทยภูเขา ถูกไฟเผาวอดทั้งหลัง 5 หลัง จากบ้านทั้งหมด 10 หลัง

นอกจากนี้ อาคารศูนย์แสดงสินค้าชนเผ่าอีก 1 หลัง ก็ถูกไฟไหม้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เนื่องจากระยะทางไกลและสูงชัน ทำให้พนักงานขับรถดับเพลิง 6 คัน ที่เดินทางไปสกัดไฟต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ทำให้กว่าจะไปถึงบ้านเรือนก็เสียหายไปมากแล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ไม่มีชาวกะเหรี่ยงคอยาวได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต


จากการสอบสวน นายวิบูลย์ ชัยธรรม อายุ 48 ปี


อยู่บ้านเลขที่ 563 หมู่ 1 ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ผู้เช่าที่ดินผืนดังกล่าว และเป็นผู้ดูแลชาวกะเหรี่ยงคอยาวทั้งหมด 18 คน เป็นหญิง 11 คน ชาย 2 คน และเด็กเล็กอีก 5 คน ให้การว่า สาเหตุเพลิงไหม้เนื่องมาจากมีคนจุดเทียนทิ้งไว้ในเคาน์เตอร์ของอาคารแสดงสินค้า ซึ่งเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 20 เมตร แล้วเทียนที่จุดไว้ล้มลงโดยไม่มีใครทันสังเกต ไฟจึงติดลุกไหม้ลามไปยังบ้านพักของชาวกะเหรี่ยงคอยาวที่อยู่ติดกันอย่างรวดเร็วจนเสียหายดังกล่าว

พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานไปยังตำรวจวิทยาการให้เข้าตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในช่วงเช้าวันเดียวกัน แต่ได้รับการยืนยันจากนายวิบูลย์ว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพียงอุบัติเหตุ และไม่ต้องการให้ตำรวจวิทยาการเข้าตรวจสอบ ทั้งนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นทรัพย์สินของเอกชน เมื่อเจ้าของไม่ต้องการให้มีการสอบสวน ตำรวจก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ส่วนชาวกะเหรี่ยงคอยาวที่บ้านถูกเพลิงไหม้ นายวิบูลย์ ระบุว่า จะดำเนินการช่วยเหลือเอง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า


เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2549 ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้นำกำลังเข้าตรวจสอบหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวแห่งนี้ หลังได้รับแจ้งว่า มีการนำกะเหรี่ยงคอยาวจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มาแสดงโชว์นักท่องเที่ยวเพื่อหวังผลทางธุรกิจ แต่ครั้งนั้นนายวิบูลย์มีเอกสารการจ้างงานประเภทเกษตรเพาะปลูก จากสำนักงานจัดหางานจังหวัดเชียงใหม่ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่

พร้อมยืนยันว่า จ้างกะเหรี่ยงคอยาวทั้งหมดวันละ 135 บาท เพื่อให้ปลูกข้าวในพื้นที่ดังกล่าว โดยไม่มีการหาผลประโยชน์อย่างอื่นแอบแฝง กระทั่งมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ของหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงคอยาวดังกล่าว มีอาณาเขตติดต่อกับปางช้างแม่สา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.เชียงใหม่ และศูนย์จำหน่ายสินค้าพื้นบ้านของกลุ่มอนุรักษ์วิถีชีวิตชนเผ่าเกษตรเชิงนิเวศของ อบต.แม่แรม สำหรับเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ แหล่งข่าวในพื้นที่ระบุว่า ส่วนหนึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งในธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะการแย่งลูกค้า



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ

จาก หนังสือพิมพ์คม.ชัด.ลึก.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์