พตท.ปฏิเสธ คดีอุ้มฆ่าลูก เสี่ยสวนยาง

กรณีนายนพพร ชัยวิชิต อายุ 58 ปี เศรษฐีเจ้าของสวนยางพารา ถูกคนร้าย 4 คนบุกยิงตายคาบ้านเลขที่ 97 หมู่ 1 ต.แก้วแสน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช และยังทำร้ายนางวชิดาพร ชัยปราณีธาร อายุ 37 ปี กับนายธีระศักดิ์ ชัยวิชิต อายุ 37 ปี ลูกสาวและลูกชายของนายนพพร ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อคืนวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยตำรวจคาดถูกคนร้ายปล้นฆ่า แต่ญาติไม่เชื่อหลังผู้ตายมีคดีความอยู่กับ พ.ต.ท.คนหนึ่ง ตำแหน่งสารวัตร สังกัด บช.ภ.8 เนื่องจากลูกเขยและลูกสาวคนเล็กของผู้ตาย

ถูกนายตำรวจคู่กรณีจับคดีลักทรัพย์และรับของโจรก่อนที่ทั้งคู่จะถูกอุ้มหายไป กระทั่งนายนพพรทำหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. และแจ้งความตำรวจกองปราบฯ เอาผิดกับ พ.ต.ท.

ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและปล้นทรัพย์ โดยกองปราบฯได้ออกหมายเรียกนัดให้มารับทราบข้อกล่าวหาวานนี้ (23 มี.ค.)

แต่แล้วนายนพพรก็มาถูกยิงตายเสียก่อน หลังเกิดเหตุญาติได้เข้าร้องต่อกองปราบฯอีกครั้งให้ช่วยคลี่ คลายคดี เพราะเชื่อว่าสารวัตรคนดังกล่าวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

ต่อมาเวลา 10.30 น. วานนี้ (23 มี.ค.) ที่กองปราบปราม พ.ต.ท.มีชัย นกแก้ว สว.กลุ่มงานสืบสวน ศสส.บช.ภ.8 เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สอาด การลพ พงส.(สบ 2) กลุ่มงานสอบสวน บก.ป.

เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาหน่วงเหนี่ยวกักขังและปล้นทรัพย์ น.ส.ชัยสุวรรณ ชัยวิชิต ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ บุตรสาวของนายสมพร โดยก่อนเข้าพบ พ.ต.ท.มีชัยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า

คดีที่เกิดขึ้นได้รับ คำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ปราบปรามแก๊งโจรกรรมรถยนต์ ในพื้นที่ เนื่องจากสถิติคดีลักรถยนต์ในปี 46 สูงกว่า 200 คัน ส่วนเรื่องจับกุม น.ส.ชัยสุวรรณ กับสามีคือนายธนากรณ์ ชมพูชนะ

ตนมีหลักฐานชัดเจน ขณะจับกุมพบรถของกลางที่ถูกขโมยมาคือรถยนต์โตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ และรถกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ ในบ้านของผู้ต้องหาที่อ้างว่ารับจำนำเอาไว้

แต่ในการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้หลักฐานการใช้โทรศัพท์มือถือของเจ้าของรถที่ทิ้งไว้ในรถ เมื่อผู้ต้องหานำมาใช้จึงสามารถจับกุมได้ และระหว่างที่ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวก็ไม่มีการทำร้ายร่างกายตามที่มีการร้องทุกข์แต่อย่างใด

พ.ต.ท.มีชัยกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการหายตัวไปของทั้งคู่ตนก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เท่าที่ทราบนายธนากรณ์ หายไปก่อน น.ส.ชัยสุวรรณ ประมาณ 1 ปี โดย น.ส.ชัยสุวรรณหายไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 49

การหายตัวไปเชื่อว่าเป็นการหักหลังกันเองในกลุ่มของ น.ส.ชัยสุวรรณ ตนมีข้อมูลชัดเจนและยังได้นำมาเป็นหลักฐานแสดงให้พนักงานสอบสวนของกองปราบปรามทราบถึงความเชื่อมโยงในขบวนการดังกล่าว

สำหรับนายนพพร ชัยวิชิต บิดาของ น.ส.ชัยสุวรรณ ยอมรับว่ามีปัญหากันจริง เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะขึ้นเบิกความในศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา

ผู้ตายลุกชี้หน้าด่าตนอย่างรุนแรงกลางศาล หาว่าเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของลูกเขย และลูกสาว แต่ก็ไม่มีอะไรรุนแรง และไม่ได้ผูกใจเจ็บถึงกับคิดวางแผนให้ใครไปลงมือฆ่านายนพพรตามที่เป็นข่าว

มีรายงานว่าสำหรับพยานหลักฐานต่างๆ ที่พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้รวบรวมถึงขั้นมีการเรียกตัว พ.ต.ท.มีชัย มารับทราบข้อหามีความแน่นหนาและค่อนข้างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ พยานแวดล้อม

ที่สำคัญมีประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ ยืนยัน โดยนายนพพร บิดาของ น.ส.ชัยสุวรรณที่เสียชีวิตไปก็เป็นหนึ่งในพยานปากสำคัญ แต่ถึงแม้จะถูกยิงเสียชีวิตก็ไม่ส่งผลต่อรูปคดี

อย่างไรก็ตาม หลังสอบ ปากคำ พ.ต.ท.มีชัย เรียบร้อยแล้ว พนักงานสอบสวนได้ ปล่อยตัวไปก่อน ส่วนคดีฆาตกรรมในชั้นนี้คงไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เนื่องจากยังไม่พบศพ น.ส.ชัยสุวรรณ

สำหรับคดีเสียชีวิตของนายนพพร ขณะนี้ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง รอง ผบก.ป.และ พ.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ผกก.5 บก.ป. เข้าไปดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว

ส่วนความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับทางญาติของนายนพพร ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายประวิทย์ ชัยวิชิต ลูกชายคนโตของนายนพพร พร้อมญาติๆ ช่วยกันนำศพผู้ตายตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านหมู่ 1 ต.แก้วแสน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช

จากนั้น นายประวิทย์เปิดเผยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างพ่อกับ พ.ต.ท.มีชัย ตนรับรู้มาตลอด เนื่องจากนับตั้งแต่น้องสาวและน้องเขยหายตัวไป ผู้เป็นพ่อมาปรึกษา

โดยผู้ตายโกรธแค้นมากและเชื่อว่าทั้งคู่คงถูกฆ่าตายไปแล้ว ก่อนหน้าเสียชีวิตนายนพพร เพิ่งเดินทางไปหาพ่อแม่ของ พ.ต.ท.มีชัยที่บ้านนานา ต.ช้างกลาง กิ่ง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ตั้งใจจะไปทำร้ายเพื่อล้างแค้น

แต่เมื่อเห็นทั้งคู่อายุมากแล้วก็ทำไม่ลง แต่ได้บอกให้ช่วยฝากถาม พ.ต.ท.มีชัย ว่าเอาลูกสาวและลูกเขยไปไว้ที่ไหน จากนั้นไม่นานพ่อก็ถูกยิงตาย หลังเกิดเหตุญาติๆตั้งใจจะนำศพพ่อไปประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช

แต่ตนห้ามไว้ เพราะกลัวเรื่องจะวุ่นวายกันใหญ่ ตอนนี้คงต้องรอดูว่าตำรวจจะดำเนินคดีออกมาในรูปแบบใด

ด้าน พล.ต.ต.สุดใจ ญาณรัตน์ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช กล่าวถึงคดีสังหารนายนพพรว่า ได้แต่งตั้ง พ.ต.อ.กิตติ กาญจนกิตติ รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช

เป็นหัวหน้าชุดเข้าคลี่คลายคดีร่วมกับตำรวจ สภ.อ.นาบอน โดยจะรายงานความคืบหน้าให้ พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภ.8 ทราบทุกระยะต่อไป