4 ทมิฬฆ่าโหด เจ้าของสวนยาง ปมโวยพตท.อุ้ม ลูกสาวลูกเขย

"บุกยิงดับคาบ้าน ลูกชาย-หญิงเจ็บ"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วานนี้ (22 มี.ค.) พ.ต.ท.ระเบียบ รักษายศ สารวัตรเวร สภ.อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงตายที่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 1 ต.แก้วแสน จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุวรรณ ขุนทองจันทร์ ผกก. พ.ต.ท.ฐาปกรณ์ เทิดรัตนพงศ์ รอง ผกก.สส. นำกำลังตำรวจ พร้อมแพทย์เวร รพ.นาบอน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวขนาดใหญ่ ในห้องโถงพบศพนายนพพร ชัยวิชิต อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ถูกยิงด้วยปืน .38 ที่กกหูซ้าย ไหปลาร้าซ้าย และกลางหลัง รวม 3 นัด และถูกทุบด้วยเตารีดจนหน้าผากยุบ ข้างศพพบเตารีดไฟฟ้าและหัวกระสุน .38 ตกอยู่ 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน คือนางวชิดาพร ชัยปราณีธาร อายุ 37 ปี ลูกสาวของผู้ตาย ถูกด้ามปืนทุบหน้าผากแตกเป็นแผลฉกรรจ์ และนายธีระศักดิ์ ชัยวิชิต อายุ 34 ปี ลูกชายของผู้ตาย ถูกรุมซ้อมจนใบหน้าบวมช้ำ เลือดกบปาก

สอบสวนทราบว่า นายนพพรผู้ตายเป็นเจ้าของสวนยางและสวนปาล์มหลายสิบไร่ ก่อนเกิดเหตุนอนหลับอยู่ในห้องโถง ส่วนลูกสาวและลูกชายอยู่ในห้องนอนคนละห้อง ได้มีคนร้ายเป็นชาย 4 คน อายุ 20-25 ปี งัดหน้าต่างหลังบ้านปีนเข้ามาด้านใน ผู้ตายตื่นขึ้นมาเอะอะโวยวายจึงถูกคนร้ายรุมชกต่อย ขณะนั้นนางวชิดาพร ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของพ่อ รีบเปิดประตูห้องออกมา กลับถูกคนร้ายใช้ด้ามปืนทุบหน้าผากแตกล้มทรุด ก่อนที่นายธีระศักดิ์จะออกมาช่วยอีกคน โดยสองพ่อลูกฮึดสู้ชกต่อยคนร้ายจนตั้งตัวไม่ติด ฝ่ายคนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงคว้าเตารีดทุบศีรษะผู้ตายก่อนใช้ปืนลั่นไกกระหน่ำยิงใส่ 3 นัดซ้อน จนเสียชีวิตคาที่ แล้วพากันหลบหนีไปโดยไม่แตะต้องทรัพย์สิน

ด้าน พ.ต.อ.สุวรรณ ขุนทองจันทร์ ผกก.สภ.อ.นาบอน กล่าวว่า ผู้ตายเป็นคนมีฐานะดีคนหนึ่งใน ต.แก้วแสน มีสวนยางพาราหลายสิบไร่ และสวนปาล์มอีก 50 ไร่ ขยันทำมาหากิน เชื่อว่าคนร้ายตั้งใจจะมาปล้นทรัพย์ แต่ผู้ตายฮึดสู้จึงถูกยิงเสียชีวิต คาดว่าแก๊งโจรรายนี้น่าจะเป็นคนในพื้นที่ จะได้สืบสวนหาเบาะแสติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

"เมียไม่เชื่อ คนร้ายบุกปล้น คาดเกี่ยวคนมีสี"


อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางญาติไม่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ เนื่องจากผู้ตายมีปัญหาฟ้องร้องกับนายตำรวจระดับสารวัตรคนหนึ่ง ทั้งนี้ ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน นางดวง ชัยวิชิต อายุ 55 ปี ภรรยาของนายนพพร ผู้ตาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สอาด การลพ พงส.(สบ 2) กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. ให้ช่วยสืบสวนคลี่คลายคดีกลุ่มคนร้ายบุกสังหารสามีที่ อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช ในทันที โดยนางดวงไม่เชื่อว่าสามีจะถูกปล้นฆ่า แต่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากเรื่องที่สามีและครอบครัวไปมีปัญหากับนายตำรวจระดับสารวัตร ยศ พ.ต.ท.คนหนึ่ง สังกัด บช.ภ.8

สอบสวนนางดวงให้การว่า เมื่อปลายปี 46 พ.ต.ท. คนดังกล่าวได้บุกเข้าจับกุมตัวนายธนากรณ์ ชมพูชนะ และ น.ส.ชัยสุวรรณ ชัยวิชิต ลูกเขยและลูกสาว ในข้อหาลักทรัพย์ เนื่องจากได้รับจำนำรถยนต์ไว้โดยไม่ทราบว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา จนมีคดีฟ้องร้องกันในชั้นศาล ระหว่างถูกนำตัวไปสอบสวนที่ บช.ภ.8 นายธนากรณ์ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ จึงเตรียมฟ้องร้อง พ.ต.ท.คนดังกล่าว ในข้อหาทำร้ายร่างกายและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่ต่อมานายธนากรณ์ก็ถูกอุ้มตัวหายไปพร้อมรถปิกอัพฟอร์ด จำทะเบียนไม่ได้ ญาติเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี แต่คดีไม่มีความคืบหน้า กระทั่งวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา น.ส.ชัยสุวรรณ ลูกสาวของตนก็หายตัวไปอีกคน ขณะขี่รถ จยย.ฮอนด้า สีเทา ทะเบียน พจษ 629 สุราษฎร์ธานี มารับตนที่สถานีรถไฟบ้านนาสาร ทำให้เชื่อว่า พ.ต.ท.คนดังกล่าวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของลูกเขยและลูกสาว

นางดวงให้การต่อไปว่า คดีที่เกิดขึ้นเกรงจะไม่ได้ รับความเป็นธรรมจากตำรวจท้องที่ สามีจึงทำหนังสือร้อง เรียนถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเข้าแจ้งความตำรวจกองปราบปรามในวันที่ 14 มี.ค. ให้ช่วยตามหาลูกเขยและลูกสาวพร้อมจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี กระทั่งล่าสุดตำรวจกองปราบฯรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียก พ.ต.ท.คนดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหากักขังหน่วง-เหนี่ยวและปล้นทรัพย์ ในวันที่ 23 มี.ค.นี้ แต่สามีก็มาถูกกลุ่มคนร้ายบุกฆ่าตายก่อนเพียงวันเดียว ทำให้มั่นใจว่าเรื่องที่ลูกเขยกับลูกสาวถูกอุ้มหายตัวไป และสามีถูกยิงเสียชีวิต น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายตำรวจคนดังกล่าวแน่นอน เนื่องจากช่วงที่ขึ้นศาลในคดีที่ลูกเขยกับลูกสาว ถูกกล่าวหาว่าลักทรัพย์รถยนต์นั้น สามีได้มีปากเสียงอย่างรุนแรงกับนายตำรวจคู่กรณีจนมีการขู่อาฆาตกันด้วย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์