จับผัวเมียเจ้าของรถทัวร์แสบซ่อนตัวลักทรัพย์นักท่องเที่ยว

จับผัวเมียเจ้าของรถทัวร์แสบซ่อนตัวลักทรัพย์นักท่องเที่ยว

ตำรวจท่องเที่ยว รวบสองสามีภรรยาแสบ เจ้าของรถทัวร์ ซ่อนตัวลักทรัพย์นักท่องเที่ยว ก่อเหตุนับไม่ถ้วน

วันที่ 20 ส.ค. พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ประพจน์ โชติคุณ ผกก.2 บก.ทท. พ.ต.ท.เสกสรร จินดาพรรณ สว.ส.ทท.6 กก.2 พ.ต.ท.วิชาญ จันทศรี สว.งานสืบสวน กก.2 พ.ต.ต.บวรภพ สุนทรเลขา สว.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายสราวุธ สายปัญญา อายุ 41 ปี และนางฌานิกา สายปัญญา อายุ 35 ปี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตราด เลขที่ จ.124-125/2556 ตามลำดับในความผิดข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ,เอาไปซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และใช้บัตรอิเลคทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น พร้อมของกลางรองเท้ายี่ห้อฟลิปฟลอบ 2 คู่ ยี่ห้อนิวบาลานซ์ 3 คู่ ยี่ห้อครอส 5 คู่ เสื้อผ้ายี่ห้อแก๊ป 3 ชุด ปากกา 4 แท่ง และเงินสดสกุลต่างๆ จำนวน 12 สกุล
 

พล.ต.ต.รอย เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทาง บก.ทท.ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายรายว่า
 
ถูกคนร้ายที่ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการ พนักงานขับรถและพนักงานประจำรถโดยสารไม่ประจำทางหรือรถทัวร์ 30 ที่เขียนข้างรถว่า สายปัญญาทัวร์ อาศัยจังหวะที่นักท่องเที่ยวนอนหลับหรือเผลอไม่ระวังตัวลักเอาทรัพย์สินไปจำนวนหลายครั้ง รายล่าสุดรวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 700,000 บาท  จึงวางแผนจับกุมด้วยการเฝ้าติดตามพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของบริษัทซูการ์ ทราแวล จำกัด แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร ซึ่งมีผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นผู้ประกอบการ โดยรถคันดังกล่าวจะรับนักท่องเที่ยวจากถนนข้าวสารไปยังเกาะช้าง จ.ตราด จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จากศาลจ.ตราด และเข้าจับกุมนางฌานิกา ได้ที่บริษัทดังกล่าว ก่อนเข้าจับกุมนายสราวุธ ได้ที่คอนโดดุสิต อเวนิว แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต


จากการสอบสวนนายสราวุธ ให้การรับสารภาพว่า ตนกับภรรยาร่วมกันเปิดบริษัทดังกล่าวและบริหารงานกันเอง

โดยมีรถทัวร์อยู่ 2 คัน คอยวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวจากกทม.ไปยังเกาะช้าง มาได้ประมาณ 1 ปีเศษแล้ว เมื่อรถทัวร์ออกจากหน้ากองสลาก ตนก็ไปดักอยู่กลางทาง ตามจุดต่างๆ เช่นช่วงก่อนทางด่วน จากนั้นก็จะไปซ่อนตัวอยู่ในห้องเก็บของใต้ท้องรถซึ่งมีการเจาะช่องดัดแปลงไว้พิเศษ แล้วทำการรื้อค้นทรัพย์สินทั้งบัตรเงินสด หรือเครดิต เมื่อถึงช่วงจุดแวะพักรถที่ให้นักท่องเที่ยวลงไปซื้อของ หรือตามมอเตอร์เวย์ ก็จะแอบลงจากรถขนทรัพย์สินออกมาแล้วเรียกรถแท็กซี่กลับเข้ากทม.โดยที่ไม่ให้นักท่องเที่ยวรู้ตัว จากนั้นก็จะนำเงินสดสกุลต่างๆที่ได้มาไปแลกเป็นเงินไทยมาไว้ใช้จ่ายส่วนตัว และนำบัตรอิเลคทรอนิกส์ไปรูดซื้อสินค้าแบรนด์เนม จำพวกรองเท้า เสื้อผ้า และของใช้อื่นๆ ตามห้างสรรพสินค้า  จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์