รวบหนุ่มหัวเกรียนพกปืนเข้าที่ชุมนุม อ้างเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 27 มีนาคม 2549 02:01 น.

พันธมิตรแจ้งตำรวจรวบชายต้องสงสัยพกปืนเข้าที่ชุมนุม เจ้าตัวอ้างเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบมาสืบราชการลับ ด้านผบก.น.1 ยอมรับ แม้อยู่ในเครื่องแบบก็พกปืนไม่ได้ ขณะที่ผกก.สน.นางเลิ้ง ระบุ หลังสอบสวนพบว่าเป็นตำรวจสืบสวน ภ.จ. สมุทรสาคร อาจไม่รู้ว่ามีคำสั่งห้ามพกปืนจริง จึงให้เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. วานนี้ (26 มี.ค.49) เกิดเหตุชุลมุนขึ้นที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อมีผู้ชุมนุมพบชายผู้ต้องสงสัย พกปืนมาร่วมชุมนุมจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าทำการจับกุม โดยตำรวจ 3 นายได้เข้าไปตรวจสอบและพบว่ามีอาวุธปืนจริง จึงกันตัวชายดังกล่าวออกไปทันที และนำตัวไปสอบสวนที่สน.นางเลิ้ง

นายอัศวิน ขัมมะโน อายุ 39 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นชายคนดังกล่าวที่เชิงสะพานมัฆวานฯ ทางด้านเสาฝั่งซ้าย อายุประมาณ 30 ปี ไว้ผมรองทรง สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงขาสั้นสีเทา สวมรองเท้าแตะ และที่บริเวณเอวมีด้ามปืนโผล่ออกมาจึงชี้ให้เพื่อนดู โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์หลายคน กลุ่มผู้ชุมนุมจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบให้มาควบคุมตัว ทีแรกตำรวจมาเพียงคนเดียว เมื่อเห็นว่าชายคนดังกล่าวมีปืนจริง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่อีกสองนายมาควบคุมตัว จากการสอบสวนเบื้องต้น ชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นตำรวจภูธรภาค 7 จาก จ.สมุทรสาคร

ด้าน พล.ต.ต.ปราโมทย์ ประทุมวงศ์ ผบก.น.1 ได้เข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ พร้อมกับแจ้งว่ามีการเชิญตัวชายคนดังกล่าวไปสอบสวนแล้ว เพื่อตรวจสอบว่าชายคนดังกล่าวเป็นใคร สังกัดที่ใด ได้รับคำสั่งมาจากที่ใด หากไม่ชัดเจนก็ต้องมีการตรวจสอบว่าพกปืนเข้ามาในบริเวณที่ชุมนุมได้อย่างไรเพราะทางตำรวจได้มีคำสั่งแล้วว่าห้ามพกอาวุธ แม้จะเป็นตำรวจในเครื่องแบบก็ตาม ส่วนทางแกนนำพันธมิตรได้ส่งตัวแทนและผู้เห็นเหตุการณ์ไปที่สน.นางเลิ้งด้วย เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง

ต่อมา พ.ต.อ. ชำนาญ ชำนาญเวช ผกก. สน.นางเลิ้งกล่าวภายหลังการร่วมสอบปากคำว่า ชายคนดังกล่าว คือส.ต.ท. สุนทร คำวอน อายุ 33 ปี ผบ. หมู่กลุ่มงานสืบสวนภูธร จังหวัดสมุทรสาคร ตรวจสอบพบว่ามีบัตรข้าราชการตำรวจ เลขที่ตำแหน่ง 495/2548 อาวุธปืนที่พบเป็นปืน .38 พร้อมกระสุนในรังเพลิงจำนวน 5 นัด

พ.ต.อ. ชำนาญ กล่าวว่า ส.ต.ท. สุนทร อ้างว่ามาปฏิบัติหน้าที่สืบสวนคดียาเสพติดบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ชุมนุมจึงจำเป็นต้องพกปืน แต่ได้ทำการปกปิดและไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ชุมนุมแต่อย่างใด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า อาวุธปืนดังกล่าวมีทะเบียนถูกต้องประกอบกับ ส.ต.ท. สุนทร มีบัตรข้าราชการตำรวจมาแสดง เจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนจะได้เรียกผู้บังคับบัญชามารับตัวกลับไป

พ.ต.อ. ชำนาญกล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ที่มารักษาความสงบเรียบร้อยในการชุนมนุมทุกนายได้ถูกสั่งห้าม ไม่ให้มีการพกอาวุธปืนโดยเด็ดขาด สำหรับ ส.ต.ท. สุนทร ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภารกิจดังกล่าวจึงอาจจะไม่ทราบและได้พกอาวุธปืนเข้าไป ซึ่งนับเป็นการดี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เข้าเวรรักษาการได้สังเกตเห็น

จากกรณีดังกล่าว ทำให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมต่างแสดงความไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพกอาวุธปืนเข้ามาใกล้พื้นที่การชุมนุม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้มีการสั่งห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพกพาอาวุธปืนเข้ามาในพื้นที่การชุมนุม แต่ทำไมตำรวจนายนี้จึงไม่ทราบและไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งเกรงกันว่าถ้ามีกรณีอย่างนี้เกิดขึ้นอีก กลุ่มผู้ชุมนุมอาจจะไม่ได้รับความปลอดภัยได้