รับกฎแห่งกรรม ศาลอนุมัติหมายจับ สมีคำ

รับกฎแห่งกรรม ศาลอนุมัติหมายจับ สมีคำ

ศาลอาญาอนุมัติหมายจับอดีตหลวงปู่เณรคำ รวม 3 ข้อหา เตือนลูกศิษย์อย่าขัดขวางเจ้าหน้าที่ ได้เบาะแสรถเพิ่ม

วานนี้ (17 ก.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนคดีความมั่นคง 1 สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นำเอกสารหลักฐานมายื่นคำร้องขอศาลอนุมัติหมายจับนายวิรพล สุขผล อดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์ป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ รวม 3 ข้อหา ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14, ฉ้อโกงประชาชน, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาตนและโดยปราศจากเหตุอันควรในการพรากผู้เยาว์ไปจากบิดามารดาและผู้ปกครอง ซึ่งศาลอาญามีคำสั่งออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวตามที่ดีเอสไอร้องขอมา
 
ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากศาลอาญาว่าได้อนุมัติหมายจับนายวิรพล แล้วตามความผิด 3 ข้อหา

คือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีและฐานพรากผู้เยาว์ โดยหมายจับมีอายุความ 10 ปี เริ่มวันที่ 2 ก.ค. 56-2 ก.ค. 66 หลังจากนี้จะแจ้ง พศ.ให้แจ้งต่อศูนย์ควบคุมการไปต่างประเทศสำหรับพระภิกษุสามเณร (ศ.ต.ภ.) ดำเนินการติดต่อกรมการกงสุลเพื่อเพิกถอนหนังสือเดินทาง ส่วนการเพิกถอนวีซ่าล่าสุดดีเอสไอได้ประสานกับทางการยุโรปและสหรัฐไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ที่คาดว่านายวิรพลจะกบดานอยู่ ทั้งนี้การเพิกถอนหนังสือเดินทางและวีซ่าจะทำควบคู่กันจะเป็นผลให้มีการผลักดันตัวกลับอย่างแน่นอน เมื่อได้รับการติดต่อกลับจากประเทศที่นายวิรพลไปพักดีเอสไอจะไปรับตัวผู้ต้องหาที่สนามบินในประเทศนั้น ๆ เอง เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดี สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว

นายธาริต กล่าวต่อว่า ขอเตือนลูกศิษย์ของอดีตพระวิรพลว่าหลังจากนี้ให้ระมัดระวังการเคลื่อนไหวใด ๆ

ที่อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่หรือเข้าข่ายข่มขู่พยานดีเอสไอจะดำเนินคดีกับผู้เคลื่อนไหวเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ล่าสุดได้ใช้อำนาจดำเนินการเรื่องอายัดโดยออกหนังสือแจ้งสถาบันการเงินทุกแห่งรวม 141 แห่ง ให้อายัดทรัพย์นายวิรพล พร้อมส่งหนังสือถึงกรมที่ดินให้อายัดทรัพย์การทำธุรกรรมสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดที่เป็นชื่อนายวิรพลเป็นผู้ครอบครอง รวมถึงแจ้งกรมการขนส่งทางบกอายัดรถยนต์ที่เป็นชื่อของนายวิรพลทั้งหมดด้วย ทั้งนี้ ยังทราบว่ามีวัดและพระบางส่วนที่ได้รับมอบรถยนต์ติดต่อจะนำรถมาคืน ซึ่งดีเอสไอมีอำนาจในการรับคืนรถเหล่านี้ไปตรวจสอบต่อไป

ขณะที่ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กล่าวว่า
 
วันที่ 18 ก.ค. นี้ตนจะเดินทางไปจ.อุบลราชธานีเพื่อพบพลเมืองดีที่เป็นผู้แจ้งเบาะแสข้อมูลรถยนต์กว่า 10 คันที่มีชื่อนายวิรพลเป็นผู้ครอบครอง นอกจากนี้ยังพบหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการครอบครองรถหรูโรลส์รอยซ์ 3 คัน ที่ได้เบาะแสจากภาพถ่ายว่าพบจอดไว้ภายในสำนักสงฆ์ขันติธรรม ตนได้สั่งการตรวจสอบรถที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
 
ทางด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.พศ. กล่าวว่า ได้ลงนามหนังสือเสนอความเห็นไปยังกระทรวงต่างประเทศ (กต.)


ว่าดีเอสไอได้สรุปว่าการกระทำของอดีตหลวงปู่เณรคำมีความผิดทางอาญา รวมถึงคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ มีคำสั่งให้ปาราชิกและคณะสงฆ์อุบลราชธานี มีมติขับออกจากสังกัดแล้ว จึงเห็นสมควรพิจารณาเพิกถอนหนังสือเดินทางของอดีตหลวงปู่เณรคำ หากปล่อยไว้อาจจะเกิดเรื่องเสียหายตามมาได้ หลังจากนี้ต้องรอผลการพิจารณาจาก กต.ว่าจะเพิกถอนหรือมีความเห็นอย่างไร
 
ที่วัดป่าศรีสำราญ อ.เมือง จ.ศรีสะ เกษ นายอดิศร กิจบำรุง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ กองข่าวกรองทางการเงิน
 
ส่วนสืบสวนทางการเงิน ปปง. พร้อมทีมสอบสวน เข้าพบ พระครูวัชรสิทธิคุณ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน โดยเฉพาะเงินที่รับบริจาคจากอดีตพระเณรคำ เมื่อครั้งยังคงเป็นประธานสงฆ์ขันติธรรม จากนั้นนายอดิศร กล่าวว่า การลงพื้นที่ในสัปดาห์นี้ จะเก็บข้อมูลเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะสรุปข้อมูลทั้งหมดนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการปลายเดือนนี้

พระครูวัชรสิทธิคุณ กล่าวว่า ในวันนี้ได้ให้ข้อมูลเท่าที่มีอยู่เท่านั้น ส่วนเรื่องการเงินของที่สำนักสงฆ์ฯนั้น อาตมาไม่ทราบด้วย
 
เพราะที่ผ่านมา ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ไม่ได้จัดตั้งเป็นวัดที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย จึงยากที่จะเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดทางการเงินได้ ส่วนตัวก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นเกี่ยวกับเงินบริจาค และทางวัดเองก็ไม่ได้รับการบริจาค ด้านคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ เตรียมเรียกคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ เข้าประชุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการสำนักสงฆ์แห่งนี้ให้แล้วเสร็จก่อนเข้าพรรษานี้ คาดว่าในการประชุมในครั้งนี้จะสามารถหาทางออกเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์