รวบไอ้หื่นข่มขืนฆ่ารัดคอแม่ลูกอ่อน-ก่อนลักพาตัวลูกสาวเหยื่อหลบหนี

ภาพจากข่าวสดภาพจากข่าวสด


เมื่อ 10 มิ.ย. พล.ต.ต.เชิดชาย เสขะนันทน์ ผบก.ภ.จว.ระยอง พร้อม พ.ต.อ.อภิชาติ ไชยบุญเรือง ผกก.สภ.เพ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดระยอง และพื้นที่รับผิดชอบ ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายอนุชา หรือนุ ศรีมันตระ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.6 ต.ป่ากอ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืน น.ส.โอ๋ อายุ 34 ปี ชาว ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง โดยมีคนเลี้ยงวัวพบศพในช่วงหัวค่ำวันที่ 6 มิ.ย.ในป่าละเมาะ ภายในซอย กรูน 2 ม.1 ต.เพ 

ในสภาพเปลือยกาย ถูกมัดมือมัดเท้า ห่อด้วยผ้านวมสภาพศพขึ้นอืดจนจำใบหน้าไม่ได้ จนกระทั่งสืบทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ น.ส.โอ๋ ซึ่งบิดาแจ้งหายไปพร้อมกับ หลานสาว วัยขวบเศษ และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บว 6757 ระยอง ซึ่งครั้งสุดท้ายได้พบเห็นว่า นายอนุชา เป็นคนขับ อยู่แถวหาดสวนสน และหนีไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนจากเบาะแส พบว่านายอนุชา เคยมาหาน.ส.โอ๋ เพื่อมารับจ้างสักยันต์ ที่บ้านเพ และที่ อ.ปลวกแดง และรับจ้างทำงานทั่วไปที่เพ ทั้งยังเคยติดคุกคดีลักทรัพย์ และถูกจับในข้อหาพยายามฆ่า ที่ จ.อุบลราชธานี เพิ่งพ้นโทษได้ 3 เดือน ก็มาก่อเหตุที่ระยอง อีก ซึ่งลักษณะการก่อเหตุได้ปืนขึ้นไปบนตึก 3 ชั้น ที่เป็นบ้านพักของเหยื่อสาว ก่อนลงมือข่มขืนรัดคออย่างโหดเหี้ยมภายในบ้านต่อหน้าบุตรสาวที่นอนอยู่บนเตียง จากนั้นนำศพมัดด้วยเชือกแล้วลากขึ้นบนดาดฟ้า แล้วโยนศพลงมากลางดึก 

จากนั้นนำศพไปทิ้งใน ซอย กรูน 2 ไม่ไกลจากบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. จนกระทั่งมีผู้พบศพวันที่ 6 มิ.ย. โดยยังได้นำรถยนต์ของผู้เสียชีวิตและลักพาบุตรสาวของผู้เสียชีวิตไปอีกด้วย จึงต้องติดตามด้วยความระมัดระวังเพราะหวั่นว่าคนร้ายจะลงมือกับเด็ก ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง กระทั่งติดตามจนสามารถจับกุมคนร้ายพร้อมรถยนต์บริเวณ ริม ถ.สายปากแพรก-หมอมุ่ย ต.ละหาร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง พร้อมเด็กหญิง อยู่ภายในรถยนต์ ซึ่งคนร้ายให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาและอ้างว่าหลงรักหญิงสาวจึงลงมือข่มขืนและนอนกอดโดยไม่รู้ว่าเสียชีวิตแล้ว ส่วนบุตรสาวก็ได้นำมาด้วยยังซื้อข้าวและขนมให้กินอีกด้วย

ด้าน พล.ต.ต.เชิดชาย กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญที่คนร้ายลงมืออย่างเหี้ยมโหด กับหญิงสาวที่อยู่ลำพังเพียงสองคนกับบุตรสาววัยเพียง 1 ขวบกว่าเท่านั้น ก็ไม่มีเรี่ยวแรงต่อสู้คนร้ายจึงลงมือรัดคอ เป็นการกระทำที่อุกอาจมาก อีกทั้งคนร้ายก็เพิ่งออกจากคุก เมื่อก่อเหตุแล้วยังได้พาบุตรสาวของผู้ตายไปด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องชีวิตของเด็ก และก็สามารถจับกุมร้ายได้พร้อมเด็กได้กลับมาสู่อ้อมอกญาติได้อย่างปลอดภัยในที่สุด สำหรับแนวทางป้องกัน นั้น หญิงสาวที่อยู่ลำพังบ้านช่องต้องล๊อกแน่นหนา ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นตึกด้านหลังนั้นสามารถปืนขึ้นได้เพราะมีบันไดหนีไฟขึ้นดาดฟ้า มีจุดที่ไม่ปลอดภัยหลายด้าน

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายอนุชา นำไปทำแผนท่ามกลางชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงมามุงดู และตะโกนสาปแช่งด้วยความโกรธแค้น ญาติปรี่เข้ารุมประชาทัณฑ์ระหว่างที่คนร้ายเดินออกมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นกันจ้าละหวั่น หลังทำแผนเสร็จสิ้นโดยได้นำตัวนายอนุชา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายจนถึงแก่ความตาย ซ่อนเร้น ย้ายทำลายศพ ลักทรัพย์ในเคหะสถาน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์