บุกเชือดแม่-ลูก ฆ่าสยอง ดช. 5 ขวบลูกครึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 00.30 น. คืนวานนี้ (13 มี.ค.) พ.ต.ท.สมพงศ์ ครุฑสุวรรณ สารวัตรเวร สภ.อ. เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีเหตุฆ่าคนตายภายในบ้านไม่มีเลขที่ชื่อ อรพรรณสมุยโฮม ตั้งอยู่ริมถนนทางไปท่าเรือราชาเฟอรี่ หมู่ 2 ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยยุทธ นิลวงศ์ ผกก. พ.ต.ท.อภินันท์ โกศัลวิทย์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.บุญมา แก้วละเอียด สว.สส. นำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวสไตล์ยุโรป ปลูกสร้างอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ บริเวณลานพักผ่อนหน้าประตูทางเข้าตัวบ้านพบภาพชวนสยดสยองของศพ ด.ช.ภาณุวัฒน์ หรือโทมัส คร็อบ ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลียวัย 5 ขวบ นอนตายจมกองเลือดอยู่หน้าประตู มีบาดแผลถูกของมีคมเชือดที่ลำคอด้านหน้า 2 แผลลึกถึงหลอดลม เฉือนยาวไปถึงหลังกกหูขวา ใบหน้าบวมปูด

เพราะถูกคนร้ายจับฟาดกับโต๊ะม้านั่งหินอ่อน กลางหลังมีแผลถูกแทงทะลุหน้าอกซ้ายอีก 1 แผล เสียชีวิตมาประมาณ 2-3 ชม. ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายคือนางอรพรรณ คร็อบ อายุ 30 ปี เป็นแม่ผู้ตาย ถูกคนร้ายจับศีรษะกระแทกกับพื้นปูนจนน่วมไปทั้งหัว และยังมีแผลถูกเชือดคออีก 1 แห่ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุยซึ่งมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นชุดแรกได้ช่วยนำตัวส่ง รพ.เกาะสมุยไปก่อนหน้าแล้วอาการสาหัส

จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบว่าด้านในตัวบ้านมีนางสมบูรณ์ ยาโน อายุ 74 ปี แม่ของนางอรพรรณและเป็นยายของ ด.ช.ภาณุวัฒน์ นอนป่วยเป็นอัมพาตอยู่บนเตียง ไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวและให้การได้ ทำได้แต่เพียงกลอกนัยน์ตาไปมาพร้อมทั้งมีน้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง คาดว่าคงจะเศร้าสลดใจที่เห็นหลานชายถูกฆ่าส่วนลูกสาวถูกทำร้ายปางตายไปต่อหน้าต่อตา ในที่เกิดเหตุพบร่องรอยการต่อสู้จนโต๊ะเก้าอี้ล้มระเนนระนาด มีคราบเลือดสาดกระจายไปทั่วบริเวณ มีเศษเส้นผมหลุดร่วงเป็นกระจุก รวมทั้งรอยเท้าเปื้อนเลือดแต่ไม่พบอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ

ขณะเดียวกัน จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯและพยาบาลห้องฉุกเฉิน รพ.เกาะสมุยซึ่งนางอรพรรณได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังก่อนจะหมดสติว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.00 น. ได้อุ้ม ด.ช.ภาณุวัฒน์ออกมายืนดูการจุดพลุบนท้องฟ้าที่ลานพักผ่อนหน้าบ้าน มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วม สูงประมาณ 160-165 ซม. อายุประมาณ 30-35 ปีพูดสำเนียงปักษ์ใต้ นุ่งกางเกงขายาวลายพรางคล้ายทหาร สวมเสื้อยืดสีเทา ใช้ท่อนแขนปิดบังใบหน้าบุกเข้ามาประชิดตัว

นางอรพรรณเผยอีกว่า คนร้ายตรงเข้ามาแย่งกระชากตัว ด.ช.ภาณุวัฒน์ไปจากนางอรพรรณ ด.ช.ภาณุวัฒน์ส่งเสียงร้องไห้จ้าด้วยความตกใจกลัว จึงถูกคนร้ายจับฟาดกับโต๊ะเก้าอี้หินอ่อนจนแน่นิ่ง ก่อนจะใช้มีดที่เตรียมมาเชือดคอและแทงซ้ำจนสิ้นใจตายอนาถต่อหน้าต่อตานางอรพรรณผู้เป็นแม่ ที่พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือกลับถูกคนร้ายจิกกระชากผมจับศีรษะโขกกระแทกพื้นคอนกรีตและใช้มีดเชือดคอซ้ำหวังฆ่าปิดปาก โดยไม่คิดว่านางอรพรรณจะแค่สลบไปเท่านั้น ก่อนจะหลบหนีไปโดยไม่แตะต้องทรัพย์สินแม้แต่ชิ้นเดียว พอนางอรพรรณฟื้นขึ้นมาเห็นลูกชายเสียชีวิตแล้วก็คลานกระเสือกกระสนออกมาหน้าบ้านร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ชัยยุทธ นิลวงศ์ ผกก.เกาะสมุยกล่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า เบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายอาจจะประสงค์ต่อทรัพย์สิน แต่เจ้าของบ้านต่อสู้ขัดขืนจึงถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ส่วนลูกชายวัย 5 ขวบถูกฆ่าตายอย่างทารุณ ส่วนสาเหตุอื่นอาจจะมีเรื่องโกรธแค้นส่วนตัวอยู่ระหว่างสืบสวนต่อไป

ต่อมาเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.หญิงสุรีย์พงศ์ กระฉ่อนวงศ์ รอง สว.นักวิทยาศาสตร์ สบ.1 วิทยาการเขต 24 จ.สุราษฎร์ธานี ได้ตรวจสอบหาหลักฐานภายในจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบไขควงเปื้อนเลือดและเหรียญสตางค์ชนิด 5 บาท ตกอยู่ 1 เหรียญ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน และพบร่องรอยคนร้ายลุยป่าหญ้าด้านหลังบ้านเกิดเหตุเข้ามาจนหญ้าราบลู่เป็นทางและมีคราบเลือดหยดเป็นหย่อมๆ คาดว่าเป็นเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีด้วย ส่วนรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ไฮแลนเดอร์ ทะเบียนป้ายแดง ก-0126 กระบี่ยังจอดอยู่ในโรงรถ ไม่พบร่องรอยงัดแงะหรือรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้านแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.ท.บุญมา แก้วละเอียด สว.สส.สภ.อ. เกาะสมุย ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักคนงานก่อสร้างและลูกเรือประมงต่างด้าวประมาณ 20 คน คุมตัวกลับไปเค้นสอบและตรวจหาร่องรอยคนร้ายก่อนจะปล่อยตัวไป ทั้งนี้ พ.ต.ท.บุญมากล่าวว่า จากการสอบสวนให้น้ำหนักไปที่ประเด็นความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างนางอรพรรณกับคนร้ายเป็นหลักมากกว่าประเด็นชิงทรัพย์

เมื่อ 5 ปีก่อนนางอรพรรณทำงานเป็นพยาบาลห้องฉุกเฉิน รพ.เกาะสมุย เคยมีคนรักเป็นคนไทยอยู่ใน อ.เกาะพะงัน เกือบจะแต่งงานกันอยู่แล้ว แต่มีปัญหาจึงเลิกกันไปเสียก่อน นางอรพรรณมาแต่งงานกับนายเจฮัด คร็อบ อายุ 45 ปี นักธุรกิจชาวออสเตรเลีย เจ้าของกิจการค้าวัสดุก่อสร้างในประเทศออสเตรเลียที่มาติดพัน โดยบินไปปักหลักอยู่กินฉันสามีภรรยาที่ออสเตรเลียจนมีลูกชาย 1 คนคือ ด.ช.ภาณุวัฒน์

นานๆครั้งถึงจะพาครอบครัวกลับมาเยี่ยมญาติ และลงทุนซื้อที่ดินปลูกบ้านหลังเกิดเหตุไว้เป็นที่พักผ่อนในเมืองไทย เมื่อ 2 เดือนก่อนมารดาของนางอรพรรณป่วยเป็นอัมพาต นางอรพรรณพร้อมครอบครัวจึงบินกลับมาดูแล โดยนายเจฮัดเพิ่งจะบินกลับไปดูแลธุรกิจได้เพียง 5 วันเท่านั้นก็เกิดเรื่องขึ้น อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นอดีตคนรักของนางอรพรรณมาสอบสวนต่อไป ส่วนนางอรพรรณจนถึงขณะนี้ยังไม่ฟื้น แพทย์ระบุว่าได้รับความกระทบ กระเทือนทางสมองอย่างรุนแรง ต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิดอีกระยะหนึ่ง หากนางอรพรรณฟื้นคืนสติคงจะช่วยให้คดีคลี่คลายเร็วขึ้น พ.ต.ท.บุญมากล่าว