แหม่มโต้สั่งฆ่าผัวเศรษฐีฝรั่ง

ตร.หางดงคุม 2 ผู้ต้องหา ฆ่าเศรษฐีฝรั่งทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นาทีบุกยิงเหยื่อในบ้านที่เกิดเหตุ แหม่มเมียฝรั่งโต้ข้ามโลก หลังโดนผู้ต้องหาซัดทอด ยันไม่ได้สั่งฆ่าผัวเพื่อหวังฮุบมรดก ยอมรับมีการโอนเงินให้ผู้ต้องหาจริงมากกว่า 10 ครั้ง แต่เป็นเรื่องงาน พร้อมส่งหลักฐานมาให้พิสูจน์ ระบุรู้ข่าวแล้วช็อกมาก ยันไม่เคยเจอหน้าผู้ต้องหามาก่อน

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 จับกุมนายสุจินต์ หรือ เจมส์ ชูแสงโรจน์ อายุ 28 ปี และนายสุภาพ หน่อคำ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่านายจอนอัลลัน แชพเพลล์ เจ.อาร์. อายุ 43 ปี นักธุรกิจชาวสหรัฐ เสียชีวิตในบ้านเลขที่ 68/53 หมู่ 3 ต.ขุนดง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2549 โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 รับสารภาพ และซัดทอดไปถึงนางดาร่า ปานานี ภรรยาของผู้ตายที่อยู่ในสหรัฐ เป็นผู้จ้างวาน เพื่อต้องการฮุบมรดกของผู้ตาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 มี.ค. พ.ต.ท.ถาวรวรุฒ ศรีพฤกษ์ รองผกก.สส.สภ.อ.หางดง จ.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.สุวิทย์ ปัญโญ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายสุจินต์ ชูแสงโรจน์ และนายสุภาพ หน่อคำ ผู้ต้องหาไปทำแผนฯ ประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเช่าเลขที่ 68/53 หมู่บ้านรัตนาพรวิว หมู่ 3 ต.ขุนคง อ.หางดง สถานที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ให้นายสุภาพ มือปืนทำแผนฯ เพียงคนเดียว ส่วนนายสุจินต์รออยู่ที่รถ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะควบคุมตัวผู้ต้องหากลับสภ.อ.หางดง นางสินีพร พันธวงศ์ อ้างว่าเป็นรองประธานฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ไอซีโอ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 299 หมู่ 2 ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เป็นบริษัทรับปรึกษาทางด้านกฎหมายให้ผู้ตาย เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมชาวต่างชาติ 1 คน เพื่อดูการทำแผนฯ หลังทำแผนฯ เสร็จ นางสินีพรเดินไปพูดคุยกับผู้ต้องหา

นางสินีพร ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ภรรยาของนายจอนอัลลันโทรศัพท์มาที่บริษัท และบอกว่าทราบข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ฆ่านายจอนอัลลัน และซัดทอดมายังนางดาร่าว่าเป็นผู้จ้างวาน ทำให้ตกใจมาก และปฏิเสธ โดยนางดาร่าบอกว่าเป็นเรื่องปกติที่โอนเงินให้ ที่ผ่านมาโอนเงินให้นานมีมากกว่า 10 ครั้ง พร้อมที่จะส่งหลักฐานการโอนเงินทุกครั้งมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปกติแล้วนายสุจินต์ดูแลธุรกิจให้กับนายจอนอัลลัน การติดต่อโอนเงินจะต้องทำตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อทราบข่าวจึงช็อกมาก และบอกว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ อีกทั้งก็ไม่เคยเจอหน้านายสุจินต์มาก่อนเลย

นางสีนีพร กล่าวว่า นางดาร่ายอมรับว่าเคยคุยโทรศัพท์กับนายสุจินต์หลายครั้งเรื่องงาน กับเรื่องปัญหาทะเลาะกันก่อนหน้านี้ ก่อนที่นายจอนอัลลันจะเสียชีวิต นายสุจินต์ทะเลาะกับนายจอนอัลลัน นางดาร่าจึงพยายามจะเคลียร์ปัญหาให้ ส่วนที่นายสุจินต์บอกว่า นางดาร่าพูดว่าไม่อยากให้นายจอนอัลลันมีชีวิตอยู่ ก็ไม่ทราบมาก่อน

ก่อนหน้านี้นางดาร่าจะโอนเงินมาในนามของนิด ซึ่งเป็นหุ้นส่วน โอนเงินมาบัญชีตนบ้าง แต่หลังจากนั้นจะโอนมาที่นายสุจินต์มาโดยตลอดจำนวน 10 กว่าครั้ง และนางดาร่าบอกว่ามีหลักฐานทุกครั้ง พร้อมทั้งจะส่งหลักฐานมาด้วย ทำให้นางดาร่างงว่า ทำไมนายสุจินต์ถึงต้องบอกอย่างนี้ นี่คือสิ่งที่นางดาร่าฝากมา อีกทั้งไม่เคยพบนายสุจินต์ แค่คุยกันทางโทรศัพท์กับอีเมล์เท่านั้น

นางสินีพรกล่าวต่อว่า ขณะนี้นางดาร่าเตรียมแต่งตั้งบริษัทไอซีโอฯ ให้เป็นทนายความคดีนี้ คงต้องประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นางดาร่าพร้อมจะเดินทางมาพิสูจน์ความจริง สำหรับพินัยกรรมที่นายสุจินต์ให้การว่า ผู้ตายมีทรัพย์สินเป็นบ้าน 11 หลังนั้น ขอยืนยันว่าไม่จริง พร้อมจะมอบพินัยกรรมให้ตำรวจ เพราะพินัยกรรมอยู่ที่บริษัทของเรา และพินัยกรรมก็ไม่ได้ระบุให้นางดาร่าคนเดียว แต่ระบุถึงน้องสาวของนายจอนอัลลันด้วย ของนางดาร่าเป็นส่วนน้อย และที่ดินทรัพย์สินต่างๆ จะเป็นของน้องสาวนายจอนอัลลัน

นางสินีพรกล่าวอีกว่า นางดาร่าไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับนายจอนอัลลัน แต่เป็นคนสำคัญของนายจอนอัลลัน ดูแลมาหลายปี และดูแลเรื่องธุรกิจทั้งหมดของสามี ส่วนทางญาตินายจอนอัลลัน หลังทราบข่าวตำรวจจับกุมคนร้ายได้ ทางญาติดีใจมาก คิดว่าคงจะมีกระเช้าดอกไม้มาขอบคุณและชื่นชมตำรวจ สำหรับทรัพย์สินของนายจอนอัลลันเท่าที่ทราบคงไม่มาก นายจอนอัลลันกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว เพราะมาทำธุรกิจในประเทศไทย เคยคิดจะขอกู้เงินจากธนาคาร และทำบัตรเครดิตที่ประเทศไทย แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร