คลี่ปมกาแฟป๋องพิษ พระ-สีกาโดนเค้น-โยงวางยา

ตำรวจนำหมายศาลบุกค้นห้องพระลูกวัดผู้ต้องสงสัยคดีวางยาฆ่าเจ้าอาวาส พบหลักฐานสำคัญทิ้งไว้ด้านหลัง มีทั้งเข็มฉีดยา ไซริงจ์ และขวดยา สอบเค้นเจ้าตัวอ้างเป็นของเจ้าหน้าที่อนามัยที่มาฉีดยาให้ตอนอาพาธ เผยตำรวจพบอีก 2 ชาวบ้านดื่มกาแฟกระป๋องแล้วชัก ญาตินำส่งโรงพยาบาลช่วยชีวิตไว้ได้ เผยทั้ง 2 รายรับกาแฟกระป๋องมาจากสีกาโยมอุปัฏฐากของผู้ต้องสงสัย พอเรียกมาสอบกลับให้การวกไปวนมา เชื่อมีความโยงกัน เผยตร.สั่งประกบติด ถ้าผลพิสูจน์ยาพิษออกมาว่าเป็นชนิดเดียวกันโดนรวบตัวแน่

เมื่อเวลา 14.15 น.วันที่ 11 มี.ค. พ.ต.ท.สุชิน ศกุนตนาฏ พงส.(สบ 3) สภ.อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท กล่าวถึงความคืบหน้าคดีวางยาพิษสังหารพระอธิการสุทิน ฐานธัมโม อายุ 56 ปี เจ้าอาวาสวัดวิหารห้องเดียว ต.ดอนคำ โดยนำยาพิษใส่ในกาแฟกระป๋องให้ฉันจนมรณภาพว่า เมื่อเวลา 07.00 น. ตนพร้อมด้วยพ.ต.ท.ไพศาล แย้มบางยาง รองผกก. (สส.) สภ.อ.สรรคบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจำนวนหนึ่ง เข้าตรวจค้นกุฏิพระภิกษุจักรกฤษณ์ รตนปัญโญ

ซึ่งเป็นพระลูกวัด เพื่อหาหลักฐานบางอย่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามค้นหาหลักฐานอย่างละเอียด โดยเฉพาะที่บริเวณด้านหลังกุฏิ ที่เป็นคูน้ำอยู่ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร จากการตรวจหาพบเข็มฉีดยา ไซริงจ์ และขวดยาพลาสติกถูกทิ้งไว้ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นจากการตรวจสอบด้วยตาเปล่าภายในขวดยาพลาสติกพบตัวยาหลงเหลืออยู่บ้าง จึงเก็บไว้ส่งตรวจพิสูจน์ว่ามีส่วนผสมของยาพิษชนิดใด และเป็นสารพิษชนิดเดียวกันกับภายในกาแฟกระป๋องที่ใช้วางยาเจ้าอาวาสหรือไม่

พ.ต.ท.สุชินกล่าวเพิ่มว่า นอกจากนี้ยังพบชาวบ้าน 2 คนที่ดื่มกาแฟจนต้องหามส่งโรงพยาบาล ซึ่งจากที่ได้สอบถามเชื่อว่ากาแฟที่ดื่มเข้าไปอาจจะมาจากแหล่งเดียวกัน ขณะนี้ได้สอบปากคำแล้ว ให้การว่าได้รับมาจากผู้หญิงคนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ได้นำตัวหญิงคนดังกล่าวมาสอบปากคำแล้ว แต่ยังให้การวกวนอ้างว่าซื้อมาจากร้านค้าปลีกแห่งหนึ่ง แต่จากการสืบสวนเชื่อว่ามาจากแหล่งเดียวกันกับพระผู้ต้องสงสัยรูปหนึ่งในวัดดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจค้นเจออุปกรณ์การฉีดยาและขวดยานั้น เจ้าหน้าที่ได้สังเกตที่สีหน้าพระภิกษุจักรกฤษณ์มีอาการส่อพิรุธ โดยพยายามบอกว่าเข็มฉีดยาพร้อมอุปกรณ์การฉีดดังกล่าวเป็นของเจ้าหน้าที่อนามัยที่มาฉีดยาให้ร่วมเดือนแล้ว เนื่องจากอาพาธเป็นไข้หวัด แต่จากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่อนามัยคนที่ถูกกล่าวอ้างก็ให้การปฏิเสธ พร้อมกับระบุว่าอุปกรณ์การฉีดยาแต่ละครั้งจะเก็บกลับมาทุกครั้ง ไม่โยนทิ้งไว้อย่างแน่นอน ตำรวจจึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของพระลูกวัดรูปหนึ่งจนกว่าผลการตรวจพิสูจน์ว่ายาพิษในกาแฟกับอุปกรณ์ที่ยึดได้เป็นอันเดียวกัน จากนั้นจึงจะขออนุมัติหมายจับ

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้เชิญพยานที่เป็นญาติโยม และพระลูกวัดมาสอบปากคำอย่างละเอียด พบความขัดแย้งภายในวัดระหว่างเจ้าอาวาสกับพระลูกวัดรูปหนึ่งที่พฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งดูดวง สะเดาะเคราะห์ รดน้ำมนต์ และรักษาโรค จนนำมาสู่การสั่งห้ามไม่ให้พระรูปดังกล่าวทำพิธีกรรมอย่างสิ้นเชิง จนเกิดความไม่พอใจ จึงอาจอาฆาตแค้นนำมาสู่การวางยาพิษก่อเหตุก็เป็นได้

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.ท.ไพศาล แย้มบางยาง รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท.สุชิน สกุนตนาฎ พงส.(สบ.3) สภ.อ.สรรคบุรี พร้อมกำลัง ได้นำหมายค้นเพื่อตรวจค้นกุฏิพระจักรกฤษณ์ สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนที่มาทำบุญงานศพเจ้าอาวาส ภายในศาลาการเปรียญอย่างมาก ต่างวิจารณ์กันต่างๆ นานา และเช้าวันเดียวกันพระภิกษุจักรกฤษณ์ไม่ได้ฉันภัตตาหารเช้า เพราะไม่มีญาติโยมคนใดนำไปถวาย

ด้านพระภิกษุจักรกฤษณ์กล่าวว่า ไม่รู้ไม่เห็นกับการวางยาพิษสมภาร และชาวบ้านมองตนอย่างเกลียดชัง ไม่ยอมนิมนต์ให้ไปทำบุญด้วย คงคิดว่าเป็นผู้กระทำผิด แต่ไม่ถือสา ความจริงต้องปรากฏ จะยืนหยัดต่อสู่จนกว่าจะรู้ตัวคนทำผิด

ด้าน พ.ต.ท.ประเสริฐ อินทับ พงบ.(สบ.3) สภ.อ.สรรคบุรี ได้รับแจ้งจากนางจำรูญ เอี่ยมกลิ่น อายุ 55 ปี อยู่ ม.9 ต.โพงาม อ.สรรคบุรี ว่าสามีชื่อนายแสวง หรือเทิ้ม เอี่ยมกลิ่น อายุ 55 ปี ได้ดื่มกาแฟกระป๋อง ยี่ห้อเนสกาแฟ สีเขียว ที่ได้รับเมื่อวันที่ 8 มี.ค.2550 เวลา 15.00 น.จากนางจำรัส กิ่งกุล อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ อสม.ประจำหมู่ 9 ต.โพงาม ดื่มเข้าไปมีการชักกระตุก น้ำลายฟูมปาก จึงต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลพูนผล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ซึ่งขณะนี้อาการดีขึ้น และได้นำกระป๋องกาแฟมาให้ตำรวจ พบว่าที่บริเวณใต้กระป๋องพบว่ามีร่องรอยการเจาะรู แล้วใช้กาวอุดรูเหมือนกับที่นำไปถวายให้สมภารดื่มจนมรณภาพ นอกจากนี้ยังมีนายเฉลิม ทองกร อายุ 50 ปี อาชีพทำนา อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.9 ต.โพงาม ที่ได้รับกาแฟกระป๋องจากนางจำรัสไปดื่ม ก็มีอาการดิ้นต้องห้ามส่งร.พ.สรรคบุรี อาการดีขึ้นแล้ว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนายเฉลิมที่ร.พ.สรรคบุรี สภาพยังนอนให้น้ำเกลืออยู่ นายเฉลิมกล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค.50 เวลาประมาณ 13.30 น. นางจำรัสซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน ได้มาหาและบอกว่านำเอากาแฟมาฝากพร้อมเปิดฝาใส่หลอดกาแฟให้ดื่ม ถามว่ามาให้ทำไมทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยนำสิ่งของหรืออาหารมาให้ แต่นางจำรัสบอกว่าเป็นวันเกิดลูกนำกาแฟมาเลี้ยง หลังจากดื่มหมดก็ขอกระป๋องกาแฟกลับ ไม่เอะใจอะไร เพราะนางจำรัสเก็บของเก่าขาย อีกไม่กี่นาทีก็มีการใจสั่น ร้อนคอไปหมด น้ำลายฟูมปาก ทางญาติตกใจทำตัวส่งร.พ.สรรคบุรี ให้หมอล้างท้องได้ทัน

พ.ต.ท.ไพศาลจึงเรียกนางจำรัสมาสอบปากคำ นางจำรัสกล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. เป็นวันเกิดของลูกชาย จึงได้นำกาแฟไปเลี้ยงผู้สูงอายุ หลายคนในหมู่บ้าน ในฐานะที่เป็นอสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) ของหมู่บ้าน ซึ่งกาแฟดังกล่าวซื้อมาจากห้างโลตัส สาขาชัยนาท โดยซื้อมาแบบยกลัง ไม่ทราบว่าจะมีพิษทำให้ทั้งสองต้องถูกนำส่งโรงพยาบาล และรู้ภายหลังว่ามีการเจาะรูเพื่อนำเอายาพิษใส่ไว้

พ.ต.ท.ไพศาลเปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบว่านางจำรัสเป็นโยมอุปัฏฐากของพระภิกษุจักรกฤษณ์ตั้งแต่จำพรรษาอยู่ที่วัดตึก ต.โพงาม และยังติดต่อไปมาหาสู่กันอยู่เป็นประจำ ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงกันก็เป็นได้ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินคดีกับนางจำรัสได้ เพราะต้องรอผลการตรวจยาพิษในกระป๋องกาแฟก่อน ว่าเป็นชนิดเดียวกันที่พบกับชาวบ้านทั้งสอง และกับสมภารที่ถูกวางยาพิษจนมรณภาพหรือไม่ อย่างไรก็ตามนางจำรัส ยังให้การวกวน อีกไม่นานเรื่องก็คงกระจ่าง และจะตรวจสอบวงจรปิดที่โลตัสชัยนาทว่าในเวลาดังกล่าวนางจำรัสไปซื้อของที่สถานที่ดังกล่าวจริงหรือไม่