รัวดับโจรบัณฑิต คิดสั้น-ปล้นทอง

"ถูก ตร.วิสามัญฯดับคาร้าน"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.15 น. วานนี้ (9 มี.ค.) พ.ต.ท.อธิพงศ์ ทองแดง สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนครพิงค์ว่า มีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านขายทองคำรูปพรรณชื่อ ห้างทองเยาวราช ตั้งอยู่เลขที่ 57/1 ถนนบำรุงบุรี ต.พระสิงห์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นายวิชัย ศรีขวัญ ผวจ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.กิติธัช เรือนทิพย์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.สุวัฒน์ กรึงไกร รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.บรรฑป สุคนธมาก ผบก.ภ.จ. เชียงใหม่ พ.ต.อ.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผกก. สภ.อ.เมืองเชียงใหม่

และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง ที่เกิดเหตุติดกับตลาดประตูเชียงใหม่ เป็นย่านการค้าสำคัญมีผู้คนพลุกพล่าน พบ ด.ต.พินิจ สิทธิรักษ์ ผบ.หมู่ศูนย์การจราจร ภ.จ.เชียงใหม่ ยืนถือปืน 9 มม.รอพนักงานสอบสวนอยู่ในที่เกิดเหตุ ใกล้กันพบศพคนร้ายทราบชื่อ นายสุทัต เหลืองเพชรงาม อายุ 32 ปี

เจ้าของร้าน ตันหยง บริการถ่ายเอกสารและงานคอมพิวเตอร์ ตั้งอยู่เลขที่ 199/2 ซอยข้างธนาคารกรุงไทย หน้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ หมู่ 5 ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นอนตายลักษณะคว่ำหน้าอยู่ตรงฟุตปาทหน้าร้านทอง สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ คลุมทับด้วยเสื้อแจ็กเกตแขนยาวสีขาวผ้าร่ม นุ่งกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าแตะสีน้ำตาล สวมถุงมือสีขาวทั้ง 2 ข้าง มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืน 9 มม.บริเวณใบหน้า ปาก ลำคอ รวม 6 นัด

ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวใด ๆ ทั้งสิ้น



"เดินเข้ามาปืนขู่ ทุบกระจกกวาดทอง"


ใกล้กันพบหมวกไหมพรมแบบไอ้โม่ง รถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีมสีขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของคนร้าย รวมทั้งปืน .38 กระสุน 4 นัด ที่คนร้ายแย่งมาจากเจ้าของร้านทอง ปลอกกระสุนปืน 9 มม. และ.38 รวม 13 ปลอก นอกจากนี้ยังพบทองคำรูปพรรณตกอยู่กลาดเกลื่อนหน้าร้าน ส่วนภายในร้านตู้กระจกใส่ทองถูกทุบแตกกระจัด กระจาย กองเลือดหลายกอง รวมทั้งปืนปลอมแบบแม็กกาซีน สีดำ 1 กระบอก โดยทราบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.รวมแพทย์

ก่อนหน้าแล้ว 2 ราย โดยรายแรกชื่อ นางวรรณา แสงตา อายุ 40 ปี เป็นภรรยา คนที่ 2 เจ้าของร้านทอง ถูกคนร้ายยิงด้วยปืน.38 เข้าบริเวณเหนือราวนมซ้าย 1 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมา อีกรายทราบชื่อ นายจำทูน นันต๊ะคำ อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 140 หมู่ 6 ต.บ้านโป่ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ มีอาชีพขี่รถสามล้อเครื่องรับจ้าง ถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นรอยถากบริเวณต้นขาขวาขณะมาเดินซื้อของ หลังแพทย์ทำแผลแล้วอนุญาตให้กลับบ้าน

สอบปากคำนายนรินทร์ ศรีรัตนากร อายุ 58 ปี เจ้าของร้านทองที่เกิดเหตุให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพร้อมด้วยนางรัตติยา ศรีรัตนากร อายุ 55 ปี ภรรยาหลวง และนางวรรณา ภรรยาคนที่ 2 นั่งขายทองอยู่ในร้าน ระหว่างนั้นมีคนร้ายคือนายสุทัตสวมหมวกไหมพรมแบบไอ้โม่งอำพรางใบหน้า ขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดหน้าร้าน เดินถือกระเป๋าสีน้ำเงินตรงเข้าไปในร้าน พร้อมชักปืนพกออกมาจี้บังคับไม่ให้ทุกคนขัดขืน ต้อนทุกคนไปยืนรวมอยู่ข้างเคาน์เตอร์ แล้วคนร้ายใช้ขวานที่เตรียมมาทุบกระจกตู้โชว์ กวาดเอาทองคำรูปพรรณใส่กระเป๋า

"ก่อนก่อเหตุ โดนเจ้าหนี้โทรตามทวงหนี้อื้อ"


จังหวะนั้นนางวรรณาสังเกตเห็นปืนของคนร้ายเป็นปืนปลอม จึงคว้าปืน.38 ออกมาจากลิ้นชักหมายจะยิงคนร้าย แต่พลาดท่าคนร้ายเข้าแย่งปืนไปได้ พร้อมกับใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงนางวรรณา 1 นัด ล้มฟุบ จากนั้นคนร้ายหันไปกวาดทองในตู้ วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ เป็นจังหวะเดียวกับที่ ด.ต.พินิจผ่านมาประสบเหตุ ใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าข่มขู่ให้คนร้ายวางอาวุธปืนมอบตัว คนร้ายกลับหันปากกระบอกปืนทำท่าจะยิงใส่ แต่ ด.ต.พินิจ ชิงลั่นกระสุนปืนเข้าใส่คนร้ายเสียชีวิต

ขณะเดียวกันตำรวจตรวจค้นในตัวนายสุทัตคนร้ายพบบัตรเครดิตหลายใบ รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ เมื่อตรวจ สอบพบว่าก่อนที่นายสุทัตจะก่อเหตุมีคนโทรศัพท์เข้าไปที่โทรศัพท์มือถือของนายสุทัตราว 30 สาย แต่ผู้ตายไม่รับ เมื่อตรวจสอบเบอร์ต้นทางพบว่าส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้โทร.ไปทวงหนี้ นอกจากนี้ตำรวจสอบปากคำนางอำพร เหลือเพชรงาม อายุ 28 ปี ภรรยานายสุทัตให้ การว่า แต่งงานอยู่กินกับนายสุทัตมีลูกชายหญิงด้วยกัน 2 คน

นายสุทัตเรียนจบปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เมื่อปี 2541 ประกอบอาชีพเปิดร้านถ่ายเอกสารและบริการคอมพิวเตอร์ ใกล้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ก่อนก่อเหตุมีบริษัทบัตรเครดิตแห่งหนึ่งโทรศัพท์ไปทวงหนี้ที่นายสุทัตติดค้างอยู่ราว 3 หมื่นบาท แต่ผู้ตายขอผัดผ่อนออกไปก่อน ส่วนเรื่องหนี้พนันฟุตบอลนั้นเชื่อว่าไม่มี เพราะตั้งแต่อยู่กินกันมานายสุทัตไม่ชอบเล่นการพนันฟุตบอล จากข้อมูลรวมทั้งหลักฐานต่างๆที่พบ ตำรวจเชื่อว่านายสุทัตอาจจะมีปัญหาทางด้านการเงิน จึงก่อเหตุบุกเดี่ยวชิงทองขึ้น

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์