ไม่ทันยกพวกตีคู่อริ-ปืนลั่นใส่โจ๋วัย14ดับ

สยองแก๊งโจ๋ทำปืนลั่นถูกพวกเดียวกัน เด็กชายวัย 14 เจอกระสุนฝังกระดูกสันหลังสิ้นใจตาย ระหว่างเตรียมไปตีกับวัยรุ่นคู่อริ แฉพวกแก๊งเดียวกันลากศพไปส่งร.พ.นิ้วเท้าครูดพื้นจนหลุด ล่าสุดโจ๋ที่ทำปืนลั่นรุดมอบตัวกับตร.แล้ว อ้างปืนที่ลั่นเป็นปืนปากกาของผู้ตายเอง หยิบมาโชว์จึงขอดูเกิดลั่นใส่หน้าอกดับ

เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 4 มี.ค. ร.ต.อ.สิทธิเดช โตราริ ร้อยเวรสภ.อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุจากร.พ.วังน้อย ว่ามีเด็กนักเรียนถูกยิงมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบว่าผู้เสียชีวิตคือด.ช.ภุชงค์ ยี่ขัน อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ม.1 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในอ.วังน้อย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. เข้าที่อกซ้ายกระสุนตุงอยู่ที่กระดูกสันหลัง 1 นัด

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ด.ช.ภุชงค์ กับเพื่อนๆ อีกประมาณ 10 คนเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงศิษย์เก่าที่โรงเรียนอีกแห่งหนึ่ง ม.1 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย โดยระหว่างงานเลี้ยงได้เกิดมีเรื่องกับนักเรียนคู่อริ จึงพากันกลับมานั่งรอที่ศาลาใกล้กับสถานที่จัดงาน

โดยมีเพื่อนคนหนึ่งนำอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม.ออกมาอวด และเตรียมที่จะดักยิงคู่อริ ปรากฏว่าขณะที่นั่งเล่นอาวุธปืนอยู่นั้น ปืนเกิดลั่นถูกด.ช.ภุชงค์หงายหลัง เพื่อนๆจึงรีบพาซ้อนท้ายขี่ไปส่งยังร.พ.วังน้อย โดยขาลากถนนมาจนนิ้วโป้งขาขวาขาดหายไป จากนั้นเพื่อนๆก็พากันหลบหนีไปหมด เจ้าหน้าที่พอจะรู้ตัวแล้วว่าใครเป็นคนยิงซึ่งจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.ท.พลพรรษ ผ่องโอภาส สวป.สภ.อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าหลังจากเกิดเหตุได้นำตัวเพื่อนของผู้ตายมาแยกกันสอบสวนจำนวน 2 คน ซึ่งให้การตรงกันว่าผู้ที่ยิงด.ช.ภุชงค์ เสียชีวิตคือนายวีระยุทธ หรือต้อม กสิกร อายุ 19 ปี บ้านอยู่ 69 ม.5 ต.หันตะเภา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งต่อมาได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายวีระยุทธ ให้การรับสารภาพว่าก่อนที่จะเกิดเหตุเพิ่งกลับจากงานเลี้ยง ก็มานั่งเล่นที่ศาลาริมถนนโดยไม่ทราบว่าด.ช.ภุชงค์ไปมีเรื่องอะไรกับใครมา เพียงแต่ทราบว่ามีเรื่องกับคนในงาน จากนั้นด.ช.ภุชงค์ จึงนำปืนปากกาออกมาอวดให้ดูว่าเดี๋ยวจะเล่นงานคู่อริ ซึ่งตนไม่ได้เป็นคนนำปืนมา จากนั้นก็ยืมมาเล่นแล้วปืนเกิดลั่นกระสุนทะลุเข้าอกด.ช.ภุชงค์ ด้วยความกลัวตนจึงรีบวิ่งหลบหนีไป จนกระทั่งทราบว่าเพื่อนตายจึงติดต่อกับทางบ้านและขอมอบตัวกับตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหากระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสืบสวนดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างที่นายวีระยุทธให้การหรือไม่