แห่ร้องลูกขุนพันธ์ เหรียญเก๊ เกลื่อนเมืองคอน!

เหรียญขุนพันธ์ปลอมขายเกลื่อนแผงพระเมืองคอน ล่าสุดสาววัย 38 เจ้าของแผงพระขึ้นโรงพัก เผยมีคนนำมาขายระบุเป็นเหรียญที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ จึงเหมามา 12 เหรียญรวม 4 พันบาท เมื่อนำไปให้ลูกชายขุนพันธ์ดูยืนยันเป็นของเก๊ อีกรายเป็นครูไปซื้อราคาพันบาทตรวจสอบก็ปลอมเช่นกัน ลูกขุนพันธ์วอนขอให้เลิก แฉรู้แหล่งผลิตอยู่กรุงเทพฯ เตรียมหาหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีแล้ว

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 มี.ค.50 น.ส.อนุสรณ์ ระวังวงศ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ต.ในเมือง อ.เมือง นครศรีธรรมราช เดินถือเหรียญ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เนื้อโลหะทองแดง ด้านหน้าเป็นรูปจตุคามรามเทพ มีราหูอมจันทร์ล้อมรอบ ด้านหลังเป็นรูปพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ยืนถือดาบ มีข้อความที่เหรียญว่า "ที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช วันที่ 22 ก.พ.2550 วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร" ซึ่งเป็นเหรียญปลอมจำนวน 12 เหรียญ เข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.อนันต์ เปาะทองคำ สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง นครศรีธรรมราช เพื่อให้จับกุมพ่อค้าคนที่มาหลอกขายเหรียญปลอมมาดำเนินคดีด้วย

น.ส.อนุสรณ์ให้การว่า มีอาชีพเปิดแผงพระเครื่องในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ชื่อ "อินนุพัฒน์พระเครื่อง" และเมื่อตอนเที่ยงวันเดียวกันมีพ่อค้าขายพระเครื่องคนหนึ่งมาเร่ขายเหรียญขุนพันธ์ดังกล่าว ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกขนาดเล็ก จำนวน 14 เหรียญ มาขายให้กับตนในราคาเหรียญละ 300 บาท เป็นเงิน 4,000 บาท ตนได้ซื้อไว้เพื่อขายต่อ หลังจากนั้นมีคนมาดูและบอกว่าเป็นเหรียญปลอม ตนจึงเดินทางไปพบกับนายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช ลูกชายพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ที่ศูนย์พระเครื่องราชาเลขที่ 666/1 ถ.ศรีปราชญ์ ต.คลัง อ.เมือง นครศรีธรรมราช เพื่อให้ดูว่าเป็นเหรียญขุนพันธ์จริงหรือปลอมกันแน่ และนายณสรรค์ ยืนยันว่าเหรียญปลอมแน่นอน ตนจึงมาแจ้งความดังกล่าว

ต่อมา พ.ต.ท.อนันต์ เปาะทองคำ สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง นครศรีธรรมราช สั่งการให้ร.ต.อ.สมเกียรติ รัตนะรัตน์ รอง สว.สส.สภ.อ.เมือง นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนและน.ส.อนุสรณ์ ไปจับกุมตัวพ่อค้าขายพระเครื่องคนดังกล่าว เมื่อไปถึงพบว่าชายคนดังกล่าวยังอยู่ในบริเวณวัดพระบรมธาตุฯ น.ส.อนุสรณ์จึงชี้ตัวให้จับกุม และสามารถจับกุมตัวได้โดยละม่อม ทราบชื่อผู้ต้องหาคือนายสง่า ห่อทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.2 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง นครศรีธรรมราช ซึ่งได้ให้การปฏิเสธว่า ไม่ทราบว่าเหรียญปลอม เพราะซื้อต่อมาจากพ่อค้าพระเครื่องอีกครั้งหนึ่งในต่างจังหวัด ทางตำรวจจึงคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์

เวลาไล่เลี่ยกันได้มีนางกรกฎ นามตาแสง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/1 ม.5 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี นครศรีธรรมราช รับราชการครู เข้าแจ้งความกับสารวัตรเวรคนเดิมว่า ได้ตระเวนหาซื้อเหรียญขุนพันธ์ ที่แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ตามแผงพระเครื่องศูนย์โอท็อปนครศรีธรรมราช และที่แผงพระ "ม่อนพระเครื่อง" เจ้าของร้านได้ยื่นเหรียญขุนพันธ์ให้ตนและบอกว่าขายในราคา 1,000 บาท จึงซื้อไว้ แต่สงสัยว่าจะเป็นเหรียญปลอมเพราะเคยเห็นภาพที่ลงในหนังสือพิมพ์ไม่ใช่แบบนี้ และได้ไปสอบถามนายณสรรค์ จึงทราบว่าเป็นเหรียญปลอม ทำให้โกรธมากก่อนจะมาแจ้งความกับตำรวจดังกล่าว

หลังจากรับแจ้งความ พ.ต.ท.อนันต์ ก็นำกำลังตำรวจเดินทางไปที่แผงพระเครื่อง "ม่อนพระเครื่อง" และเชิญตัวเจ้าของร้านคือนางสายไหม ทองสุก อายุ 32 ปี มาสอบสวน แต่นางสายไหมให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าเหรียญขุนพันธ์ทั้งหมดที่ร้านตนมีคนนำมาฝากขาย โดยไม่ทราบว่าเป็นเหรียญปลอม แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อจึงแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง และจะทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลหาแก๊งผลิตเหรียญขุนพันธ์ปลอมต่อไป และทราบว่าขณะนี้เหรียญดังกล่าวกำลังระบาดอย่างหนักตามแผงพระต่างๆ ทั่วประเทศ

ทางด้านนายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช กล่าวว่า เหรียญขุนพันธ์ของแท้ มี 2 ค่าย คือค่ายของตนผลิตแบบเนื้อผงด้านหน้าเป็นรูปเหมือนขุนพันธ์ ด้านหลังเป็นลายนิ้วมือขุนพันธ์ และอีกค่ายเป็นค่ายของนายฉันทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช น้องชายของตนผลิตออกมา 2 แบบ คือแบบเนื้อผงด้านหน้าเป็นจตุคามรามเทพ ด้านหลังเป็นรูปพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช นั่งถือดาบศักดิ์สิทธิ์ และเนื้อโลหะ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่ทวดและด้านหลังเป็นรูปเหมือนขุนพันธ์ ซึ่งหากมีพิมพ์นอกเหนือจากนี้ถือว่าเป็นของปลอมทั้งสิ้น จึงอยากขอร้องผู้ที่คิดทำเหรียญขุนพันธ์ปลอมได้โปรดเลิกทำเถอะ เพราะเป็นการหลอกลวงประชาชน ซึ่งทางตนและญาติๆ จะเอาเรื่องจนถึงที่สุดและทราบว่าโรงงานผลิตเหรียญขุนพันธ์ปลอมอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งจะได้ประสานกับตำรวจขยายผลจับกุมต่อไป