พบแล้ว 9 มม. ฆ่า 2 แหม่ม

"ยิงทิ้งเพราะขัดขืนและเห็นหน้าชัด"


หลังจากตำรวจภูธรภาค 2 ภายใต้การนำของ พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.ภ.2 ใช้เวลาเพียง 6 วันในการแกะรอยคลี่คลายคดีสังหารโหด น.ส.สวิรโคว่า ลูโบฟ อายุ 25 ปี และ น.ส.ซือเมร ทาทิอานา อายุ 30 ปี แหม่มสาวชาวรัสเซียที่ถูกยิงตายสยอง 2 ศพ คาเตียงผ้าใบ ที่ชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

โดยจับกุมตัวนายอนุชิต หรือหนึ่ง ล้ำเลิศ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/3 หมู่ 4 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สารภาพว่า ตั้งใจจะชิงทรัพย์ แต่ผู้ตายขัดขืนและเห็นหน้าตาชัดเจนจึงลงมือยิงทิ้ง ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุที่นายอนุชิตอ้างว่านำไปโยนทิ้งป่าหญ้าในซอยชัยพฤกษ์ 2 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตำรวจระดมกำลังค้นหาแต่ยังไม่พบนั้น

ความคืบหน้าของคดีล่าสุดตำรวจสามารถตรวจหาเจอทั้งรถ จยย. และปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุแล้ว โดยเมื่อเวลา 00.30 น. วานนี้ (2 มี.ค.) พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี ผบก.ภ.จ.ชลบุรี นำกำลังฝ่ายสืบสวนออกติดตามหาหลักฐานที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ โดยพบรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ 100 สีแดงดำ ทะเบียน คงธ 413 ชลบุรี ที่บ้านเช่าในซอยวัดธรรมสามัคคี หมู่ 10 ต.หนองปรือ พร้อมเชิญตัว น.ส.นงลักษณ์ สุดตา อายุ 20 ปี แคชเชียร์สถานบันเทิง ฮอลลีวู้ดผับ พัทยาใต้ แฟนสาวของนายอนุชิต มาสอบปากคำ

"พบปืนใช้สังหารแหม่มแล้ว"


ส่วนอาวุธปืน ตามแนวทางสืบสวนทราบว่า นายอนุชิตนำไปฝากไว้กับเพื่อนชื่อ นายทินกร มีกลี่ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 4 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง ตำรวจนำกำลังไปตรวจสอบ พบนายทินกร ยอมรับว่า นายอนุชิตนำปืนมาฝากเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมาโดยอ้างว่าฝากขายราคา 1 หมื่นบาท ก่อนที่นายอนุชิต จะหลบหนีไป ภายหลังมาทราบว่าเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุยิงแหม่มสาว 2 ศพ เกิดเกรงกลัวความผิดจึงนำปืนไปโยนทิ้งในบ่อน้ำขุด หลังศาลาตายาย เขาไม้แก้ว ห่างจากบ้านไปประมาณ 1 กม.

ตำรวจจึงนำกำลังไปลงงมค้นหา ในที่สุดก็พบปืนกระบอกดังกล่าว เป็น ปืนสั้นแบบแมกกาซีน ขนาด 9 มม. ยี่ห้อนอร์ริงโก้ ไม่มีทะเบียน ลักษณะชุบโครเมียมทั้งกระบอก จมอยู่ก้นบ่อน้ำ นำส่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบพบว่าเป็นปืนที่ใช้สังหาร 2 แหม่มสาวรัสเซีย นอกจากนี้ตำรวจยังพบเศษเสื้อผ้าของนายอนุชิต ที่สวมใส่วันเกิดเหตุ ถูกเผาทิ้งอยู่กลางป่าหมู่บ้านเขาไม้แก้ว จึงรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานมัดตัวมือปืนโหดรายนี้ ส่วนนายทินกร เพื่อนที่รับฝากปืนไว้ ตำรวจกันไว้เป็นพยานในชั้นศาล

พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.ภ.2 เปิดเผยถึงเบื้องหลังการพิชิตคดีว่า ตำรวจแกะรอยสืบสวนหาข่าวจากกลุ่มวัยรุ่น จนทราบว่า คนร้ายคือนายอนุชิต ล้ำเลิศ หลังก่อเหตุหลบหนีไปกบดานที่ย่านนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงกระจายกำลังออกตามล่าตัว กระทั่งจับกุมได้ที่ถนนสาย 331 สัตหีบ-นครราชสีมา ทางเข้านิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 1 มี.ค. คุมตัวมาสอบสวนรับสารภาพว่า ต้องการชิงทรัพย์และกลัวเหยื่อจำหน้าได้จึงลงมือสังหาร ส่วนที่ไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินของผู้ตาย หลังก่อเหตุเนื่องจากกลัวความผิดจึงรีบเผ่นหนีก่อน โดยไม่มีประเด็นอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง

"ตรวจประวัติคนร้าย"


ผบช.ภ.2 กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบประวัติ นายอนุชิต เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มาหลายครั้ง ล่าสุด ถูกตำรวจ สภ.ต.พัทยา จับกุมเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ได้รับการประกันตัวออกมา จากนั้นวันที่ 20 ก.พ.ก่อเหตุ ใช้ปืนไล่ยิงคู่อริรถโดยสารประจำทางสายนาเกลือ-เขาไม้แก้ว โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ กระทั่ง วันที่ 24 ก.พ. ก็มาก่อเหตุสังหารโหดแหม่มสาว 2 ศพดังกล่าว โดยคดีนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง ก่อนที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. จะมาแถลงข่าวในวันที่ 3 มี.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานที่ควบคุมตัวนายอนุชิต ผู้ต้องหาคนสำคัญรายนี้ คือที่โรงแรมอนันทยา รีสอร์ท ใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งตำรวจใช้เป็นกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีนี้ โดยนายอนุชิตถูกคุมตัวอยู่ในห้องศรีมุข 111 ส่วนห้อง 112 ที่อยู่ติดกันใช้เป็นห้องประชุมในการสอบสวน บรรยากาศหน้าห้องมีกำลังตำรวจคุ้มกันอย่างแน่นหนา พร้อมกันไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้เด็ดขาด

"หาเบื้องหลังให้ชัดเจน"


ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. กล่าวถึงคดีฆ่าแหม่มสาวชาวรัสเซีย 2 ศพที่เมืองพัทยาว่า ได้รับรายงานว่าสามารถจับกุมมือปืนได้แล้ว แต่ยังไม่เป็นที่พอใจ ขณะนี้ได้สั่งให้นำตัวเจ้าของรถ จยย.มาสอบสวน จะต้องนำขบวนการที่อยู่เบื้องหลังมาให้ได้ และในวันที่ 3 มี.ค. จะเดินทางไปที่พัทยา เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีและจะกวาดล้างขบวนการมาเฟียคนร้ายข้ามชาติทั้งหมด พร้อมทั้งจัดขบวนทัพของตำรวจในพื้นที่ใหม่ ยืนยันว่ามาเฟียในพัทยาต้องอยู่ไม่ได้ ขอเวลาอีกไม่กี่วันจะเรียบร้อย ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการจับแพะหรือไม่

เนื่องจากมีการเร่งรัดทำคดีนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ไม่มีการจับแพะแน่นอน ถ้า พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.ภ.2 จับแพะมา ผบช.ภ.2 ก็จะกลายเป็นแกะ ไม่ต้องห่วง นอกจากนี้ จากคดีที่เกิดขึ้นได้หารือกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้กำหนดตำแหน่งนายตำรวจประสานงาน ไปประจำในประเทศต่างๆ เพื่อดูแลคนไทยในต่างประเทศ และเป็นหูเป็นตาหาข่าวขบวนการก่อการร้ายในประเทศต่างๆ ที่จะเดินทางเข้ามาในไทย ไม่ใช่มาตั้งรับอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น เพิ่มงบประมาณไม่มากนัก โดยจะเป็นนายตำรวจระดับพันตำรวจเอกพิเศษ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์