เจอดี! ขุนพันธ์เฮี้ยน หัวขโมยสุดซวย

เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 1 มี.ค. ขณะที่ ร.ต.อ.สมใจ โพธิ์ศรีทอง รอง สวป. สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช นำกำลังสายตรวจออกตรวจพื้นที่ รักษาความสงบเรียบร้อย รอบนอกเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เมื่อไปถึงบริเวณสี่แยกบายพาส ถนนเลี่ยงเมือง หมู่ 9 ต.โพธิ์เสด็จ

ได้รับแจ้งทางวิทยุจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช ว่าขอให้นำรถยนต์ไปรับกำลังสายตรวจ ชุดของ ร.ต.อ.ประยงค์ เห็นพร้อม รอง สวป. สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งออกตรวจรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตเทศบาลนครศรีธรรมราช เช่นกัน แต่เนื่องจากรถยนต์สายตรวจของ ร.ต.อ.ประยงค์ เครื่องยนต์ดับขัดข้องอยู่ในซอยพนมวัง ถนนจำเริญวิถี ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช และไม่สามารถเดินทางไปต่อได้

หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.สมใจเดินทางไปช่วยเหลือ ปรากฏว่าบริเวณริมถนนพบ ร.ต.อ.ประยงค์ ยืนถือมีดดาบเล่มใหญ่ยาวเกือบ 1 เมตรไว้ในมือขวา ส่วนในมือซ้ายถือปลอกดาบสีดำ มีเชือกสีแดงพันอยู่ที่ฝักดาบ สำหรับรถยนต์สายตรวจจอดเปิดฝากระโปรงอยู่กลางซอย ขณะที่ ร.ต.อ.สมใจพูดคุยสอบถาม ร.ต.อ.ประยงค์อยู่นั้น พลขับได้ทดลองสตาร์ตเครื่องรถยนต์สายตรวจที่จอดเสียอยู่ใกล้กัน ปรากฏว่ารถสตาร์ตติด เครื่องยนต์กลับมาทำงานเป็นปกติ สร้างความแปลกใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ จากนั้นจึงพากันเดินทางกลับโรงพัก โดยนำมีดดาบเล่มดังกล่าวกลับมาด้วย

ร.ต.อ.ประยงค์ เห็นพร้อม รอง สวป. สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาว่า ก่อนพบมีดดาบดังกล่าว ได้นำกำลังออกตรวจความสงบเรียบร้อยตามปกติ ขณะมาถึงกลางซอยพนมวัง ถนนจำเริญวิถี จู่ๆเครื่องยนต์เกิดดับไปดื้อๆ ตนพร้อมกับพลขับจึงเปิดประตูรถลงไปตรวจสอบดู เมื่อเปิดฝากระโปรงรถตรวจเช็กเครื่องยนต์กันจ้าละหวั่น นานนับชั่วโมงก็ไม่สามารถสตาร์ตเครื่องยนต์ได้ ทั้งที่ทุกอย่างก็เป็นปกติ ตัดสินใจแจ้งวิทยุขอความช่วยเหลือจาก ร.ต.อ.สมใจ ที่กำลังออกตรวจรอบนอกเขตเทศบาลเมืองนครศรีธรรมราช มารับกลับโรงพัก

ร.ต.อ.ประยงค์เล่าต่อไปว่า ขณะลงมายืนอยู่ข้างรถเพื่อรอ ร.ต.อ.สมใจนั้น จู่ๆมีความรู้สึกว่า เหรียญขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งตนได้รับแจกขณะนำกำลังไปรักษาความสงบในงานพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และใส่ไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านขวา ดิ้นกระดุกกระดิก จึงก้มลงแกะกระดุมเปิดดูเหรียญในกระเป๋าเสื้อ จังหวะนั้นปรากฏว่าสายตาไปสะดุดกับมีดดาบเล่มหนึ่งที่วางอยู่ในพงหญ้าริมถนนกลางซอย

โดยมีดดาบมีถุงพลาสติกคลุมไว้อย่างดี เมื่อหยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นมีดดาบโบราณเล่มใหญ่ จังหวะเดียวกัน ร.ต.อ.สมใจกับพวกก็เดินทางมาถึงพอดี และระหว่างยืนพูดคุยเกี่ยวกับการพบมีดดาบ พลขับของตนก็ลองสตาร์ตเครื่องยนต์อีกครั้ง ซึ่งก็สตาร์ตติดอย่างไม่น่าเชื่อ สร้างความฉงนงงงวยไปตามๆกัน เพราะก่อนหน้าจะพบมีดดาบ ตนและพลขับทดลองสารพัดวิธีแล้วเครื่องยนต์ก็สตาร์ตไม่ติด ยอมรับว่ารู้สึกขนลุกขนพองกับเหตุการณ์เหนือคำอธิบายครั้งนี้อย่างมาก สำหรับมีดดาบเล่มดังกล่าวได้นำมามอบให้ ร.ต.ต.บรรจง สิทธิศักดิ์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช ตรวจสอบหาเจ้าของต่อไป

ต่อมาในช่วงเช้า หลังชาวบ้านทราบข่าวการพบมีดดาบ จึงพากันไปดูที่โรงพักจำนวนมาก โดยนายประยงค์ เชาวลิตถวิล อายุ 70 ปี หรือโกเหนียว 1 ในคณะกรรมการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อปี 2530 และเป็นศิษย์ใกล้ชิด พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตนายตำรวจมือปราบ จอมขมังเวทผู้ล่วงลับ เปิดเผยกับตำรวจว่า มีดดาบเล่มนี้ เป็นดาบที่ผ่านพิธีกรรมการสร้างหลักเมือง ถูกเก็บไว้ในศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อปี 2530

และหายไปจากศาลหลักเมืองนานกว่า 10 ปีแล้ว โดยขณะที่เก็บไว้ที่ศาลหลักเมือง พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ใช้เชือกสีแดงพันไว้ที่ฝักดาบพร้อมลงคาถาอาคมกำกับและใช้ถุงพลาสติกหุ้มไว้ นับว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่สามารถนำกลับคืนมาได้ในสภาพเดิม หลังทราบประวัติความเป็นมาดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำมีดดาบเล่มดังกล่าวไปเก็บรักษาไว้ที่ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชตามเดิม ในขณะที่ชาวบ้านพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่า วิญญาณ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช แสดงอิทธิฤทธิ์ทำให้หัวขโมยเจออาถรรพณ์จนต้องนำมาทิ้งไว้ก่อนตำรวจไปพบมีดดาบจนสามารถนำกลับมาเก็บไว้ที่เดิมได้