สุดโหด! ฆ่าเจ้าคณะตำบล ที่แท้ฝีมือโจ๋คู่ขา

"รวบตัววัยรุ่น โหดฆ่าเจ้าอาวาส"


จากคดีพระครูไพบูลกิตติวัฒน์ อภิญญาโต อายุ 50 ปี เจ้าคณะตำบลท่าหมื่นราม และเจ้าอาวาสวัดท่าหมื่นราม หมู่ 1 ต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ถูกคนร้ายบุกสังหารโหดในสำนักงานเจ้าคณะตำบลท่าหมื่นราม เป็นอาคารปูนชั้นเดียวตั้งอยู่หน้ากุฏิเจ้าอาวาส สภาพศพนั่งฟุบหน้ากับพื้นมีมุ้งคลุมศีรษะ

มีบาดแผลถูกแทงที่ลำคอ ลำตัวและหลังพรุน 15 แผล และพบร่องรอยการต่อสู้และรื้อค้นทรัพย์สินกระจุยกระจาย ส่วนทรัพย์สินที่หายไปมีเงินจำนวนหนึ่ง พระเครื่องเก่าแก่ร่วม 30 องค์ ปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก และโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย เบื้องต้น ตร.ยังไม่ปักใจว่าเป็นเรื่องโกรธแค้นส่วนตัว หรือถูกหนุ่มวัยรุ่นที่ผู้ตายพามาค้างที่วัด ฆ่าเพราะทะเลาะวิวาทกันนั้น

ความคืบหน้าการล่าตัวมือมีดสังหารเจ้าอาวาสวัดท่าหมื่นราม เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (1 มี.ค.) พ.ต.อ.คุณากร อยู่สวัสดิ์ ผกก.สภ.อ.วังทอง เปิดเผยว่า ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว ชื่อนายวี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี บ้านอยู่หมู่ 14 ต.ท่าหมื่นราม โดยเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะที่ ด.ต.สมชาย ประเสริฐศิลป์ หัวหน้าสายตรวจตำบลท่าหมื่นราม ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในป้อมตำรวจริมถนนสายกกไม้แดง-เนินมะปราง หมู่ 1 ต.ท่าหมื่นราม

พบนายวีมีอาการเมาสุราเดินผ่านมา จึงเรียกมาสอบถามถึงคดีที่เกิดขึ้น เนื่องจากนายวี เป็น 1 ใน 3 หนุ่มวัยรุ่นที่แวะเวียนไปหาพระครูไพบูลกิตติวัฒน์ ผู้ตาย เป็นประจำ และอยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจกำลังตามตัวมาสอบปากคำ แต่นายวีอ้างว่าไม่รู้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้น ด.ต.สมชายแจ้ง พ.ต.ท.ราเมศ แก้วสูงเนิน สว.สส.สภ.อ.วังทอง ร่วมสอบปากคำนาน 1 ชั่วโมง นายวีถึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นมือมีดสังหารพระครูไพบูลกิตติวัฒน์

"แค้นไม่ยอมให้ค่าตัวจนครบ"


ผกก.สภ.อ.วังทองกล่าวต่อว่า จากนั้น พ.ต.ท.ราเมศ นำกำลังคุมตัวนายวีไปตรวจค้นบ้าน พบเศษเสื้อยืดคอกลมสีขาว กับกางเกงยีนที่นายวีสวมใส่ในวันเกิดเหตุ ถูกเผาทิ้งอยู่ข้างบ้าน โดยยังมีคราบเลือดติดเศษเสื้อผ้าอยู่ และพบมีดปลายแหลมยาว 6 นิ้ว สื่อมรณะกับปืนลูกซองสั้นของพระครูชะตาขาด ถูกโยนทิ้งอยู่หลังบ้าน และพบรถจักรยานของวัดที่นายวีขี่หลบหนีจอดอยู่หน้าบ้าน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะตามไปยึดเงิน 40,026 บาท ของผู้ตาย ที่นายวีนำไปฝากไว้กับเพื่อน ส่วนที่มีการระบุว่าพระเครื่องเก่าหายไป 30 องค์นั้น นายวีอ้างว่าไม่ได้เอาไปแต่อย่างใด

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายวีให้การว่า ก่อนเกิดเหตุราว 4 ทุ่ม วันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนที่บ้านเนินสะอาด ต.ท่าหมื่นราม พระครูไพบูลกิตติวัฒน์ได้โทรศัพท์เรียกให้ไปหาที่สำนักงานเจ้าคณะตำบลท่าหมื่นราม เมื่อไปถึงได้ร่วมเพศกัน 1 ครั้ง แต่พระครูไพบูลกิตติวัฒน์ต้องการให้ร่วมเพศต่อเป็นยกที่ 2 นายวี ไม่ยอม พระครูไพบูลกิตติวัฒน์โมโหต่อว่า แล้วจ่ายเงินค่าตัวให้ 100 บาท

สร้างความไม่พอใจให้กับนายวี เพราะที่ผ่านมาเคยจ่ายค่าตัวให้ครั้งละ 700 บาท และได้ทวงเงินส่วนที่ขาด แต่พระครูเหยื่อโหดไม่ยอมจ่ายให้ นายวีจึงตบหน้าไป 1 ครั้ง จากนั้นพระครูไพบูลกิตติวัฒน์เดินเข้าไปหยิบปืนในห้องด้านหลังออกมาขู่ให้กลับ แต่นายวี กระโดดเตะมือพระครูไพบูลกิตติวัฒน์จนปืนหลุด แล้วชักมีดที่พกติดตัวมาจ้วงแทงหน้าอกและคอทรุด ก่อนจะกดหัวกระหน่ำแทงซ้ำที่กลางหลังจนตายคามือ

จากนั้นนายวีล้วงเงินของกลางที่ซ่อนอยู่ใต้ที่นอนของพระครูผู้ตาย กับปืนลูกซองสั้นติดมือ แล้วเอากุญแจกุฏิเจ้าอาวาสในอังสะของผู้ตายไขเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สินแต่ไม่พบ จึงขี่รถจักรยานที่จอดหน้าที่เกิดเหตุหลบหนีกลับบ้านไป

"ชาวบ้านแห่มอบดอกไม้ให้กำลัง ตร.ที่ติดตามจับกุมคนร้ายได้สำเร็จ"


ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ ห้องประชุม สภ.อ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.ภ.6 ได้แถลงข่าวจับกุมนายวี ผู้ต้องหาฆ่าพระครูไพบูลกิตติวัฒน์ โดยกล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าไปพบพระครูไพบูลกิตติวัฒน์ในที่เกิดเหตุตามที่นัดกันไว้ เพราะรู้จักคบหากันมาก่อน ต่อมาเกิดทะเลาะวิวาทกัน เรื่องผลประโยชน์ที่ไม่เป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ ถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน ก่อนที่ผู้ต้องหาจะชักมีดแทงพระครูไพบูลกิตติวัฒน์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แล้วรื้อค้นเอาทรัพย์สินไป

หลังแถลงข่าว นายพีรพงศ์ คำมา ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดท่าหมื่นราม เป็นตัวแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในตำบลท่าหมื่นราม มอบช่อดอกไม้ต่อ พล.ต.ท.วิโรจน์ เพื่อเป็นกำลังใจและขอบคุณที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว โดย พล.ต.ท.วิโรจน์ ได้มอบช่อดอกไม้ต่อให้ พ.ต.อ.คุณากร อยู่สวัสดิ์ ผกก.สภ.อ.วังทอง ซึ่งเป็นผู้สร้างผลงานให้กับวงการตำรวจในครั้งนี้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์