รวบมือมีดฆ่าโหดเจ้าคณะตำบล

เผยเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้านอายุแค่ 16 ปี สารภาพลงมือสังหารคนเดียว เหตุโกรธแค้นที่เหยื่อให้เงินแค่ 100 บาท ทั้งที่เคยจ่ายเงินให้ 700 บาท ทุกครั้งที่นัดพบกันที่กุฏิวัด

ความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธมีดฆ่าชิงทรัพย์พระครูไพบูลกิตติวัฒน์ หรือ พระสมหวัง อภิญาโณ อายุ 50 ปี เจ้าคณะตำบลท่าหมื่นราม และเจ้าอาวาสวัดท่าหมื่นราม อ.วังทอง ได้แล้ว เมื่อกลางดึกวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.วังทอง จ.พิษณุโลก สามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.วังทอง จ.พิษณุโลก จับกุม นายยีนส์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเนินสะอาด ต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก คนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าพระครูไพบูลกิตติวัฒน์ ได้ที่บริเวณบ้านเนินสะอาด ต.ท่าหมื่นราม ภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าวมาไว้ที่สภ.อ.วังทอง โดยมี พ.ต.อ.คุณากร อยู่สวัสดิ์ ผกก.สภ.อ.วังทอง และ พ.ต.อ.ประเสริฐ กาฬรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกร่วมสอบปากคำ

พ.ต.อ.คุณากร กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหารับสารภาพทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนในหมู่บ้านเนินสะอาดประมาณ 4-5 คน จากนั้นได้ใช้โทรศัพท์มือถือของเพื่อนโทรหาผู้ตาย เพื่อขอเงิน เนื่องจากมีความสนิทสนมกับผู้ตายเป็นพิเศษ ต่อมาผู้ตายได้โทรศัพท์กลับมาโดยนัดแนะให้มาพบที่กุฏิวัด จากนั้นนายยีนส์ลุกจากวงเหล้า เพื่อไปพบกับผู้ตาย แต่ปรากฏว่า หลังการพบปะกันทั้งคู่เกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาท เนื่องจากผู้ต้องหาโกรธแค้นที่ผู้ตายให้เงินเพียง 100 บาท เพราะทุกครั้งที่พบกันผู้ตายจะให้เงินผู้ต้องหาจำนวน 700 บาททุกครั้ง

"ด้วยความโมโหนายยีนส์จึงใช้อาวุธมีดที่เหน็บเอวมา แทงที่บริเวณคอด้านหลังของพระครูก่อน ซึ่งพระครูได้ต่อสู้ และลุกไปหยิบปืนลูกซองสั้นในตู้ออกมา แล้วเกิดการต่อสู้กัน กระทั่งนายยีนส์ได้ล็อกคอพระครูบริเวณด้านหลัง พร้อมใช้มีดแทงที่หลังพระครูหลายครั้งจนมรณภาพ จากนั้นได้รื้อค้นสิ่งของและทรัพย์สิน ได้เงินสด 4 หมื่นบาท อาวุธปืนลูกซองสั้น

ก่อนจะขโมยรถจักรยานของชาวบ้านหลบหนีขึ้นไปอยู่บนภูเขาละแวกใกล้เคียงหมู่บ้าน และโทรศัพท์ให้เพื่อนมาดูลาดเลาบ้านเนินสะอาด จึงรู้ว่าตำรวจกำลังตามตัว ผู้ต้องหาจึงได้ซุกซ่อนอาวุธ และเผาทำลายเสื้อผ้าเปื้อนเลือดทิ้งแล้วลงมาดูลาดเลาในหมู่บ้าน จนกระทั่งโดนจับในที่สุด" พ.ต.อ.คุณากร กล่าว

พ.ต.อ.คุณากร กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุที่พบรอยเท้าเปื้อนเลือด ทั้งรอยเท้าเปล่า และรอยรองเท้าที่สวมรองเท้าแตะในที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาสารภาพว่า ขณะขึ้นไปหาผู้ตายได้ถอดรองเท้า แต่หลังจากก่อเหตุ ผู้ต้องหาเดินลงจากกุฏิ พร้อมใส่รองเท้าแตะกลับขึ้นไปใหม่ เพื่อรื้อค้นสิ่งของอีกครั้ง ก่อนหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปเก็บหลักฐาน พร้อมยึดอาวุธมีดที่ผู้ต้องหาทิ้งไว้บริเวณป่าข้างบ้าน ส่วนเงินสดจำนวน 4 หมื่นบาท ผู้ต้องหาให้การว่า ได้นำไปฝากไว้กับเพื่อนที่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตามไปยึดมาได้เช่นกัน