นำตัว 3 โจรขโมยควายพระราชทาน แฉมีเป็นขบวนการใหญ่ ส่งออก ตปท.

นำตัว 3 โจรขโมยควายพระราชทาน แฉมีเป็นขบวนการใหญ่ ส่งออก ตปท.


นำตัว 3 โจรขโมยควายพระราชทานแถลง "ผู้การภาค1" แฉมีเป็นขบวนการใหญ่ ส่งออก ตปท.

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูเกษมพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโตนดเตี้ย อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำนางทองกวาว ควายพระราชทานเพศเมีย อายุ 5 ปี ที่ถูกโจรกรรมไปขายถึงอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย กลับคืนสูงครอบครัวควายพระราชทานที่วัดโตนดเตี้ย และพบว่าน้องปิ่นอนงค์ ลูกควายอายุ 3 เดือนของนางทองกวาว ได้ตรงเข้าดูดนมทันทีและดูดกินนมอย่างอดอยากหลังไม่ดูนมมาตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา มิหนำซ้ำยังคลอเคลียแม่ไม่ยอมห่าง โดยในช่วงเช้าได้มีการทำบุญเพื่อรับขวัญควายที่ถูกโจรกรรม โดยมีชาวบ้านมาร่วมในการทำบุญจำนวนมาก
 

หลังจากนั้น พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แถลงผลจับกุมคนร้ายเป็นชาย 3 คนข้อหาร่วมกันลักทรัพย์  คือ นายประเสริฐ หรือเตี้ย แสนหาร อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 99 หมู่ 13 ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี , นายทองแดง สินสิบ อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 24 ม.12 ตงหนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว , นายสุรชัย สุดา อายุ 30 บ้านเลขที่ 695 ม.3 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ที่ก่อเหตุโจรกรรมควายพระราชทาน 2 ตัว  ที่กลางลานวัดโตนดเตี้ย ซึ่งเจ้าคล้าวถูกเชือดตายในโรงฆ่าสัตว์ที่ จังหวัดนครสวรรค์ และ นางทองกวาว ถูกขายไปที่จังหวัดเชียงราย โดยตำรวจสามารถติดตามนางทองกวาว นำกลับคืนสู่วัดได้ โดยในตอนแรกตำรวจะนำ 3 ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ทุ่งนาข้างวัดโตนดเตี้ย แต่ต้องยกเลิกการทำแผนกะทันหัน เหตุเพราะชาวบ้านจำนวนมากเตรียมเข้ารุมประชาทัณฑ์

 
ทั้งนี้ 3 ผู้องหาให้การรับสารภาพว่า ไม่ทราบว่าเป็นควายพระราชทาน และนำควายไปขายที่จังหวัดอุทัยธานีเป็นที่แรก ก่อนจะขายต่ออีกหลายทอด ซึ่งได้เงินรวม 65,000 บาท โดย นายประเสริฐ แสนหาร หรือเตี้ย  แกนนำกลุ่ม ได้ส่วนแบ่ง 30,000 บาท , นายสุรชัย สุดา ได้ส่วนแบ่ง 20,000 บาท และ นายทองแดง สินสิบ ได้ส่วนแบ่ง 15,000 บาท ซึ่งทั้ง 3 คนยอมรับว่าก่อเหตุลักควายไปขายโรงฆ่าสัตว์มานานแล้ว และหากพ้นโทษออกมาสัญญาว่าจะเลิกก่อเหตุลักควายส่งโรงฆ่าสัตว์



นอก จากนี้ ยังมีผู้ต้องหาอีก 3 คนที่ตำรวจจับกุมมาได้ในข้อหารับซื้อของโจร และได้นำมาแถลงข่าวด้วยแต่ไม่ได้นำลงจากรถคุมขังนักโทษ ประกอบด้วย นายสมนึก คชพันธ์ อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 184 ม.4 ต.บ้านตาไว อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร , นางสมพิศ เป้าบ้านเซ่า อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 20 ต.ประชาตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ และ นายฮ่อน ไชยสี อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 41/1 ม.14 ต.เชียงของ จ.เชียงราย

 
พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค กล่าวว่า การไล่ตามเส้นทางขายควายทำให้ตำรวจพบว่ามีขบวนการโจรกรรมและค้าวัวควาย เถื่อนเข้าโรงฆ่าสัตว์และนำควายขายต่อต่างประเทศ ที่เป็นขบวนการใหญ่ ซึ่งสังคมยังไม่ทราบ และข้อมูลทั้งหมดจะเร่งขยายผลเพื่อกวาดล้างเส้นทางโจรกรรมควายขายโรงเชือด ซึ่งเชื่อว่ามีอีกหลายกลุ่มแก๊ง และทั้งหมดทำเป็นขบวนการนอกจากจะมีการขายโรงฆ่าสัตว์ที่ถูกต้องแล้ว ยังมีโรงฆ่าสัตว์เถื่อนอีกเช่นกัน


ด้านนายนัทธี บ่อสุวรรณ ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า  ต่อไปต้องทำสัญญาลักษณ์ให้ทราบว่าเป็นควายพระราชทาน และทำเร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนทราบ เพราะว่ายังมีอีกหลายวัดที่มีควายพระราชทานแบบนี้ อย่างไรก็ตาม พบว่ากฎหมายไทยการจะซื้อขายวัวควายจะต้องมีการสำแดงหรือแสดงหลักฐาน ตั๋วรูปพรรณวัวควาย แต่ที่ผ่านมามีการปล่อยละหลวม ซึ่งต้องมีการรื้อพื้นและเพิ่มความเข้มเพื่อเร่งดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงจะต้องเสนอไปยังกระทรวงมหาดไทย  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบการขนย้ายวัวควายทั่วประเทศเพื่อตั้งด่านตรวจสอบ   

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์