3โจรโจ๋ปล้นแท็กซี่จนมุมเพราะกินฟรี

แก๊งโจ๋รปภ.ปล้นแท็กซี่หนีจากปทุมธานีมาหนองคาย หิวโซเข้ากินข้าวกินเหล้าสั่งอาหารเต็มโต๊ะ ถึงเวลาเช็กบิลเงินไม่พอจ่ายเผ่นหนีดื้อๆ แต่ไม่รอดตร.สกัดจับได้กลางสามแยก สารภาพถูกโชเฟอร์แท็กซี่ดูถูกว่าไม่มีเงินจ่ายค่ารถ จึงทุบโชเฟอร์ฉกรถฉกเงินหนีกลับมาบ้านจ.หนองคาย ก่อนแวะกินอาหารแล้วสั่งเพลินจนเงินไม่พอจ่าย เผยตร.ค้นรถเจอปืนอีกกระบอกอ้างเอาไว้ป้องกันตัว แจ้งข้อหาหนักก่อนส่งให้ตร.ปทุมธานี ดำเนินคดีอีกกระทงข้อหาร่วมกันปล้น

รวบโจรโจ๋ปล้นแท็กซี่จากปทุมธานีมาจนมุมที่จ.หนองคาย เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 ก.พ. พ.ต.ท.สุชาย สุขสมบัติ รองผกก.สส.สภ.อ.โพนพิสัย พร้อมด้วยร.ต.อ.ไพบูลย์ กัณหา ร้อยเวร ร่วมกันสอบสวนผู้ต้องหา 3 คนคือ นายจรูญ ภิรมย์ศรี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 13 ต.ท่ากกแดง อ.เซกา จ.หนองคาย, นายสมคิด จิรัชการ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ 4 ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.อ่างทอง และนายบุญทัน สุทำมา อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 5 ต.ยางคำ อ.พลทราย จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลางรถแท็กซี่ เหลือง-เขียว ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน มจ 3287 กรุงเทพฯ และปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 1 นัด

ทั้งนี้เมื่อเวลาประมาณ 23.10 น. วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากนางทองมา บาลไธสง เจ้าของร้านอาหารภูเงินภูทอง ริมถนนสายโพนพิสัย-เฝ้าไร่ว่า มีวัยรุ่น 3 คนขับรถแท็กซี่กินอาหารแล้วขับรถหลบหนีออกจากร้าน พ.ต.ท.สุชาย จึงสั่งการให้ตำรวจออกสกัดจับและพบรถแท็กซี่คันดังกล่าวซึ่งมีนายจรูญ เป็นคนขับ บริเวณสามแยกจอมนาง เขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย เจ้าหน้าที่จอดรถขวางและจับกุมตัวทั้ง 3 คนมาสอบสวน ตรวจสอบรถแท็กซี่พบป้ายคนขับรถแท็กซี่ไม่เหมือนกับคนในรถ ตรวจค้นบริเวณประตูด้านข้างคนขับยังพบปืนสั้นไทยประดิษฐ์

สอบสวนทั้ง 3 คนอยู่ในอาการมึนเมาให้การรับสารภาพว่า ปล้นแท็กซี่คันดังกล่าวมาจากจ.ปทุมธานี และเดินทางมาจ.หนองคาย เจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังสภ.ต.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทราบว่า เวลา 00.45 น. วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา นายอรุณ ธรรมศิริ อายุ 63 ปี คนขับรถแท็กซี่ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ต.พัสศร จุลกิตติชุติพร ร้อยเวรสภ.ต.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี ว่าถูกคนร้าย 3 คน จี้ชิงรถแท็กซี่เหตุเกิดถนนรังสิต-นครนายก คลอง 2 ซอย 41 เข้าซอยประมาณ 200 เมตร ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ พบนายอรุณอยู่บ้านเลขที่ 207/253 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ อยู่ในสภาพเสื้อผ้าขาด ลำตัวฟกช้ำ

สอบสวนเบื้องต้นนายอรุณให้การว่า ขับแท็กซี่รับชาย 3 คน จากหน้าตลาดไทมาส่งบริเวณคลองสอง ขณะเลี้ยวรถเข้าซอยประมาณ 200 เมตร ตนเห็นว่าเป็นที่เปลี่ยวจึงบอกกับผู้โดยสารว่า ขอส่งแค่ตรงนี้ แต่ผู้โดยสารอ้างบอกว่าไม่มีเงินต้องเข้าไปเอาเงินที่บ้าน จึงขับไปอีกประมาณ 30 เมตร ผู้โดยสารจึงบอกให้จอด ตนเองเห็นท่าไม่ดี จึงขับรถด้วยความเร็วเพื่อจะไปในที่สว่างและมีบ้านคน แต่คนร้ายได้ดึงเบรกมือ ทำให้รถหยุด จากนั้นคนร้ายได้ช่วยกันจับตนใช้เข็มขัดมัดมือไพล่หลัง และถอดเสื้อมามัดปิดปากไว้ และชกตามลำตัว แล้วพูดว่า "ไอ้แก่ ไม่อยากตายให้อยู่เฉยๆ" หลังจากนั้นคนร้ายได้ถีบลงข้างทาง แล้วขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน มจ 3287 กทม หลบหนีไป

ด้านนายจรูญให้การว่า พวกตนทั้ง 3 คน ทำงานเป็นรปภ.อยู่ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ได้ค่าจ้างวันละ 220 บาท แต่เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ยังไม่ได้ค่าจ้างทำให้ไม่มีเงินกินข้าว จึงชวนกันไปหาเพื่อนอีกคนหนึ่งที่คลอง 2 ปทุมธานี กะว่าจะไปขอยืมเงินเพื่อนมาซื้อข้าวกิน และได้เรียกแท็กซี่คันดังกล่าว โดยตนนั่งเบาะผู้โดยสารด้านหลังกับนายทัน ส่วนนายสมคิดนั่งหน้าคู่คนขับ พอไปถึงบ้านเพื่อนปรากฏว่าเพื่อนไม่อยู่ จึงขึ้นแท็กซี่คันเดิมจะกลับ

แต่คนขับแท็กซี่กลับพูดจาดูถูกหาว่าพวกตนไม่มีเงินค่ารถ ซึ่งมิเตอร์แท็กซี่ตอนนั้น 164 บาท ตนโมโหมากจึงใช้มือทุบด้านหลังคนขับแท็กซี่ แล้วนายบุญทันกับนายสมคิดก็ช่วยกันค้นกระเป๋าสตางค์ได้เงิน 1,100 บาท ยึดกุญแจรถ แล้วผลักคนขับแท็กซี่ลงในซอยข้างทาง จากนั้นจึงขับรถพากันมาที่จ.หนองคาย เพื่อมาต่อใบขับขี่ แล้วจะขับรถกลับไปทิ้งที่กรุงเทพฯ แต่ระหว่างทางแวะกินข้าวแล้วเงินไม่พอจ่ายจึงหลบหนีกระทั่งถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงค่าอาหาร ส่วนนายจรูญ เพิ่มข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับส่งตัวให้กับ สภ.ต.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันปล้นต่อไป