จับยาบ้าเชียงราย 2 แสนเม็ด เครือข่ายคุกลาดยาว-ราชบุรี เหลิมเปรย โทษเมืองไทยเบาหวิว

ภาพจากแนวหน้าภาพจากแนวหน้า


เมื่อเวลา 13.00 น. ที่หอประชุมนานาชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด (ศพส.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภาค 5  พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภาค 5 นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมกันแถลงผลการจับกุม ขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่ายเรือนจำ 


โดยได้ของกลางยาบ้า 2 แสนเม็ด พร้อมผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นางนันท์นภัส ยะชมพู อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/2 ต.แม่หล่าย อ.เมืองแพร่ จ.แพร่, นางบุญญดา ชุ่มเย็น อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 18/11 ต.ช้าง เผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายราชัน ลาพิงค์ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 239/1 ม.7 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย และนายชาย ยาฟมิ้น อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 27/1 ม.5 ต.เวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูน

ทั้งนี้ การจับกุมเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีขบวนการค้ายาเสพเข้ามาลักลอบค้าขายในท้องที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จึงจัดสายลับออกเกะรอยจนพบว่านางนันท์นภัส เป็นผู้ขายจึงนัดหมายส่งมอบของกลางกันที่ บริเวณบริเวณสะพานข้ามคลองชลประทานเลี่ยงเมือง ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กระทั่งต่อมาพบนายราชัน นำของกลางมาส่งให้ ก่อนที่จะขยายผลไปจับกุมนายชาย ขณะขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโต โยต้า ทะเบียน ชช-2706 กทม.ไปส่งนางนันท์นภัส ได้ที่ปั๊ม ปตท.แม่สาย และติดตามจับกุมนางบุญญดา ได้ในห้องเช่าปราณีพาราไดซ์ โดยเบื้องต้น นางนันท์นภัส นางบุญญดา และนายราชัน รับสารภาพว่าได้ ร่วมกันค้ายาบ้าจริง โดยมีนางบุญญดาเป็นผู้จ้างวาน นางนันท์ภัส เป็นผู้ติดต่อหาลูกค้าและนายราชัน เป็นผู้ส่งยาบ้า ซึ่งได้จะค่าจ้างเป็นยาบ้าจำนวน 10 มัด ซึ่งหากคิดเป็นเงินมีมูลค่าจ้างถึงกว่า  1 ล้านบาท

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยาบ้าทั้งหมดเป็นของผู้ต้องที่อยูในเรือนจำ โดยผ่าน นางบุญญดา มาจำหน่าย ในการสืบเชิงลึกพบว่า นางบุญญดา เป็นภรรยาของ นายอาชิง แซ่ตุง ซึ่งปัจจุบัน ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำลาดยาว ในข้อหาค้ายาบ้า 40,000 เม็ด ไอซ์ 7 กิโลกรัม และยังมีเครือข่ายของ นายไก่ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง เป็นผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำราชบุรี แสดงให้เห็นว่า ขบวนการค้ายาเสพติด แม้ตัวจะอยู่ในเรือนจำก็ค้ายาได้ ซึ่งจะต้อง มีการแก้ไขกฎหมาย เพราะกฎหมายที่เอาผิดกลุ่มผู้ค้านั้น ยังถือว่า เบาเกินไปหากเปรียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย หรือ สิงคโปร ที่มีการจับกุมเพียง 200 กรัม ก็มีโทษถึงประหารชีวิต แต่ประเทศไทยจับเป็นแสนเป็นล้านก็ยังอยู่ในเรือนจำ


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์