ลูกเพี้ยน!คว้าเก้าอี้ไล่ตีพ่อดับ

หนุ่มสุราษฎร์ฯคลั่งคว้าเก้าอี้ไล่ตีพ่อบังเกิดเกล้าตายอนาถคาบันไดบ้าน หลังอาการทางประสาทกำเริบ เปิดเพลงลั่นบ้านกลางดึก จนคนอื่นนอนไม่หลับ พ่อห้ามก็ไม่เชื่อ อาละวาดหนัก ใช้เก้าอี้ไม้ไล่ตี พ่อวิ่งหนี พลาดสะดุดบันไดล้มลง ลูกชายไล่ตามไปทัน พ่อร้องขอชีวิตก็ไม่ฟัง กระหน่ำตีจนสิ้นใจ ก่อนถือมีดวิ่งหนีเข้าไปในสวนปาล์มข้างบ้าน ตร.ระดมตามจับได้ นำตัวส่งหมอรักษา

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 21 ก.พ. พ.ต.ต.มนูญ พัดชู สารวัตรเวร สภ.อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุลูกคลุ้มคลั่งทำร้ายพ่อเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 10 ต.ประสงค์ หลังรับแจ้ง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วยพ.ต.อ.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผกก. พ.ต.ท.ไพบูลย์ พัฒนประดิษฐ์ รองผกก.ป. พ.ต.ท.พิษณุ พิลวงศ์ รองผกก.สส. พ.ต.ท.ณรงค์ ดิษรัก สวป.นำเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยท่าชนะรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูง มีใต้ถุน ตั้งอยู่ในสวนปาล์ม บริเวณพื้นหน้าบ้านใกล้บันไดทางขึ้น พบศพนายเช้า โตขาว อายุ 79 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา มีผ้าขาวม้าคาดเอว สภาพศพมีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งบริเวณศีรษะและใบหน้า บาดแผลฉกรรจ์ลึกถึงกะโหลก ใบหน้ายุบ ใกล้ศพพบเก้าอี้ไม้หัวโล้นวางทิ้งไว้ สภาพฐานรองนั่งแตกหักพังเสียหาย และมีคราบเลือดติดอยู่เต็ม

ที่เกิดเหตุ พบนางอรทัย นุ่นปล้อง อายุ 30 ปี หลานสาวผู้ตาย อยู่ในอาการตื่นตระหนก ตกใจกลัว ให้การว่า นายเช้ามีอาชีพทำสวนปาล์มอยู่ในพื้นที่ ปกติพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุกับนายจรัล โตขาว อายุ 38 ปี ลูกชายซึ่งป่วยมีอาการทางประสาท ประวัติเคยเข้ารับการรักษาบำบัด ที่โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี ช่วงหลังตนมาขอพักอาศัยอยู่ด้วยเป็นการชั่วคราว

นางอรทัย กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงกลางดึกที่ผ่านมา นายจรัลเกิดอาการประสาทกำเริบ คลุ้มคลั่งไม่ยอมหลับยอมนอน ออกมาเดินวนไปวนมาทั่วบ้าน พร้อมทั้งเปิดเทปเพลงเสียงดังลั่นบ้าน ทำให้คนในบ้านต่างนอนไม่หลับไปด้วย กระทั่งก่อนเกิดเหตุ นายเช้าทนไม่ไหว ออกจากห้องนอนไปดุด่า พร้อมขอร้องให้นายจรัลปิดหรือเบาเสียงเพลงลงหน่อย

ทำให้นายจรัลไม่พอใจ ประกอบกับอาการทางประสาทกำเริบ จึงคว้าเก้าอี้ไม้ซึ่งตั้งวางอยู่ใกล้ๆ วิ่งไล่ตี ขณะที่นายเช้าพยายามวิ่งหลบหนีลงบันได เมื่อลงพ้นบันไดไปได้เล็กน้อย เกิดเสียหลักล้มลง นายจรัลไล่ตามมาทัน จึงใช้เก้าอี้ทุบตีนายเช้าจนเสียชีวิตดังกล่าว แม้ว่านายเช้าจะร้องขอชีวิต แต่นายจรัลก็ไม่ฟัง กระหน่ำตีจนพ่อเสียชีวิต

หลังจากก่อเหตุ นายจรัลซึ่งอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งหยิบมีดพร้าวิ่งหลบหนีเข้าไปในสวนปาล์มข้างบ้าน เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกติดตาม แต่ไม่พบ พ.ต.อ.อภิชาติสั่งกำลังเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งดักซุ่มรอที่บ้านเกิดเหตุ เนื่องจากคาดว่านายจรัลจะต้องย้อนกลับมาที่บ้านอย่างแน่นอน

กระทั่งเวลา 08.30 น.วันเดียวกัน นายจรัลย้อนกลับมาที่บ้านหลังเกิดเหตุในสภาพสวมกางเกงในเพียงตัวเดียว มือถือมีดพร้า เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่อยู่ที่บ้าน นายจรัลเกิดคลุ้มคลั่งพยายามใช้มีดพร้าเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ และขัดขืนไม่ยอมให้จับกุม เจ้าหน้าที่จึงใช้ปืนอัดลมยิงใส่เพื่อสยบอาการคลุ้มคลั่ง ก่อนจะควบคุมตัวไว้ได้และนำมาที่สภ.อ.ท่าชนะ และจะส่งรักษาตัวโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ต่อไป