พ่อร้องผ่าไส้ติ่งลูกชายกลับตายปริศนา

พ่อแจ้งตำรวจ ข้องใจลูกชายวัย 16 ปวดท้องแพทย์วินิจฉัยเป็นไส้ติ่งอักเสบ ผ่าตัดออกมายังชูสองนิ้ว แต่หลังจากนั้นไม่นานเกิดท้องบวมตัวเขียวและเสียชีวิต ใบมรณบัตรระบุติดเชื้อในกระแสเลือดและภาวะหายใจล้มเหลว จี้หมอแจงสาเหตุการเสียชีวิต

ความสูญเสียที่สร้างความกังขาให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นายนรชน อ่อนวรรณะ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 6 ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.กิตติโชค แสงรุจี สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองอุบลราชธานี ว่า เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ได้นำนายเอกพล อ่อนวรรณะ อายุ 16 ปี บุตรชาย เรียนอยู่วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี ชั้น ปวช.ปีที่ 1 สาขาวิชาเครื่องกล ซึ่งมีอาการปวดท้องกะทันหัน ไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอแห่งหนึ่งใน จ.ศรีสะเกษ แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ และส่งตัวมาผ่าตัดที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง โดยเข้ารับการผ่าตัดเมื่อคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์

นายนรชน กล่าวว่า บุตรชายเป็นคนแข็งแรง หลังผ่าตัดยังชู 2 นิ้ว บอกว่าสบายมาก แต่พอพักฟื้นได้ไม่กี่ชั่วโมงกลับมีอาการแย่ลง ท้องบวม เจ็บแผลและตัวเขียว แพทย์ให้ยาแก้ปวดบรรเทาอาการ หลังจากนั้น 3 วันอาการทรุดหนัก และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ซึ่งในใบมรณบัตรระบุว่าเสียชีวิตเพราะติดเชื้อในกระแสเลือดและภาวะหายใจล้มเหลว

"ทุกคนที่ทราบข่าวต่างสงสัยว่า เพราะเหตุใดคนหนุ่มร่างกายแข็งแรง เข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่ง ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยแต่กลับเสียชีวิต จึงเข้าแจ้งความเพื่อให้เรียกแพทย์มาแจงรายละเอียดว่าลูกชายเสียชีวิตเพราะสาเหตุใดกันแน่" นายนรชน กล่าว

ด้าน น.พ.กวี ไชยศิริ ผอ.โรงพยาบาล กล่าวว่า สอบประวัติผู้ป่วยพบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายไปร่วมกิจกรรมลูกเสือของวิทยาลัย โดยมีกิจกรรมเกี่ยวกับการว่ายน้ำ ซึ่งอาจจะมีการติดเชื้อและทำให้ปวดท้อง ซึ่งโรงพยาบาลจะตรวจผลของเลือดว่าติดเชื้อจากสาเหตุใด แล้วจะแจ้งให้ผู้ปกครองเด็กรับทราบ เพื่อจะได้คลายความข้องใจที่เกิดขึ้น