ม.ต้นตั้งแก๊งมาเฟียไถ5บ.ไม่ได้ตื้บน่วม

นักเรียนมัธยมต้นตั้งแก๊งรีดเงินเพื่อน ใช้ชื่อ "ยอด 5 บาท" เพื่อนนักเรียนสุดทนถูกไถนานร่วมปี ครั้งนี้ขัดขืนถูกเตะก้านคอ รุมกระทืบน่วม ท่ามกลางสายตาเพื่อน แต่ไม่มีใครกล้าช่วย แม่แจ้งครูกลับถูกหาว่าเรื่องมาก บุกโรงพักแจ้งความดำเนินคดีแทน

เหตุการณ์สะเทือนใจผู้ปกครองทั่วไป ที่ลูกถูกเพื่อนนักเรียนรีดไถทำร้ายร่างกาย เปิดเผยเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ นางณัฐกนก งามเฉลียว อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/218 หมู่ 2 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พา ด.ช.ชาญณรงค์ ดีสวัสดิ์ อายุ 14 ปี บุตรชาย ซึ่งเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีรอยช้ำที่ไหล่ซ้าย ท้ายทอย และหัวคิ้วขวาบวมปูด เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.สัญญา อุทุมพร พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ ให้ดำเนินคดีนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 โรงเรียนเดียวกัน จำนวน 4 คน ในข้อกล่าวหากรรโชกทรัพย์และทำร้ายร่างกาย

ด.ช.ชาญณรงค์ ให้การว่า ช่วงเช้าไปโรงเรียนตามปกติ กระทั่งเวลาประมาณ 08.30 น. ซึ่งเป็นวิชาแนะแนว อาจารย์ที่สอนติดประชุมที่ห้องผู้อำนวยการ จึงปล่อยให้นักเรียนนั่งรออยู่ในชั้นเรียน ระหว่างนั้นมี ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.2/3 โรงเรียนเดียวกัน เข้ามาขอเงิน 5 บาท เมื่อตนปฏิเสธ ด.ช.เอ ก็เดินตรงเข้าชกหน้าทันที จากนั้นกระโดดขึ้นไปยืนบนโต๊ะเรียนแล้วเตะเข้าที่ก้านคอตนอย่างแรง จนถลาล้มลงไปกองกับพื้น ท่ามกลางสายตาเพื่อนนักเรียน แต่ไม่ใครกล้าเข้ามาช่วยเหลือ

ต่อมามีเพื่อนนักเรียนต่างห้องอีก 3 คน เข้ามาสมทบ ช่วยกันเตะต่อย และใช้ที่ตักขยะไล่ตีจนที่ตักขยะแตก หลังจากรุมทำร้ายจนหนำใจทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งก่อนออกจากห้อง ด.ช.เอ ยังหันกลับมาขู่อีกว่า เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ ด้วยความเจ็บปวดตนจึงโทรศัพท์ไปบอกให้แม่มารับไปหาหมอ

ด.ช.ชาญณรงค์ ให้การอีกว่า นอกจากตนแล้วยังมีนักเรียนห้องอื่นอีกหลายคนที่ถูกกลุ่มของ ด.ช.เอ ซึ่งใช้ชื่อกลุ่มว่า "ยอด 5 บาท" ที่ทำตัวเป็นขาใหญ่ในโรงเรียนรีดไถเงินเพื่อนนักเรียนเกือบทุกวัน คนละ 5 บาท หากใครไม่ให้ก็จะถูกรุมทำร้าย ส่วนตนถูก ด.ช.เอ ไถเงินมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.1 แล้ว แต่ทุกครั้งก็ให้ไป เพราะเห็นว่าขอเพียง 5 บาท หากวันไหนไม่มีก็พยายามหลบเลี่ยง

นางณัฐกนก กล่าวว่า หลังได้รับโทรศัพท์จากลูกก็รีบเดินทางมารับลูกชาย พอเห็นสภาพของลูกจึงรีบแจ้งให้อาจารย์ทราบ และเรียกคู่กรณีมาสอบถาม ซึ่งทั้งหมดยอมรับว่ากระทำความจริง จึงต้องการให้พานักเรียนทั้ง 4 คน มาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อเป็นหลักฐานและเป็นการปรามไม่ให้มาทำร้ายลูกชายอีก แต่กลับถูกอาจารย์กล่าวหาว่าเรื่องมาก จึงเปลี่ยนใจมาแจ้งความดำเนินคดีแทน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำใบส่งตัว ด.ช.ชาญณรงค์ ไปตรวจบาดแผล ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ เพื่อเป็นหลักฐานก่อนจะประสานทางโรงเรียนให้อาจารย์ฝ่ายปกครองพาเด็กนักเรียนทั้งสี่มาสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป