ตร.แจงกมธ.สภาคดี 2ผัวเมียรอบคอบไม่ปรักปรำหมอสุพัฒน์

โดย พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจงแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญเรื่องนี้ตั้งแต่เกิดเหตุ และตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรม

ขณะที่ พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า  เรื่องการจับกุม และการสอบสวนใช้ความรอบคอบ พร้อมเปิดโอกาสให้ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ นำหลักฐานชี้แจงกับตำรวจถึง 2 ครั้ง แต่พบว่า พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มีพฤติกรรมที่จะหลบหนี และยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้มีการปรักปรำ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ โดยเชื่อคำให้การของแรงงานต่างด้าว แต่การสืบสวนสอบสวนมีพยานบุคคลและพยานแวดล้อม

รอง ผบ.ตร. ชี้ สำนวน "หมอสุพัฒน์" ต้องรอบคอบ ก่อนแจ้งข้อหาเพี่ม

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เชิญ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมชุดพนักงานสอบสวน คดีการหายตัวไปของ 2 สามีภรรยา ชาว จ.เพชรบุรี และฝ่ายกฎหมายและคดี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหารือในข้อกฎหมายและช่องโหว่ในสำนวนคดี เบื้องต้นพนักงานสอบสวนมีแนวโน้มแจ้งข้อหาฆ่าคนตาย กับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ผู้ต้องหาในคดี เพิ่มเติม เนื่องจากโครงกระดูกที่พบในไร่ 1 โครง เป็นของแรงงานชาวพม่า ซึ่งถูกฆาตกรรม โดยมีรอยกระสุนชัดเจนจริง แต่ต้องรวบรวมให้แน่นหนา เนื่องจาก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มีความรู้และมีทนายความ ในส่วนของคดี 2 สามีภรรยา ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและค้นหาศพ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในทางคดี ทั้งนี้เชื่อว่า ทั้งคดีการหายตัวไปของ 2 สามี และกรณีศพแรงงานชาวพม่า มี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่ยังตามหาศพ 2 สามีภรรยาไม่พบนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะพยายามต่อไป ข้อเท็จจริงจากการสืบสวนมีมากกว่าพยานหลักฐานทางวัตถุ

อย่างไรก็ตาม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า พนักงานสอบสวนทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือผู้ต้องหา แม้จะเป็นข้าราชการตำรวจก็ตาม ส่วนการสรุปสำนวนคดีนั้น ทางพนักงานสอบสวนมีการรวบรวมสอบปากคำพยานอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องใช้เวลา เพื่อให้ได้พยานหลักฐานที่มีน้ำหนักเพียงต่อการยื่นต่อศาลต่อไป