ศึกสายเลือดพี่น้องเลาหะวัฒนะยังดุเดือด“ลูกชายหมอ” เผยคลิปวีดีโอพ่อพาครอบครัวไปเยี่ยมมารดา

จากกรณี ตำรวจจับกุม พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์ รพ.ตำรวจ

ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องพัวพันกับการหายตัวไปของนายสามารถ นุ่มจุ้ย และน.ส.อรษา เกิดทรัพย์ 2 สามีภรรยาอดีตลูกจ้างในไร่ตั้งแต่ปี 52 ซึ่งญาติเชื่อว่าทั้ง 2 ราย อาจเสียชีวิตแล้ว ต่อมาชุดสืบสวนภาค 7 ได้จับกุม น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ภรรยาหมอสุพัฒน์ ก่อนคุมตัวสอบจนยอมรับสารภาพว่า เห็นเหตุการณ์ขณะสามีพา 2 สามีภรรยา มาพูดคุยตกลงปัญหาบางอย่างก่อนจะหายตัวไป ต่อมา น.ส.วิลสา แอบส่งจดหมายเปิดผนึกให้ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์อ้างว่า ถูกตำรวจบังคับให้การกล่าวหาหมอสุพัฒน์ เพื่อแลกกับการกันตัวเป็นพยาน ซึ่งตำรวจออกมาปฏิเสธทันที จากนั้นนายเอก เลาหะวัฒนะ บุตรชายหมอสุพัฒน์ ได้นำจดหมายที่รับมากับมือบิดา เปิดเผยสู่สาธารณชน แฉพี่ชายเตรียมการไว้ทั้งหมดหวังฮุบมรดก แถมยังให้ยาที่มีผลข้างเคียงจนแม่อาการหนัก ส่วนนายสุเทพ โต้ทันควัน น้องชายหมดทางออก เริ่มเบี่ยงเบนคดี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าวันนี้ (9 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอก ได้นำคลิปวีดีโอที่บันทึกด้วยโทรศัพท์

อ้างว่าถ่ายไว้เมื่อช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคลิปที่มีความยาวรวม 1.48 นาที เป็นเหตุการณ์ที่ หมอสุพัฒน์ พาครอบครัวไปเยี่ยมมารดา ภายในบ้านพักที่ซอยเย็นอากาศ กรุงเทพฯ โดยหมอสุพัฒน์ได้นั่งอยู่ข้างๆมารดาบนเตียงนอนและจับมือกันตลอดเวลา ซึ่งมีการถามไถ่สารทุกข์สุขดิบซึ่งกันและกัน เพื่อยืนยันว่าบิดาเคยพาครอบครัวไปเยี่ยมย่าและพูดคุยกันตามประสาแม่ลูก ไม่ได้เป็นตามที่นายสุเทพให้ข่าว

ซึ่งบทสนทนาถามตอบเท่าที่จับใจความได้คือ มารดาหมอถามว่า “มากับใคร”

หมอสุพัฒน์ ตอบว่า “มากับหลาน (ลูกหมอสุพัฒน์) หลานเอม หลานของคุณพ่อ ที่ไปเฝ้าตอนย่าผ่าสะโพกไง”  มารดาหมอตอบว่า “จำไม่ได้” จากนั้นหมอสุพัฒน์ กล่าวอีกว่า “ถ้าไม่มาเจอย่า ย่าช็อกตายไปแล้ว เข้าไอซียูก็ไม่โทรศัพท์บอกหมอด้วย” ทำให้มารดาหมอตอบว่า “แม่ไม่รู้จะโทรศัพท์ไปไหน ไม่รู้จักเบอร์ แม่โทรไม่ไหว” จนหมอต้องตอบกลับว่า “ตอนนั้นย่าโทรไม่ได้หรอก ย่าไม่รู้เรื่องความดันต่ำแล้ว แล้วรู้หรือเปล่าเขาให้ย่ากินแอสไพริน แล้วมีเลือดออกในทางเดินอาหาร คืออย่างนี้ เดี๋ยวจะมีปัญหากับลุงตุ้มอีก ต้องให้หมอ รพ.จุฬาฯปรับให้ จะต้องนัดกับหมอที่เป็นอาจารย์ให้ได้ก่อน เพราะไม่รู้จักกัน”


ศึกสายเลือดพี่น้องเลาหะวัฒนะยังดุเดือด“ลูกชายหมอ” เผยคลิปวีดีโอพ่อพาครอบครัวไปเยี่ยมมารดา

นายเอก เปิดเผยด้วยว่า ในวันที่ 10 ต.ค. ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา
 
เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับบิดาและ น.ส.วิลสา ในเรื่องรูปคดีที่ไม่มีความเป็นธรรม รวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ให้ช่วยเข้ามาตรวจสอบด้วย
ขณะที่ เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจเขต 16 เพชรบุรี กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี พร้อมรถแบกโฮ 2 คัน นำหมายค้นศาล จ.เพชรบุรี เลขที่ มค 694 ตั้งแต่วันที่ 6 - 10 ต.ค. ระหว่าง 07.00 - 18.00 น. เข้าตรวจพื้นที่ไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ เพื่อค้นหาศพสองสามีภรรยาเป็นครั้งที่ 12 โดยได้ให้รถแบกโฮกระจายขุดทั่วทั้งไร่รวม 8 จุด จนกระทั่งเวลา 13.30 น. จึงยุติการค้นหา
        
โดย พ.ต.อ.พิชัย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการขุดหลายวันที่ผ่านมาไม่พบหลักฐานใดๆ เพิ่มเติม

และทางญาติก็เข้าใจดีว่าหากขุดค้นหาอย่างไร้จุดหมายก็ไม่มีประโยชน์ การขุดวันนี้จึงเป็นวันสุดท้าย อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าในไร่จะไม่มีศพ เพียงแต่ไม่มีเป้าหมายชัดเจนเท่านั้น ถ้าได้หลักฐานจะขุดต่อทันที หลังจากนี้ตำรวจจะทำหนังสือขอศาลเข้ามาอีกครั้ง เพื่อปรับปรุงหน้าดินให้เรียบร้อยเป็นปกติ

ทั้งนี้ อยากฝากถึงสื่อมวลชนบางแห่งที่นำเสนอข่าวนี้ว่า ให้ทำหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม อย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร
 
เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่มองออกว่าเรื่องไหนเท็จเรื่องไหนจริง อย่างกรณี น.ส.วิลสา ถ้าต้องการร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อตามที่เขียนในจดหมาย  ในวันที่ถูกนำตัวจากห้องขัง สภ.ท่าไม้รวก ไปยังศาล จ.เพชรบุรี น.ส.วิลสา สามารถตะโกนฟ้องผู้สื่อข่าวได้เลยว่าถูกกลั่นแกล้งอย่างไร แต่กลับไม่ทำ ทั้งที่ก็ไม่ได้บังคับหรือสวมกุญแจมือ
    
ด้าน นายสว่าง นุ่มจุ้ย พ่อนายสามารถ นุ่มจุ้ย ที่หายไปพร้อมภรรยา เปิดเผยว่า
 
เรื่องที่หมอสุพัฒน์ ได้เขียนจดหมายตอนหนึ่งกล่าวหาว่า ตนมีคดีอาญาติดตัว รู้สึกเฉยๆเพราะไม่ใช่เรื่องจริง และกำลังเก็บข้อมูลทั้งหมดที่หมอสุพัฒน์ กล่าวหา ถ้าพบว่าสามารถฟ้องหมิ่นประมาทได้ก็จะฟ้องทันที ส่วนการขุดค้นหาศพในไร่ รู้สึกเห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างเต็มที่ จิตใต้สำนึกเชื่อว่าศพลูกชายและลูกสะใภ้ยังถูกฝังอยู่ในไร่ เพราะน.ส.วิลสา เคยบอกว่าไปนำตัวลูกชายและลูกสะใภ้มาจริง โดยไปกับหมอ จากนั้นหมอก็ลากไปในไร่และมีเสียงปืนดังขึ้น ถ้าคำพูดดังกล่าวไม่เป็นความจริง แล้วทำไมรถกระบะของลูกชายไปอยู่ที่บ้านหมอได้อย่างไร

“นอกจากนั้นยังมีพยานบุคคลระบุตรงกันว่า หมอนำผู้สูญหายมา จะอ้างว่าไม่รู้ก็ฟังไม่ขึ้น เพียงแค่ไม่รู้เท่านั้นว่าฝังไว้ตรงไหน แต่ก็มีประโยคสุดท้ายที่ น.ส.วิลสา ได้พูดกับผมในวันที่เข้าไปพบ ก่อนที่ตำรวจจะนำตัวไปฝากขังว่า คุณคิดว่าหมอจะฝังศพลูกชายไว้ในไร่หรือ ทำให้ผมเอะใจในประโยคนี้มาก ศพพม่าที่ถูกฆ่ายังฝังในไร่ ลูกชายผมก็น่าจะถูกฝังในไร่เช่นกัน ไม่น่าเสี่ยงนำศพไปฝังที่อื่น” นายสว่าง กล่าว
       
พ่อผู้สูญหาย กล่าวอีกว่า ส่วนจดหมายที่อ้างว่าตนกับนายสุเทพรู้จักกันมาก่อน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพิ่งได้รู้จักพูดคุยในช่วงค้นหาศพ
 
แล้วก็คุยในเรื่องค้นหาศพอย่างเดียว ตั้งแต่นั้นก็ยังไม่ได้ติดต่อกันเลย ส่วนประเด็นที่หมอบอกว่าได้ฝากลูกสาวเข้าทำงานเป็นเรื่องจริง เพราะเคยทำงานกับหมอ จึงบอกว่าถ้ามีตรงไหนที่เหมาะสมก็ขอให้ช่วย ครั้งนั้นถือว่าหมอมีบุญคุณมาก เลยเชื่อใจคิดว่าการหายตัวไปคงไม่เกี่ยวกับหมอ ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยผ่านมานานขนาดนี้

มีรายงานข่าวจาก องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้(ออป.) ระบุว่า นายสุเทพ เลาหะวัฒนะ เคยเป็นอดีต ผอ.ออป. ในช่วงปี 2544 – 2548

โดยขณะดำรงตำแหน่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น นายชนัตร เลาหะวัฒนะ และเคยถูกร้องเรียนเรื่องทุจริตจนถูกตั้งกรรมการสอบในหลายกรณี เช่น การใช้งบประมาณในการต้อนรับราชวงศ์จากต่างประเทศไม่เหมาะสม เจ้าหน้าที่ ประท้วงเรื่องการปรับเงินเดือนไม่เป็นธรรมและออกไม่ตรงกำหนดเวลา    การทุจริตส่งออกไม้สวนป่าของ ออป. ไปยังประเทศอินเดีย ในช่วงปี 2548  โดยกรรมการสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สรุปว่ามีความผิดทั้งทางวินัยและอาญาและให้ออกจากราชการ ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่นายชนัตรครบวาระการดำรงตำแหน่ง ผอ.ออป. 4 ปีพอดี  ซึ่งคดีนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล     อย่างไรก็ตามหลังพ้นจากตำแหน่งผอ.ออป. ได้เปลี่ยนชื่อจากชนัตรกลับมาใช้ชื่อสุเทพตามเดิม



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์