ตำรวจยอมรับคดี 2 สามีภรรยาชาวเพชรบุรีหายตัวเริ่มชะงัก

ตำรวจยอมรับคดี 2 สามีภรรยาชาวเพชรบุรีหายตัวเริ่มชะงัก

ตำรวจยอมรับคดี 2 สามีภรรยาชาวเพชรบุรีเริ่มชะงัก
 
หลังผลการตรวจดีเอ็นเอโครงกระดูกที่พบในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไม่ตรงกับผู้ที่หายตัวไป จึงยังแจ้งข้อหาฆ่าคนตายกับอดีตแพทย์ รพ.ตำรวจ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญไม่ได้ ขณะที่ญาติผู้สูญหายยังไม่ได้ร้องขอสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ให้ช่วยตรวจพิสูจน์โครงกระดูกใหม่อีกครั้ง 

พล.ต.ต.จุตติ ธรรมมโนวานิช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7
 
ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการหายตัวไปของ 2 สามี-ภรรยา ชาวจังหวัดเพชรบุรี ที่เกี่ยวโยงกับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ เปิดเผยว่า แนวทางการสอบสวนในขณะนี้ ถือว่าหยุดชะงักชั่วคราว เพราะหลังจากที่พนักงานสืบสวน พยายามขุดค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มาถึง 6 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้หลักฐานอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี นอกเหนือไปจากโครงกระดูกที่พบในไร่ จำนวน 3 ร่าง แต่ผลการตรวจดีเอ็นเอ ก็ไม่ตรงกับผู้สูญหาย จึงต้องรอจนกว่าจะได้พยานหลักฐานเพิ่มเติม จึงจะสามารถแจ้งข้อหาฆ่าคนตาย หรือข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการสูญหายไปของทั้งสองคน แก่ผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้

ส่วนการที่ญาติของสองผู้สูญหาย จะส่งโครงกระดูกทั้ง 3 ร่าง ไปให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจพิสูจน์ซ้ำ พล.ต.ต.จุตติ กล่าวว่าอสามารถทำได้ โดยพนักงานสอบสวนจะรอดูผลการตรวจพิสูจน์ซ้ำต่อไป

ทั้งนี้ กำหนดฝากขังผลัดแรก เป็นเวลา 12 วันของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ จะครบกำหนดในวันที่ 5 ตุลาคมนี้

ซึ่งพนักงานสอบสวนเตรียมยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อขอฝากขังผู้ต้องหาเพิ่มเติมเป็นผลัดที่ 2 โดยผู้ต้องหามีสิทธิ์ที่จะยื่นขอประกันตัวได้ ส่วนจะได้หรือไม่ได้รับการประกันตัว ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

ขณะที่ผู้กำกับการ สภ.ท่าไม้รวก พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน เดินทางไปที่เรือนจำกลางจังหวัดเพชรบุรี
 
เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในข้อหามีไว้ซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ครอบครองได้ จาก 2 ข้อหาที่ศาลอนุมัติหมายจับก่อนหน้านี้ ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และข้อหาลักทรัพย์หรือรับไว้ซึ่งของโจร

ส่วนนายสว่าง นุ่มจุ้ย บิดานายสามารถ นุ่มจุ้ย ที่หายตัวไปพร้อมภรรยา
 
ที่ระบุว่าจะเดินทางเข้าพบ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในเช้าวันนี้ เพื่อขอให้ช่วยตรวจพิสูจน์โครงกระดูกใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม นายสว่าง ไม่เดินทางมาตามนัดหมาย โดย พญ.หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ได้แจ้งนายสว่างทราบไปแล้วว่า สามารถมาร้องเรียนเรื่องการหายตัวไปของญาติได้ แต่ไม่มีสิทธิร้องขอให้เคลื่อนย้ายโครงกระดูกที่พบในไร่ มายังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพราะเป็นหลักฐานทางคดีของตำรวจ อีกทั้งผลการตรวจของนิติเวชตำรวจ ที่ชี้ว่าไม่ใช่ผู้สูญหายทั้งสองคน นายสว่างจึงถือว่าไม่ใช่ญาติสายตรงของโครงกระดูกนั้น ต้องการให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าไปตรวจสอบ คงต้องรอให้ดีเอสไอรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษก่อน.-สำนักข่าวไทย

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์