ตำรวจกรุงเก่าสเก็ตภาพคนร้ายปล้นรถขนเงินแล้ว

ขอบคุณภาพจาก "เดลินิวส์"ขอบคุณภาพจาก "เดลินิวส์"

จากกรณีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ใช้อาวุธปืนบุกเข้าพยายามชิงเงินจากรถขนเงินของบริษัทสยามแอดมินนิสเทรทีฟแมนเนจ เม้นท์ คอมพานี จำกัด (แซมโก้) 

ม.3 ต.ไผลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 22  ก.ค.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้( 23ก.ค.) พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รองจตร.(สบ.7) ช่วยราชการ รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.อนุรักษ์  แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และสืบสวน  สภ.พระนครศรีอยุธยา เข้าร่วมประชุมที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเชิญ เจ้าหน้าของบริษัทรถขนเงิน เข้าร่วมประชุมด้วย ในที่ประชุมมีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด หลายจุดในบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ   พบว่าคนร้ายเป็นชาย 2 คนแต่งชุดดำ ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถขนเงิน จำนวนหลายนัด แต่พนักงานขับรถขับรถหลบหนีไปได้และพบว่าก่อนที่คนร้ายจะเข้าไปชิงทรัพย์นั้น ได้มีรถเก๋งสีดำ ขับผ่านเข้ามาอย่างช้าๆ ก่อนที่คนร้ายทั้ง 2 จะเข้าก่อเหตุ

พล.ต.ต.คเชนทร์ เปิดเผยว่าคดีนี้มีความคืบหน้าไปมากพอสมควรสอบสวนพยานรอบๆที่เกิดเหตุและผู้ที่ขับรถจยย.

รับจ้างไปส่งคนร้ายจนสามารถออกภาพสเก็ตคนร้ายได้ 1 คน  ที่พยามก่อเหตุชิงทรัพย์รถขนเงิน  คนร้ายน่าจะมีการวางแผนมาพอสมควรคงไม่ถึงกับเป็นมืออาชีพยังระบุไม่ได้ว่าเป็นคนในพื้นที่อยุธยาหรือไม่ สั่งให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบในจังหวัดต่างๆและนครบาลที่คนร้ายก่อเหตุลักษณะเดียวกันอาจจะมีเครื่อข่ายเชื่อมโยงถึงกันมีประเด็นเดียวเท่านั้นคนร้ายมีความประสงค์ต่อทรัพย์ มั่นใจว่าจะจับกุมตัวคนร้ายได้ แต่ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานยังไม่สามารถออกหมายจับตามภาพสเก็ต และสั่งให้สืบสวนภาค 1 ลงมาช่วยเพราะถือว่าเป็นคดีที่สำคัญกระทบกระเทือน ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของประชาชน ส่วนการรักษาความปลอดภัยทางบริษัทได้มาประสานกับ สภ.พระนครศรีอยุธยา ต่อไปจะต้องมีการใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ออกหาข่าวของคนร้าย หลังจากก่อเหตุ ชิงเงินสดไม่สำเร็จ

ได้แยกย้ายกันหลบหนี โดยคนร้ายทั้ง 2 คนได้เดินเท้าจากจุดเกิดเหตุไปที่ บริเวณเจดีย์วัดสามปลื้มห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ระหว่างนั้นคนร้ายได้โยนเสื้อหมวกกันน็อคและหมวกไหมพรหมทิ้ง แล้วว่าจ้างรถจยย.รับจ้างให้ไปส่งที่ทาง เข้าตลาดน้ำอโยธยา   ชุดสืบสวนได้นำตัวพยานรายหนึ่งมาสะเก็ตภาพของคนร้าย  พบว่าคนร้ายเป็นคนขาวรูปร่างหน้าตาดี รูปร่างอ้วน พยานอีกรายหนึ่งระบุว่า จำคนร้ายได้อย่างแม่นยำว่าเคยว่าจ้างให้ไปส่งที่ตลาดน้ำมาแล้วถึง 3 ครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายต้องมีธุรกิจอยู่ในตลาดน้ำแห่งนี้ มีเบื้องหลังชอบค้าขายอาวุธปืน และมาดูลาดเลาในที่เกิดเหตุหลายครั้ง

แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนเปิดเผยอีกว่า  มีพยานรายหนึ่งระบุว่า คนร้ายทั้ง 2 คน ได้มาซุ่มอยู่บริเวณใต้สะพานลอยคนข้ามตั้งแต่ 17.00 น

และยังมีการจุดยากันยุงเพื่อรอเวลา จนกระทั่งเวลา 19.30 น รถขนเงินได้นำเงินเก็บที่บริษัท คนร้ายจึงลงมือก่อเหตุ  แต่พนักงานไม่ยอมลงจากรถคนร้ายจึงใช่อาวุธปืนยิงใส่แต่เป็นกระจกนิรภัย กระสุนจึงไม่เข้า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายที่ติดอยู่ที่หมวกกันน็อกแล้ว  รวมถึงมีการตรวจหาดีเอ็นเอเอาไว้ด้วย โดยพยานหลายปากระบุตรงกันว่าคนร้ายสองคนมีรูปร่างอ้วนและสูงโปร่ง ใจเย็นหลังจากก่อเหตุเดินอย่างใจเย็น

นายทรงพล เสยยงคะ ผู้อำนวยการบริหารระบบการจัดการเงินตราและขนส่งนิรภัย บริษัทสยามแอดมินนิสเทรทีฟแมนเนจ เม้นท์ คอมพานี จำกัด (แซมโก้) 

เปิดเผยว่า ตามแนวทางการสืบสวนของตำรวจและบริษัทสอดคล้องกันว่าคนร้ายน่าจะมีการวางแผนมาเพื่อจะชิงเงินดูแล้วคนร้ายไม่น่าจะมาเพียงแค่ 2 คน  ตำแหน่งที่ยิงใส่รถขนเงินเป็นจุดที่คนร้ายยิงตรงๆประสงค์ต่อชีวิต ดีที่รถขนเงินใช้กระจกนิรภัยปกติได้ฝึกอบรมพนักงานขนเงินอยู่บ่อยครั้งและได้กำชับตลอดเวลาหากมีเหตุฉุกเฉินอย่าเปิดประตูรถออกพยามยามหาจังหวะขับรถหนีให้ได้ แม้ว่ารถขนเงินของบริษัทจะมีประกันอยู่ก็ตามซึ่ง ซึ่งคนขับรถและพนักงานทั้ง2 คันทางบริษัทขอชมเชยที่ไหวพริบและสมาธิดี ทางบริษัทจะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ ส่วน รปภ.ทั้ง 2 คน ได้ปฎิบัติหน้าที่เป็นปกติความจริงบริษัทอนุญาตให้พกอาวุธปืนได้ แต่วันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ รปภ.ทั้งสองคนไม่ได้เบิกอาวุธปืนติดตัว และมั่นใจว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์