จับตร.เก๊อุ้มพ่อค้ารีดค่าไถ่

7 ชายฉกรรจ์สุดเหิมอ้างเป็นตำรวจกองปราบฯ บุกร้านค้าย่านองครักษ์ อุ้มเจ้าของร้านเรียกค่าไถ่ 2 แสน ภรรยาวิ่งโร่ร้องกองปราบปรามวางแผนรวบตัว 2 คนร้ายได้ขณะมารับเงิน คุมตัวสอบเข้มขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือ คาดเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง

การจับกุมคนร้ายที่อ้างเป็นตำรวจกองปราบปรามอุ้มเจ้าของร้านค้าใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก ไปเรียกค่าไถ่ ครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลัง นางสุมาลี ตานี ภรรยานายกิตติ ฤกษ์ล้วน เจ้าของร้านขายของชำ ตั้งอยู่เลขที่ 150 หมู่ 13 ต.ศรีษะกระบือ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.กิตติ สะเถาทอง ผกก.2 บก.ป. ให้ออกติดตามจับกุมกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 7 คน ที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจกองปราบปราม ทำทีเข้าไปตรวจค้นร้านจำหน่ายสินค้าของนายกิตติ แล้วอุ้มนายกิตติหายไป

หลังจากนางสุมาลี เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวได้โทรศัพท์ติดต่อมายังนางสุมาลี โดยนัดหมายให้นางสุมาลีนำเงินจำนวน 2 แสนบาทไปมอบให้ เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนายกิตติ พ.ต.อ.กิตติ จึงเรียกชุดสืบสวนของกองกำกับการ 2 กองปราบปราม ประชุมเพื่อวางแผนติดตามจับกุมคนร้าย

กระทั่งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ คนร้ายได้ติดต่อให้นางสุมาลี นำเงินสดจำนวน 2 แสนบาทไปส่งมอบให้ที่ปากซอยลาดพร้าว 57 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ตำรวจจึงให้นางสุมาลีทำทีจะนำเงินไปส่งมอบให้ เมื่อถึงเวลานัดนายวินัย นัยสำราญ อายุ 42 ปี และนายธีรธัช เสี้ยวทอง อายุ 40 ปี ขับรถยนต์มิตซูบิชิ สีน้ำเงิน ทะเบียน ฐม 9543 กรุงเทพมหานคร เข้ามายังจุดนัดหมาย ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุม

จากการตรวจค้นในตัวพบวิทยุสื่อสารและโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และบัตรประจำตัวผู้ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ บัตรเจ้าหน้าที่พิเศษปฏิบัติการเส้นเขตแดนสากล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จึงยึดไว้เป็นของกลางและควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปที่กองปราบปรามเพื่อสอบสวนขยายผล โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหาดำเนินคดีฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่และพยายามกรรโชกทรัพย์

ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออยู่ระหว่างขยายผลติดตามจับกุมตัว โดยตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้ง หากผู้เสียหายรายใดถูกกระทำในลักษณะดังกล่าวสามารถเข้าชี้ตัวได้ที่กองปราบปราม