ประหารชีวิตสาวเมืองพิจิตรร่วมแก๊งขนยาบ้า

"ศาลเชื่อพยานมีน้ำหนัก คดียาบ้า 60´000 เม็ด"


ร่วมขบวนการแก๊งขนยาบ้า 60,000 เม็ด ศาลไม่ปรานี เชื่อพยานโจทก์มีน้ำหนัก แม้ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยมีส่วนในขบวนการยานรก

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 1 ก.พ. 50 ศาลมีคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางนิลักษณ์ หรือฟ้า ขาวเอี่ยม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169/2 หมู่11 ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เป็นจำเลย ในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2545 จำเลยร่วมกับ น.ส.เหมือน จวบกระโทก ,น.ส.นิตยา พาพัด และน.ส.พัชรา เพิ่มพูน ซึ่งถูกแยกฟ้องดำเนินคดีไปแล้ว และนายเนรมิตร จันทร์เลิศฟ้า กับนายลพ นาคเอี่ยม ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี มียาบ้าจำนวน 60,000 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เหตุเกิดที่ อ.เมืองนครสวรรค์ และ อ.ขาณุวรลักษณบุรี จ.กำแพงเพชร ต่อเนื่องกัน ขอให้ลงโทษจำเลย ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522

"ให้การปฏิเสธอ้าง ถูกกลั่นแกล้ง"


ชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2545 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ทราบข่าวจากสายลับว่า จะมีการลักลอบขนยาบ้ามาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อนำเข้าไปจำหน่ายใน กรุงเทพฯ ทางรถโดยสารประจำทาง จึงวางแผนตั้งด่านตรวจบริเวณด่านตรวจสลกบาตร อ.ขาณุวรลักษณบุรี จ.กำแพงเพชร และพบยาบ้าจำนวน 60,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสัมภาระของ น.ส.เหมือน น.ส.นิตยา และน.ส.พัชรา จากการสอบสวนขยายผลพบว่า

จำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการด้วยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ติดต่อให้ นายลพ ขับรถพาผู้ต้องหาทั้งสามไปรับยาบ้าที่ จ.ตาก และเป็นคนโทรศัพท์ติดต่อการขนยาบ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 394/25 หมู่ 10 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งเป็นบ้านพักของนางนิลักษณ์ จำเลย และนายเนรมิตร จันทร์เลิศฟ้า สามี พบยาบ้าและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต แต่จำเลยไหวตัวหลบหนีไปเสียก่อน ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนางนิลักษณ์ ได้ที่ตลาดนัดคลองถม 2 หมู่ 10 ต.นครสวรรค์ตก อ. เมืองนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2549 น.ส.นิลักษณ์ ให้การปฏิเสธ อ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง

"ให้ประหารชีวิตและริบของกลาง"


ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า โจทก์มี น.ส.เหมือน เบิกความว่า ได้รับการว่าจ้างจากขบวนการค้ายาเสพติด ให้ขนยาบ้าจำนวน 5,000 บาท โดยจำเลย ติดต่อบุคคลต่างๆ ในขบวนการ นอกจากนี้คำเบิกความของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ยังสอดคล้องกับคำให้การของพยาน ซึ่งยากที่จะปรุงแต่งให้เรื่องตรงกัน ซึ่งแม้จะไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าจำเลยมีส่วนในการจ้างวาน

แต่คำเบิกความของพยานที่ระบุว่า เห็นจำเลยเป็นผู้บรรจุเงินสด เพื่อนำไปซื้อยาบ้าก่อนการเดินทางไป จ.ตากนั้น ทำให้เชื่อว่าจำเลยมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด พยานโจทก์จึงรับฟังโดยปราศจากข้อสงสัย ข้อต่อสู้ของจำเลยจึงไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ ให้พิพากษาประหารชีวิต และริบของกลาง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์